'สหยูเนี่ยน' ลุยลงทุนธุรกิจรพ.ในกรุงเทพ-ซื้อรร.ในเชียงใหม่

บอร์ดสหยูเนี่ยน ไฟเขียวเข้าซื้อหุ้น "เค พีเอ็น เฮลท์แคร์" สัดส่วน 25% หรือ 400 ล้านบาท พร้อมขยายธุรกิจเข้าซื้อกิจการโรงแรมในเชียงใหม่ มูลค่า 1,650 ล้านบาท หวังผลตอบแทนระยะยาว

บริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) หรือ SUC แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2560 มีมติอนุมัติการลงทุนซื้อหุ้นในธุรกิจบริการด้านสุขภาพและรายการสัญญาซื้อขายโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจโรงแรม ในจังหวัดเชียงใหม่ คาดหวังผลตอบแทนระยะยาว

บริษัทจะเข้าซื้อหุ้นบริษัท เค พีเอ็น เฮลท์แคร์ จำกัด (มหาชน) หรือ KPNHC ซึ่งไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัทฯ หรือผู้บริหารและบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวน 25% หรือ 400 ล้านบาท ในราคาตามมูลค่าหุ้นละ 10 บาท โดยทยอยชำระค่าหุ้นเป็น 4 งวด คาดว่าจะชำระเต็มจำนวนในปี 2563 โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนที่มีสภาพคล่องของบริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มทำรายการภายในเดือนพ.ย.2560

KPNHC ประกอบกิจการโรงพยาบาล สถานพยาบาลรับรักษาคนไข้ให้บริการด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง ตั้งอยู่ที่ถนนรัชดาภิเษก-รามอินทรา กรุงเทพฯ ในขณะนี้เป็นช่วงกำลังจะเริ่มโครงการ ซึ่งต้องใช้เวลาก่อสร้าง จัดหาเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง จำนวนเงินลงทุนโครงการประมาณ 4,000 ล้านบาท ทุนจดทะเบียนรวม 1,600 ล้านบาท

สำหรับผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้่นคือผลตอบแทนระยะยาวในธุรกิจบริการ ซึ่งแนวโน้มทางสังคมให้ความสำคัญด้านสุขภาพ รวมทั้งมีการลงทุนจากส่วนของกระแสเงินสดที่มีสภาพคล่องส่วนเกินให้เกิดผลตอบแทนมากขึ้น

นอกจากนี้เข้าทำสัญญาซื้อขายโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจโรงแรมที่จังหวัดเชียงใหม่ มูลค่า 1,650 ล้านบาท ซึ่งผู้ขายไม่ไม่มีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ และผู้เกี่ยวข้อง โดยผู้ซื้อจะเป็นบริษัทฯ หรือบริษัทย่อยถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 91% ซึ่งจะแบ่งชำระเงินเป็น 2 ครั้งๆ แรก 10% ในวันลงนามสัญญาจะซื้อจะขายและชำระเงินที่เหลือ 90% ในวันรับโอนกรรมสิทธิ์ โดยใช้แหล่งเงินจากกระแสเงินสดสภาพคล่องส่วนเกิน 90% และกู้สถาบันการเงิน 10% ซึ่งไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อสิทธิผู้ถือหุ้น

บริษัทคาดว่าจะทำรายการแล้วเสร็จภานใน 45 วัน นับจากวันที่คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติรายการและขึ้นอยู่กับผลการทำ due diligence โดยการลงทุนครั้งนี้เป็นการขยายธุรกิจ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวในอนาคต ซึ่งคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาข้อมูลรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการลงทุนทีเกี่ยวข้องแล้ว เห็นว่าเป็นการขยายธุรกิจของบริษัทฯ และเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น