ก.ล.ต.ไทย ลงนาม MOU กับ ก.ล.ต.เมียนมา ร่วมมือพัฒนาตลาดทุนเมียนมา

19 ต.ค. 2560 | 08:16 น.
 

ก.ล.ต.ไทย ลงนาม MOU กับ ก.ล.ต.เมียนมา สร้างความร่วมมือพัฒนาตลาดทุนเมียนมา ปูทางสู่การเชื่อมโยงตลาดทุนระหว่างกัน

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2560 นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และนายหม่อง หม่อง วิน ประธาน Securities and Exchange Commission of Myanmar หรือ ก.ล.ต. เมียนมาได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ซึ่งครอบคลุมการให้ความร่วมมือด้านการพัฒนาตลาดทุนเมียนมา ผ่านการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ และการพัฒนาบุคลากรในตลาดทุนของเมียนมา รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการตรวจสอบและกำกับดูแลตลาดทุน

โดยถือเป็น MOU ฉบับแรกที่ ก.ล.ต. เมียนมา ลงนามกับหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนในภูมิภาคอาเซียน ตอกย้ำความสัมพันธ์อันดีระหว่างสององค์กรนับตั้งแต่ ก.ล.ต. เมียนมาจัดตั้งขึ้นในปี 2557

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวว่า “MOU ระหว่างไทยและเมียนมา ถือเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมืออย่างเป็นทางการของทั้งสององค์กร โดยเมียนมาเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) สูงอย่างต่อเนื่องในระดับ 8% ต่อปี และมีกิจการที่มีโอกาสใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้จำนวนมาก การมีตลาดทุนที่แข็งแกร่งจะส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเมียนมาให้ก้าวกระโดดได้  ซึ่ง ก.ล.ต. รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และภาคเอกชนในตลาดทุนไทย พร้อมที่จะให้ความร่วมมือด้านการพัฒนาตลาดทุนเมียนมา เพื่อการพัฒนามาตรฐานให้เทียบเท่าสากล และปูทางไปสู่โอกาสในการระดมทุนและลงทุนข้ามพรมแดนเพื่อประโยชน์ร่วมกันในอนาคต”

อ๊ายยยขายของ-7-1 นายหม่อง หม่อง วิน ประธาน ก.ล.ต.เมียนมา กล่าวว่า “การลงนามครั้งนี้ จะทำให้มีความร่วมมือที่ชัดเจนในด้านการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพตลาดทุน โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรระหว่างกัน โดยตลาดทุนเมียนมาจะได้เรียนรู้และปรับใช้แนวทางที่ ก.ล.ต. กำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีประสบการณ์การให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์มาแล้วกว่า 40 ปี”

นอกจากคณะผู้บริหารระดับสูงของ ก.ล.ต. ไทย การเดินทางไปเมียนมาในครั้งนี้ ยังประกอบด้วยกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ซึ่งคณะผู้แทนตลาดทุนไทยได้บรรยายความรู้ด้านการพัฒนาตลาดทุนไทยและพบปะกับผู้บริหารทั้งจากภาครัฐและเอกชนของเมียนมา เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีและโอกาสในความร่วมมือในอนาคต โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวนกว่า 60 คนอีกด้วย e-book