หอการค้าฯเร่งยกมาตรฐานผักผลไม้ไทยหวังขยับขึ้นแท่นผู้ส่งออกอาหารอันดับ10 ของโลก
หอการค้าไทย เร่งยกระดับมาตรฐานผักผลไม้ไทย ให้มีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่น และส่งออกให้กับผู้ซื้อผักผลไม้จากไทย หวังช่วยดันไทยขึ้นแท่นผู้ส่งออกอาหารอันดับ 10 ของโลกใน 5 ปีข้างหน้า ตั้งเป้ารายได้จากการส่งออกอาหารเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านล้านบาท
นายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ ประธานคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมคุณภาพไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้เร่งผลักดันให้ผู้ผลิตสินค้าผักและผลไม้ทำมาตรฐาน ThaiGAP เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และยกระดับมาตรฐานการผลิตให้มีความปลอดภัย ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค รวมทั้งยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ทำให้เกษตรกรมีความสามารถในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น
โดยหอการค้าไทย ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับหน่วยงานทางด้านวิชาการ และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. เพื่อช่วยพัฒนาองค์ความรู้ รวมถึงสนับสนุนงบประมาณ เพื่ออบรมให้เกษตรกรไทย เข้าใจ และยกระดับการผลิตให้มีคุณภาพมาตรฐาน ทำให้สินค้าเกษตรของไทยเป็นที่ต้องการ และได้รับความไว้วางใจ ทำให้ราคา และการจำหน่ายสินค้าเกษตรของไทย ดีอย่างยั่งยืน โดย 3 ปีที่ผ่านมา จากการช่วยพัฒนาระบบการผลิตให้กับผลิต 35 ราย ช่วยเพิ่มมูลค่าการขายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
ด้านนายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า สินค้าเกษตรโดยเฉพาะ ผักและผลไม้ของไทยมีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาดโลกอย่างมาก ทั้งจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ซึ่งจากการเข้าร่วมโครงการยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ ทำให้รายได้เกษตรกร ผู้ผลิตเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว และทำให้มีลูกค้ามากขึ้น
โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา การส่งออกสินค้าในกลุ่มผักและผลไม้ขยายตัวกว่า 8-10% และคาดว่าในปีนี้การส่งออกอาหารของไทยภาพรวม จะมีมูลค่าถึง 1.03 ล้านล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 1.12 ล้านล้านบาทในปีหน้า ตามกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าที่ดีขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว รวมทั้งการเจาะลาดใหม่ๆของไทย เช่นกลุ่ม อาหารฮาลาล และออร์แกนิก และมั่นใจว่า ภายใน 5 ปี หลังจากนี้ ไทยจะเป็นผู้ส่งอออกอาหาร อันดับ 10 ของโลก จากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 14 ของโลก และมีรายได้จากการส่งออกอาหารเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านล้านบาท
นายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ ประธานคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมคุณภาพไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้เร่งผลักดันให้ผู้ผลิตสินค้าผักและผลไม้ทำมาตรฐาน ThaiGAP เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และยกระดับมาตรฐานการผลิตให้มีความปลอดภัย ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค รวมทั้งยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ทำให้เกษตรกรมีความสามารถในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น
โดยหอการค้าไทย ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับหน่วยงานทางด้านวิชาการ และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. เพื่อช่วยพัฒนาองค์ความรู้ รวมถึงสนับสนุนงบประมาณ เพื่ออบรมให้เกษตรกรไทย เข้าใจ และยกระดับการผลิตให้มีคุณภาพมาตรฐาน ทำให้สินค้าเกษตรของไทยเป็นที่ต้องการ และได้รับความไว้วางใจ ทำให้ราคา และการจำหน่ายสินค้าเกษตรของไทย ดีอย่างยั่งยืน โดย 3 ปีที่ผ่านมา จากการช่วยพัฒนาระบบการผลิตให้กับผลิต 35 ราย ช่วยเพิ่มมูลค่าการขายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
ด้านนายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า สินค้าเกษตรโดยเฉพาะ ผักและผลไม้ของไทยมีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาดโลกอย่างมาก ทั้งจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ซึ่งจากการเข้าร่วมโครงการยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ ทำให้รายได้เกษตรกร ผู้ผลิตเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว และทำให้มีลูกค้ามากขึ้น
โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา การส่งออกสินค้าในกลุ่มผักและผลไม้ขยายตัวกว่า 8-10% และคาดว่าในปีนี้การส่งออกอาหารของไทยภาพรวม จะมีมูลค่าถึง 1.03 ล้านล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 1.12 ล้านล้านบาทในปีหน้า ตามกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าที่ดีขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว รวมทั้งการเจาะลาดใหม่ๆของไทย เช่นกลุ่ม อาหารฮาลาล และออร์แกนิก และมั่นใจว่า ภายใน 5 ปี หลังจากนี้ ไทยจะเป็นผู้ส่งอออกอาหาร อันดับ 10 ของโลก จากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 14 ของโลก และมีรายได้จากการส่งออกอาหารเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านล้านบาท
