คมนาคมลงนามความร่วมมือระบบตั๋วร่วมเน้นเพิ่มศักยภาพขนส่งมวลชน

18 ต.ค. 2560 | 10:50 น.
กระทรวงคมนาคมจัดพิธีลงนามความร่วมมือเพื่อดำเนินการเชื่อมต่อระบบตั๋วร่วม มุ่งเน้นเพิ่มศักยภาพของระบบขนส่งมวลชน ให้สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

rumm

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือเพื่อดำเนินการเชื่อมต่อระบบตั๋วร่วม ระหว่าง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTS) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) และบันทึกข้อตกลงเข้าดำเนินงานบริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) ระหว่าง รฟม. และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในวันพุธที่ 18 ตุลาคม 2560

rumm2

โดยมี นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวง รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงคมนาคม นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการ สนข. นายฤทธิกา สุภารัตน์ รองผู้ว่าการ รักษาการแทนผู้ว่าการ รฟม. นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BTS นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ BEM เป็นผู้ลงนาม นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารกระทรวงคมนาคม หน่วยงานในสังกัด BTS และ BEM เข้าร่วมพิธีฯ

rumm1

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กล่าวว่า การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เป็นภารกิจสำคัญในการผลักดันให้เกิดการใช้งานระบบตั๋วร่วม ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อเพิ่มความสะดวกด้านการเดินทางให้กับประชาชน กระทรวงคมนาคมได้เริ่มดำเนินการตามแผนการดำเนินงานในปี 2560 เพื่อให้สามารถนำระบบตั๋วร่วมมาใช้ในภาคการขนส่ง โดยเริ่มใช้กับรถไฟฟ้าในเส้นทางที่เปิดให้บริการแล้ว เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก สบายในการใช้บัตรเพียงใบเดียวสามารถเดินทางได้ทุกระบบการขนส่ง ใช้แทนเงินสดในการเดินทางและชำระค่าสินค้า รวมทั้งได้รับสิทธิประโยชน์จากการใช้งานบัตร สนับสนุนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน และแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

rumm4

กระทรวงคมนาคม โดย สนข. ได้ดำเนินการพัฒนาระบบตั๋วร่วม (Common Ticketing System) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 เพื่อจัดทำนโยบาย กำหนดมาตรการ มาตรฐานระบบตั๋วร่วม ดำเนินการจัดหาผู้พัฒนาระบบตั๋วร่วมและจัดทำระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) และการกำกับดูแลการดำเนินงานของผู้พัฒนาระบบ รวมทั้งการดำเนินงานอื่น ๆ ที่สนับสนุนการดำเนินงานระบบตั๋วร่วมให้ประสบความสำเร็จ

ซึ่งคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2560 ได้มีมติมอบให้ รฟม. ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เนื่องจากเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้กระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นเจ้าของระบบและดำเนินโครงการระบบขนส่งทางรางครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลทั้งในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งที่จะเกิดขึ้นในเมืองภูมิภาค เช่น จังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น จึงมีความเหมาะสมและความพร้อมในการดำเนินงานในฐานะหน่วยงานบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เพื่อบูรณาการระบบตั๋วร่วมให้สามารถใช้งานได้กับระบบขนส่งทางรางในปัจจุบัน รวมทั้งอำนวยความสะดวกและให้สิทธิประโยชน์แก่ประชาชนในการพกบัตรเพียงใบเดียว สามารถเดินทางด้วยระบบขนส่งทางรางได้ด้วยความสะดวก

rumm5

การลงนามในบันทึกความเข้าใจแสดงความร่วมมือเพื่อดำเนินการเชื่อมต่อระบบตั๋วร่วมระหว่าง รฟม. BTS และ BEM และบันทึกข้อตกลงเข้าดำเนินงานบริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลางระหว่าง รฟม. และ สนข. เป็นการเริ่มต้นเชื่อมต่อระบบตั๋วร่วมสำหรับรถไฟฟ้า 3 สาย ได้แก่ สายสีเขียว สีน้ำเงิน และสีม่วง โดย รฟม. ในฐานะหน่วยงานบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม BTS และ BEM ซึ่งเป็นผู้ประกอบการระบบขนส่งมวลชนภาคเอกชนหลัก ได้ร่วมกันเชื่อมต่อระบบตั๋วร่วมให้สามารถใช้งานได้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์การแสดงความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการภาคขนส่ง ภาครัฐ และเอกชนในการผลักดันการใช้งานระบบตั๋วร่วม

rumm6

ซึ่งจะส่งเสริม ผลักดัน และประสานความร่วมมือในการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล เพื่อเชื่อมต่อระบบและให้บริการระบบตั๋วร่วมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถเริ่มต้นการใช้งานระบบตั๋วร่วมได้ตามแผนที่กำหนดไว้ ประชาชนจะสามารถเริ่มใช้ระบบตั๋วร่วมในการเดินทางในระบบที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง และสายสีแดง ภายในกลางปี 2561 สำหรับรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างจะสามารถใช้ระบบตั๋วร่วมได้ทันที ภายหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการ

e-book