รอบวิ่งใหม่ของจีน ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์

21 ต.ค. 2560 | 01:00 น.
MP23-3306-C การเมืองจีน เป็นประเด็นให้ตลาดต้องหยุดและให้ความสนใจอีกครั้ง เมื่อการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ครั้งที่ 19 ได้เริ่มขึ้น

การประชุมนี้มีขึ้นทุก 5 ปี และในทุกครั้งก็มีประเด็นให้เราจับกระแสการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของประเทศจีนทั้งในด้านการเมืองและเศรษฐกิจอยู่เสมอ แม้ในครั้งนี้ทั้งตลาดจะเห็นไปในทางเดียวกันว่า คงไม่ หวังว่าจะมีการเปลี่ยนผู้นำหรือขยับขั้วอำนาจทางการเมือง เนื่องจากวาระการเป็นผู้นำของ สี จิ้น ผิงยังคงเหลืออยู่อีกสมัยและมีโอกาสที่จะอยู่ยาวได้มากกว่านั้น แต่ในเรื่องเศรษฐกิจและตลาดทุนถือว่ายังน่าสนใจ เพราะทั้งโลกกำลังจะได้เห็นว่าวิสัยทัศน์“Chinese Dream” หรือ “ความฝันของจีน” จะนำพาเศรษฐกิจจีนไป เป็นประเทศที่คนจีนภาคภูมิใจและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้ได้อย่างไร

ผมเชื่อว่าการออกตัวของจีนรอบนี้จะมีผลกับเศรษฐกิจและตลาดทุนไม่น้อยไปกว่าทุกครั้ง และมองครั้งนี้เหมือนนักวิ่งที่กำลังเปลี่ยนสไตล์ ด้วยความที่จีนมีความคิดสร้างสรรค์ในการตั้งชื่อนโยบายเป็นตัวเลข ผมขอนับถอยหลังด้วยชื่อนโยบายของจีนที่น่าสนใจดังนี้ครับ

“Five” in one overall arrangement ตั้งเป้าเรื่องการสร้างสิ่งสำคัญ “ห้า” อย่างในจีน โดยจะเน้นไป ที่ เศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สังคม และอารยธรรม คาดกันว่าน่าจะเป็นหนึ่งในนโยบายที่เรียกว่า “ความคิดของสีจิ้นผิง” ที่กำลังจะถูกเขียนลงไปในรัฐธรรมนูญของจีน การลงทุนพัฒนาทุกด้านดังกล่าวจะมีขึ้นให้เห็นทุกด้านในอนาคตแน่นอน

“Four” comprehensives ครอบคลุมการเมือง “สี่” ด้าน แม้จะมีการเมืองจะมีพรรคเดียว จีนก็ต้องการให้พรรคถูกกำกับ ประเทศถูกปกครองด้วยกฎหมาย สร้างสังคมที่มั่งคั่ง และสร้างการปฏิรูปอย่างยั่งยืน ซึ่งในตลาดคาดกันเอาไว้ว่าจะมีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในไม่ช้า

“Three” horses การเปิดเสรีการค้าและการลงทุน ปรับอัตราแลกเปลี่ยนไปตามกลไกตลาด และการเปิดเสรีบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้าย คือ“สาม” ม้าศึกทางการเงินของจีนที่จะไม่หันหลังกลับมาปิดประเทศป้องกันตัวอีกต่อไป แต่จะวิ่งแข่งกับประเทศใหญ่อื่นในสนามการค้าเสรีแน่นอน ไม่แปลกที่ล่าสุด นายโจวเสี่ยวชวน ประธานธนาคารกลางจีน ออกมายํ้าอีกครั้งว่าเป้าหมายของพีอีโอซีคือการปล่อยเงินหยวนให้เป็นไปตามกระแสการเงินโลกให้มากที่สุด

“Two” Centennial การเติบโตในอนาคตจีนตั้งเป้าไว้ “สอง” รอบใหญ่คือ ในปี 2021 ตั้งเป้าให้ GDP ขึ้นมาถึง 10,000 ดอลลาร์ต่อคน ขณะที่ในปี 2049 (หรืออีกประมาณ 30 ปีข้างหน้า) จีนต้องการเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและประชาชนมีความรํ่ารวย ซึ่งถ้านับจากปัจจุบันการเติบโตเพียง 5% ต่อปีก็สามารถทำให้จีนไปถึงเป้าหมายทั้งคู่นั้นได้
“One”-belt one-road “หนึ่ง” เส้นทางสายไหมที่มีไว้เพื่อดันการลงทุนในภูมิภาคเอเชียจะยังคงเป็นความหวังสูงสุดของจีน ถ้าปัญหาการเมืองระหว่างประเทศลดลง และไม่มีปัญหาเรื่องความไม่ไว้ใจกันของเพื่อนบ้านมาขัด ก็เชื่อแน่ว่าเส้นทางการลงทุนนี้จะเกิดขึ้นเต็มสูบในอนาคตอันใกล้

“ปัง” และออกตัว

ผมมองว่านโยบายทั้งหมดเปรียบเหมือนกับการเปลี่ยนระยะวิ่งจากที่เคยสพรินต์ 400 เมตรที่สามารถเร่งความเร็วได้ตลอดช่วง มาเป็น 800 เมตรที่ต้องอาศัยการถนอมและเกลี่ยกำลัง เพื่อเพิ่มความทนทานเหมือนการวิ่งระยะไกล

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3 หรือตีความได้ว่าการลงทุนและตลาดทุนของจีนจะเติบโตถึงเป้าแบบช้าลงแต่ “แน่นอน” โดยไม่ต้อง “เร่ง” เหมือนก่อน
งบลงทุนอาจไม่ลดลง แต่เงินอาจถูกกระจายไปสู่เรื่องสิ่งแวดล้อมและสวัสดิการมากขึ้น ภาคการเงินอาจมีเสรีให้ต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจง่ายขึ้น แต่ก็จะถูกควบคุมเข้มข้นขึ้นเช่นกัน เศรษฐกิจจีนอาจยังเติบโตเด่นกว่าประเทศใหญ่อื่นๆ แต่ขนาดของการเติบโตก็มีแนวโน้มที่จะลดลงในอนาคตแน่นอน ยุคใหม่ของจีนจะเริ่มตั้งแต่การประชุมครั้งนี้เป็นต้นไป และจะเริ่มเห็นทุกอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ธันวาคมปีนี้ในการประชุมผู้ทำงานด้านเศรษฐกิจ และการประชุมสภาของจีนในมีนาคมปีหน้า

ทั้งหมดนี้คือรอบและสไตล์การวิ่งใหม่ของจีน แม้เราอาจยังนับตามนโยบายอันมากมายของจีนไม่ทัน แต่อย่าลืมออกตัวและปรับตัวไปพร้อมกับการเคลื่อนตัวของจีนในครั้งนี้นะครับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,306 วันที่ 19 - 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560
e-book