60ปีอีซูซุ ภายใต้ร่มพระบารมี
60 ปีของกลุ่มธุรกิจอีซูซุในประเทศไทย ที่ดำเนินกิจการด้วยความจริงใจ และมุ่งมั่นสร้างความพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ภายใต้วิสัยทัศน์ “ผู้ใช้สุขใจ เพิ่มพูนรายได้ ช่วยให้สังคมพัฒนา”
จากความสำเร็จและการยอมรับของผู้บริโภคชาวไทย กลุ่มอีซูซุยังได้น้อมนำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชฯ มาปรับใช้กับธุรกิจ จนปัจจุบันสร้างเป็นประชาคมขนาดใหญ่ที่มีความเข้มแข็ง
มองเรื่องราวนี้ผ่าน “ปนัดดา เจณณวาสิน” กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
[caption id="attachment_220688" align="aligncenter" width="404"]
ปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด[/caption]
**ภาพความประทับใจ
ปนัดดา กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ คือ พระมหากษัตริย์ผู้มีอัจฉริยภาพที่สุดในโลก พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถรอบด้านทั้งการปกครอง วิศวกรรม เกษตรกรรม ปรัชญา ดนตรี ศิลปะ กีฬา ฯลฯ ซึ่งยากที่จะหาคุณสมบัติทั้งหมดในบุคคลคนเดียวได้ พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติยาวนานถึง 70 ปี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นต่อพสกนิกรชาวไทย และเป็นศูนย์รวมใจคนไทยทั้งชาติ
ภาพที่คุ้นตาดิฉันตั้งแต่จำความได้คือ ภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงชุดทหารและลงจากเฮลิคอป เตอร์เสด็จพระราชดำเนินบุกป่าฝ่าดงไปพบปะผู้คนในถิ่นทุรกันดาร ทำให้ดิฉันเข้าใจว่านี่คือหน้าที่ของพระราชา ซึ่งแตกต่างจากพระราชาในนิทานที่ดิฉันเคยอ่านซึ่งจะอยู่ในพระราชวังอันสวยงามแวดล้อมไปด้วยเกียรติยศ ทรัพย์สินอันมีค่ามากมาย
**มีโอกาสเข้าเฝ้าฯถึง5ครั้ง
ดิฉันโชคดีที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯพระองค์ท่านถึง 5 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พระองค์ท่านเสด็จฯพร้อมสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นับเป็นครั้งส่วนตัวในฐานะที่เป็นนักศึกษา อีก 4 ครั้งเป็นการเข้าเฝ้าฯ ในด้านหน้าที่การงานของบริษัทตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และกลุ่มอีซูซุในโอกาสพิเศษต่างๆ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายเงินสด หรือน้อมเกล้าฯ ถวายรถยนต์อีซูซุรุ่นต่างๆสำหรับกิจกรรมในโครงการตามพระราชดำริ
ครั้งสุดท้ายที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าคือปี 2550 ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 50 ปี ของการดำเนินธุรกิจอีซูซุในประเทศไทย เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายเงินสดจำนวน50 ล้านบาท ในหลวงรัชกาลที่ 9 มีรับสั่งผ่านเจ้าหน้าที่มาว่า มีพระราชประสงค์ รถอีซูซุ มิว-เซเว่น จำนวน 10 คัน ตรีเพชรอีซูซุก็แจ้งกลับไปว่าจะน้อมเกล้าฯ ถวายรถอีซูซุ มิว-เซเว่น จำนวน 10 คัน มูลค่าประมาณ 12 ล้านบาทพร้อมกับทูลเกล้าฯ ถวายเงินสด 50 ล้านบาทด้วย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯทรงมีรับสั่งว่าให้หักเงินค่ารถอีซูซุ มิว-เซเว่น จำนวน 10 คันออกจากเงิน 50 ล้านบาท ไม่ต้องการรับเพิ่มแต่อย่างใดพวกเราทุกคนทราบดีว่า พระองค์ท่านทรงสอนให้เรารู้จักพอเพียง และพระองค์ท่านก็เป็นแบบอย่างให้พวกเราได้ตระหนักถึงความพอเพียงของพระองค์ท่านเช่นกัน
เมื่อพระองค์ท่านได้เสด็จพระราชดำเนินมาพบคณะอีซูซุที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระองค์ท่านทรงมีรับสั่งกับดิฉันว่า คนญี่ปุ่นที่มานี้พูดภาษาไทย ได้ไหม ดิฉันก็ตอบว่าพูดได้พระพุทธเจ้าข้า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็ตรัสว่าเช่นนั้นเรามาพูดภาษาไทยกันดีกว่า จะพูดภาษาอังกฤษกันทำไม และทรงถามด้วยว่า พวกเขารู้จักคุณทองแดงไหม เมื่อดิฉันตอบว่า รู้จัก พระองค์ท่านก็ทรงพระกรุณาเล่าเรื่องของคุณทองแดงและครอบครัวให้พวกเราฟังด้วยสีพระพักตร์เต็มไปด้วยความสุข การเข้าเฝ้าฯครั้งนั้นใช้เวลานานถึง 45 นาที และเป็นการเข้าเฝ้าฯ ของกลุ่มอีซูซุเพียงกลุ่มเดียวด้วย
หลังจากนั้นไม่นานพระองค์ท่านก็เสด็จฯไปประทับที่โรงพยาบาลศิริราช และกลุ่มอีซูซุก็ไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯพระองค์ท่านอีก จนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2560 ซึ่งเราได้เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ดิฉันได้มีโอกาสจุดเทียนเบื้องหน้าพระบรมโกศด้วย ดิฉันจึงมีความประทับใจในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯอย่างมิอาจบรรยายเป็นตัวอักษรได้
**น้อมนำแนวทางของพระองค์ท่านมาปรับใช้ในการทำงาน
ในหลวงรัชกาลที่ 9 สอนให้พวกเราทุกคนเป็นคนดี คิดถึงประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าส่วนตน และรู้จักความพอเพียงในการดำเนินชีวิต ดิฉันได้น้อมนำแนวพระราชดำริดังกล่าวมาปรับใช้ทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน
โดยกลุ่มอีซูซุมีนโยบายหลักสำคัญประการหนึ่งคือ “การเป็นนิติบุคคลที่ดีของสังคมไทย” เราจึงดำเนินกิจกรรมหลากรูปแบบเพื่อสาธารณประโยชน์ตลอดระยะเวลา 60 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
สำหรับโครงการเพื่อสังคมของกลุ่มอีซูซุที่เกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้นก็มีมากมาย เช่น การสนับสนุนด้านการเงินหรือรถยนต์ให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนา มูลนิธิพระดาบส มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ โครงการหลวง เป็นต้น
นอกจากนั้นเรายังร่วมกลับกลุ่มเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ในการจัดสร้างภาพยนตร์เทิดพระเกียรติเพื่อเผยแพร่แนวพระราชดำริเกี่ยวกับความพอเพียงติดต่อกันมาเป็นเวลา 11 ปี โดยทำเป็นภาพยนตร์สั้น 16 ชุดฉายที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ทั่วประเทศก่อนเพลงสรรเสริญพระบารมี เพราะโรงภาพยนตร์เป็นที่รวมของผู้คนทุกเพศทุกวัยทำให้การเผยแพร่แนวพระราชดำริดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
**อีซูซุให้นํ้าเพื่อชีวิต
ปนัดดา กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯทรงให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาเรื่องนํ้า กลุ่มอีซูซุ จึงได้ริเริ่มโครงการ “อีซูซุให้นํ้า...เพื่อชีวิต” ขึ้นในปี 2555 เนื่องในโอกาสครบรอบ 55 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยเราได้ร่วมกับกรมทรัพยากรนํ้าบาดาล กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแก้ไขปัญหาการขาดแคลนนํ้าดื่มสะอาดให้แก่โรงเรียนต่างๆ
โดยการสร้างอาคารพร้อมระบบผลิต นํ้าดื่มสะอาด และหอพักนํ้ารวมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้ถูกสุขลักษณะ จนถึงขณะนี้เราได้ทำโครงการ “อีซูซุให้นํ้า...เพื่อชีวิต” ให้แก่โรงเรียนในจังหวัดต่างๆ แล้ว 27 แห่ง และมุ่งมั่นจะดำเนินโครงการนี้ต่อไปจนกว่าจะไม่มีโรงเรียนที่ประสบปัญหาการขาดแคลนนํ้าดื่มสะอาดเหลืออยู่อีกในประเทศไทย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,306 วันที่ 19 - 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560
จากความสำเร็จและการยอมรับของผู้บริโภคชาวไทย กลุ่มอีซูซุยังได้น้อมนำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชฯ มาปรับใช้กับธุรกิจ จนปัจจุบันสร้างเป็นประชาคมขนาดใหญ่ที่มีความเข้มแข็ง
มองเรื่องราวนี้ผ่าน “ปนัดดา เจณณวาสิน” กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
[caption id="attachment_220688" align="aligncenter" width="404"]
**ภาพความประทับใจ
ปนัดดา กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ คือ พระมหากษัตริย์ผู้มีอัจฉริยภาพที่สุดในโลก พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถรอบด้านทั้งการปกครอง วิศวกรรม เกษตรกรรม ปรัชญา ดนตรี ศิลปะ กีฬา ฯลฯ ซึ่งยากที่จะหาคุณสมบัติทั้งหมดในบุคคลคนเดียวได้ พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติยาวนานถึง 70 ปี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นต่อพสกนิกรชาวไทย และเป็นศูนย์รวมใจคนไทยทั้งชาติ
ภาพที่คุ้นตาดิฉันตั้งแต่จำความได้คือ ภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงชุดทหารและลงจากเฮลิคอป เตอร์เสด็จพระราชดำเนินบุกป่าฝ่าดงไปพบปะผู้คนในถิ่นทุรกันดาร ทำให้ดิฉันเข้าใจว่านี่คือหน้าที่ของพระราชา ซึ่งแตกต่างจากพระราชาในนิทานที่ดิฉันเคยอ่านซึ่งจะอยู่ในพระราชวังอันสวยงามแวดล้อมไปด้วยเกียรติยศ ทรัพย์สินอันมีค่ามากมาย
**มีโอกาสเข้าเฝ้าฯถึง5ครั้ง
ดิฉันโชคดีที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯพระองค์ท่านถึง 5 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พระองค์ท่านเสด็จฯพร้อมสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นับเป็นครั้งส่วนตัวในฐานะที่เป็นนักศึกษา อีก 4 ครั้งเป็นการเข้าเฝ้าฯ ในด้านหน้าที่การงานของบริษัทตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และกลุ่มอีซูซุในโอกาสพิเศษต่างๆ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายเงินสด หรือน้อมเกล้าฯ ถวายรถยนต์อีซูซุรุ่นต่างๆสำหรับกิจกรรมในโครงการตามพระราชดำริ
ครั้งสุดท้ายที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าคือปี 2550 ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 50 ปี ของการดำเนินธุรกิจอีซูซุในประเทศไทย เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายเงินสดจำนวน50 ล้านบาท ในหลวงรัชกาลที่ 9 มีรับสั่งผ่านเจ้าหน้าที่มาว่า มีพระราชประสงค์ รถอีซูซุ มิว-เซเว่น จำนวน 10 คัน ตรีเพชรอีซูซุก็แจ้งกลับไปว่าจะน้อมเกล้าฯ ถวายรถอีซูซุ มิว-เซเว่น จำนวน 10 คัน มูลค่าประมาณ 12 ล้านบาทพร้อมกับทูลเกล้าฯ ถวายเงินสด 50 ล้านบาทด้วย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯทรงมีรับสั่งว่าให้หักเงินค่ารถอีซูซุ มิว-เซเว่น จำนวน 10 คันออกจากเงิน 50 ล้านบาท ไม่ต้องการรับเพิ่มแต่อย่างใดพวกเราทุกคนทราบดีว่า พระองค์ท่านทรงสอนให้เรารู้จักพอเพียง และพระองค์ท่านก็เป็นแบบอย่างให้พวกเราได้ตระหนักถึงความพอเพียงของพระองค์ท่านเช่นกัน
เมื่อพระองค์ท่านได้เสด็จพระราชดำเนินมาพบคณะอีซูซุที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระองค์ท่านทรงมีรับสั่งกับดิฉันว่า คนญี่ปุ่นที่มานี้พูดภาษาไทย ได้ไหม ดิฉันก็ตอบว่าพูดได้พระพุทธเจ้าข้า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็ตรัสว่าเช่นนั้นเรามาพูดภาษาไทยกันดีกว่า จะพูดภาษาอังกฤษกันทำไม และทรงถามด้วยว่า พวกเขารู้จักคุณทองแดงไหม เมื่อดิฉันตอบว่า รู้จัก พระองค์ท่านก็ทรงพระกรุณาเล่าเรื่องของคุณทองแดงและครอบครัวให้พวกเราฟังด้วยสีพระพักตร์เต็มไปด้วยความสุข การเข้าเฝ้าฯครั้งนั้นใช้เวลานานถึง 45 นาที และเป็นการเข้าเฝ้าฯ ของกลุ่มอีซูซุเพียงกลุ่มเดียวด้วย
หลังจากนั้นไม่นานพระองค์ท่านก็เสด็จฯไปประทับที่โรงพยาบาลศิริราช และกลุ่มอีซูซุก็ไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯพระองค์ท่านอีก จนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2560 ซึ่งเราได้เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ดิฉันได้มีโอกาสจุดเทียนเบื้องหน้าพระบรมโกศด้วย ดิฉันจึงมีความประทับใจในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯอย่างมิอาจบรรยายเป็นตัวอักษรได้
ในหลวงรัชกาลที่ 9 สอนให้พวกเราทุกคนเป็นคนดี คิดถึงประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าส่วนตน และรู้จักความพอเพียงในการดำเนินชีวิต ดิฉันได้น้อมนำแนวพระราชดำริดังกล่าวมาปรับใช้ทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน
โดยกลุ่มอีซูซุมีนโยบายหลักสำคัญประการหนึ่งคือ “การเป็นนิติบุคคลที่ดีของสังคมไทย” เราจึงดำเนินกิจกรรมหลากรูปแบบเพื่อสาธารณประโยชน์ตลอดระยะเวลา 60 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
สำหรับโครงการเพื่อสังคมของกลุ่มอีซูซุที่เกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้นก็มีมากมาย เช่น การสนับสนุนด้านการเงินหรือรถยนต์ให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนา มูลนิธิพระดาบส มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ โครงการหลวง เป็นต้น
นอกจากนั้นเรายังร่วมกลับกลุ่มเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ในการจัดสร้างภาพยนตร์เทิดพระเกียรติเพื่อเผยแพร่แนวพระราชดำริเกี่ยวกับความพอเพียงติดต่อกันมาเป็นเวลา 11 ปี โดยทำเป็นภาพยนตร์สั้น 16 ชุดฉายที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ทั่วประเทศก่อนเพลงสรรเสริญพระบารมี เพราะโรงภาพยนตร์เป็นที่รวมของผู้คนทุกเพศทุกวัยทำให้การเผยแพร่แนวพระราชดำริดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
**อีซูซุให้นํ้าเพื่อชีวิต
ปนัดดา กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯทรงให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาเรื่องนํ้า กลุ่มอีซูซุ จึงได้ริเริ่มโครงการ “อีซูซุให้นํ้า...เพื่อชีวิต” ขึ้นในปี 2555 เนื่องในโอกาสครบรอบ 55 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยเราได้ร่วมกับกรมทรัพยากรนํ้าบาดาล กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแก้ไขปัญหาการขาดแคลนนํ้าดื่มสะอาดให้แก่โรงเรียนต่างๆ
โดยการสร้างอาคารพร้อมระบบผลิต นํ้าดื่มสะอาด และหอพักนํ้ารวมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้ถูกสุขลักษณะ จนถึงขณะนี้เราได้ทำโครงการ “อีซูซุให้นํ้า...เพื่อชีวิต” ให้แก่โรงเรียนในจังหวัดต่างๆ แล้ว 27 แห่ง และมุ่งมั่นจะดำเนินโครงการนี้ต่อไปจนกว่าจะไม่มีโรงเรียนที่ประสบปัญหาการขาดแคลนนํ้าดื่มสะอาดเหลืออยู่อีกในประเทศไทย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,306 วันที่ 19 - 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560
