KTC โชว์กำไรไตรมาส 3 เติบโต 32%

17 ต.ค. 2560 | 11:55 น.
KTC อวดงบไตรมาส 3 กำไรสุทธิ 846 ล้านบาท เติบโต 32.28% จากงวดปีก่อน หนุน 9 เดือนกำไรสุทธิ 2.36 พันล้านบาท กวาดรายได้ 1.4 หมื่นล้านและตามหนี้สูญได้คืนเพิ่ม

บริษัท บัตรกรุงไทย จํากัด (มหาชน) หรือ KTC แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2560 มีกำไรสุทธิ 846.06 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.28 บาท เพิ่มขึ้น 32.28% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 639.61 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.48 บาท

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2560 กำไรสุทธิ 2,365.25 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 9.17 บาท เพิ่มขึ้น 28% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,854.49 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 7.19 บาท

บริษัทชี้แจงว่า งวด 9 เดือนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็นผลจากความสามารถในการสร้างรายได้จากธุรกิจหลักการจัดการค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานได้ดี ตลอดจนประสิทธิภาพในการติดตามหนี้ โดยบริษัทมีรายได้ 14,421 ล้านบาท เติบโตจากรายได้ดอกเบี้ยของบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลท่ี 6% และ 19% ตามลําดับ รวมถึงหนี้สูญได้รับคืนเพิ่มขึ้นที่ 19% และจากรายได้ค่าธรรมเนียม (ไม่รวม ค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) ที่เพิ่ม 11% ส่วนใหญ่มาจากรายได้ส่วนลด ร้านค้า รายได้ค่าธรรมเนียม Interchange และรายได้ค่าธรรมเนียมจากการ เบิกเงินสดล่วงหน้า

ด้านค่าใช้จ่ายการบริหารงานมีจํานวน 5,242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาส่วน ใหญ่เพิ่มจากค่าธรรมเนียมจ่ายท่ีสูงขึ้น 10% จากค่าธรรมเนียมท่ีจ่ายให้แก่ บริษัทภายนอกในการใช้บริการติดตามทวงหนี้และค่าธรรมเนียมจ่าย Interchange ท่ีเพิ่มขึ้น

ขณะที่ค่าใช้จ่ายการตลาด 9 เดือนลดลง 18% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการท่ีบริษัทใช้งบทางการตลาดไม่มากนักเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนการใช้งบการตลาดท่ีมากขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 นี้

สําหรับหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 16% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งจากการตัดหนี้สูญและจากการตั้งสำรองตามการขยายตัวของพอร์ตรวมท่ีเพิ่มขึ้น 10% หรือ 6,487 ล้านบาท (ผลต่างลูกหนี้รวม ณ ไตรมาส 3 ปี 2559 และปี 2560)

บริษัทมีนโยบายท่ีต้องการบริหารต้นทุนเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากต้นทุนที่ยังคงอยู่ต่ำในช่วงนี้ โดยการเพิ่มสัดส่วนเงินกู้ระยะยาวมากขึ้น อีกทั้งมีการออกหุ้นกู้ใหม่ชดเชยหุ้นกู้ที่ครบกําหนดด้วยอายุหุ้นกู้ที่มีระยะยาวมากกว่าเดิมด้วย ประกอบกับมูลค่าพอร์ตลูกหนี้รวมที่เพิ่มขึ้นเป็นผลให้ค่าใช้จ่ายทางการเงินสำหรับงวด 9 เดือน เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา