พระอัจฉริยภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 พระบิดาวงการก่อสร้าง-ที่ปรึกษาไทย

21 ต.ค. 2560 | 02:50 น.
หลายหน่วยงานยังคงยึดมั่นในคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทุกคนพร้อมที่จะนำไปปฏิบัติทั้งกับการบริหารจัดการในองค์กร ในครอบครัว และสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างผาสุก โดยเฉพาะปรัชญาแนวคิดรูปแบบเศรษฐกิจพอเพียงที่เห็นผลลัพธ์กับหลายคนหลายครอบครัวมาแล้ว

**พระอัจฉริยภาพด้านการก่อสร้าง
สำหรับในวงการก่อสร้างที่พระองค์ทรงได้รับสมญานามว่า “พระบิดาแห่งวงการก่อสร้างไทย” ก็ได้สร้างคุณูปการมากมาย ทั้งนี้นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้าง ไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ถ่ายทอดผ่าน “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าสมาคมในฐานะองค์กรที่อยู่ภายใต้พระราชูปถัมภ์ของพระองค์ท่านได้ทำงานอยู่ในสายพระเนตร พระกรรณมาโดยตลอด หลายครั้งที่ผู้บริหารของสมาคมได้ใช้ความรู้ความสามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาต่างๆ พร้อมกับได้ยึดแนวทางการปฏิบัติของพระองค์ท่านในแนวทางการทำเพื่อส่วนรวม จึงได้ถือปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องทั้งเหตุการณ์ในและต่างประเทศ โดยในความสูญเสียครั้งใหญ่หลวงนี้สมาคม ได้ร่วมแสดงความอาลัยพระองค์ท่านในทุกช่องทาง พร้อมกับนำแนวคิดไปปรับใช้ในการบริหารสมาคม และเน้นยํ้าให้สมาชิกตระหนักในการนำไปปฏิบัติด้านการดำเนินธุรกิจทั้งการลงทุนและการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะกรณีรับงานไม่เกินตัว ปฏิบัติตามจรรยาบรรณอย่างเคร่งครัด

MP30-3306-1A เช่นเดียวกับนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการน้อมนำปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ไปปฏิบัติว่าเป็นปรัชญาที่ชี้ถึงแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน องค์กร ไปจนถึงภาครัฐบาล ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อยุคโลกาภิวัตน์ โดยในภาคการปฏิบัติทำให้ซิโน-ไทยเจริญรุ่งเรืองและเติบโตขึ้นด้วยความมั่นคงและยั่งยืน บุคลากรของเราทำงานอย่างมีความสุขและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์เป็นล้นพ้น เราจะยังคงยึดถือและนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านมาปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยการปลูกฝังบุคลากรของเรา ทั้งทางด้านการดำเนินธุรกิจปกติ และทางด้านการใช้ชีวิตส่วนตัว เพื่อให้ทุกคนได้ประสบความสำเร็จในชีวิตตามแนวทางของพระองค์ท่านตลอดไป

ด้านนายสุรศักดิ์ โอสถา นุเคราะห์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้กับการบริหาร นั่นคือจะบริหารความเสี่ยง ไม่รับงานเกินตัว งานนั้นมีความเสี่ยงด้านการเงินหรือลูกค้ารายนั้นมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน องค์ประกอบเหล่านี้ล้วนดำเนินตามปรัชญาของพระองค์ทั้งสิ้น “เราสามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถจากเทิร์นโอเวอร์ทางธุรกิจตั้งแต่เมื่อเข้ามารับหน้าที่ช่วง 8 ปีที่ผ่านมามีมูลค่า 4,000 ล้านบาท ปัจจุบันขยับขึ้นมาอยู่ในระดับหมื่นล้านบาท นั่นหมายถึงว่าแม้จะพอเพียงแต่ก็ยังสามารถเติบโตได้ต่อๆไปนั่นเอง”

**พระอัจฉริยภาพด้านที่ปรึกษา
เช่นเดียวกับบทบาทที่ปรึกษาพระองค์ท่านทรงมีผลงานเป็นที่ประจักษ์หลายโครงการที่ทรงให้คำแนะนำกับผู้ที่เกี่ยว
ข้อง ทั้งนี้พล.ท. สบโชค ศรีสาคร ประธานที่ปรึกษาฯ บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด หนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาโครงการสะพานภูมิพล 1 และภูมิพล 2 ได้น้อมนำปรัชญาคำสอนมาปฏิบัติกับการบริหารงานว่า โดยยึดหลักความมีเหตุผล ความพอเพียง และการมีภูมิคุ้มกันซึ่งหมายถึงการบริหารความเสี่ยง โดยการรับงานแต่ละครั้งจะต้องมีการวิเคราะห์เพื่อไม่ให้เกินศักยภาพของบริษัท ด้วยการรับงานอย่างระมัดระวังจึงส่งผล
ให้กิจการของบริษัท สามารถขยายการเจริญเติบโตมาเป็นบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของประเทศ ปัจจุบันบริษัทก้าวสู่การดำเนินการมากว่า 40 ปี ก็ยังคงปฏิบัติโดยยึดหลักการนี้อย่างต่อเนื่องตลอดมา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,306 วันที่ 19 - 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว