โซนอโศก-เอกมัย ตลาดของคอนโดฯลักชัวรี
เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง เผยข้อมูลตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีทำเลอโศก-เอกมัย จากปี 2555 ถึงไตรมาส 3 ปี 2560 ยังคงมีการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมแล้วมีอุปทานใหม่ทั้งหมด 14,332 หน่วย จาก 48 โครงการ โดยอัตราการเติบโตของคอนโดมิเนียมในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ 67% ต่อปี เฉพาะไตรมาส 1 ถึง ไตรมาส 3 ปีนี้ มีอุปทานใหม่จากผู้ประกอบการคิดเป็น 29% ของอุปทานรวม จำนวน 4,281 หน่วยจาก 17 โครงการ แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังคงมั่นใจในตลาดทำเลนี้
เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนอุปทานโครงการ โดยแบ่งตามประเภทนั้น จากอุปทานรวม 14,332 หน่วย พบว่าโครงการระดับไฮเอนด์มีจำนวนมากสุดถึง 55% ของอุปทานรวมหรือ 7,919 หน่วย ตามด้วยโครงการระดับลักชัวรีจำนวน 4,089 หน่วย และโครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรีจำนวน 2,324 หน่วย
ในด้านสัดส่วนผู้ประกอบการในตลาดระดับลักชัวรี่นั้นจาก 48 โครงการที่ได้เปิดขายตั้งแต่ปี 2555 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2560 ผู้ประกอบการรายใหญ่ให้ความสนใจพัฒนาโครงการจำนวน 9,332 ยูนิต คิดเป็น 65% ในตลาด และผู้ประกอบการรายเล็กให้ความสนใจพัฒนาโครงการจำนวน 5,000 ยูนิต คิดเป็น 35% แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงเชื่อมั่นในการพัฒนาสินค้าระดับลักชัวรีสู่ตลาดทำเลนี้ต่อเนื่อง
สำหรับโครงการเปิดขายในอนาคตอันใกล้ทำเลอโศก-เอกมัย มีทั้งหมด 8 โครงการ ส่วนใหญ่มีที่ตั้งอยู่ในทำเลเอกมัยและทองหล่อ ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ อาทิ โนเบิล ดีเวลอปเมนท์ แสนสิริ สิงห์ เอสเตท MQDC และอนันดา ดีเวลอปเมนท์
ด้านอุปสงค์หรือความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมทำเลอโศก-เอกมัยในปี 2555ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2560 มียอดขายรวมอยู่ที่ 11,218 หน่วย คิดเป็น 75% ของอุปทานรวม โดยตลาดระดับไฮเอนด์มียอดขายคิดเป็น 77% ตลาดระดับลักชัวรี่มียอดขาย 74% และตลาดระดับ ซูเปอร์ลักชัวรีมียอดขายคิดเป็น 74% ตามแต่อุปทานของแต่ละระดับตลาด
โดยที่ราคาคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2560 จากราคาเฉลี่ย 158,800 บาทต่อตร.ม. เป็น 222,944 บาทต่อตร.ม. โดยมีอัตราการเติบโตของของราคาในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ 9% ต่อปี การปรับตัวของราคาเฉลี่ยโดยรวมเป็นไปในทิศทางบวก เว้นแต่ในช่วงปี 2556-2557 ผู้พัฒนาโครงการให้ความสนใจพัฒนาโครงการไฮไรส์ระดับไฮเอนด์มากขึ้น จึงส่งผลให้ราคาปรับตัวเล็กน้อย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,306 วันที่ 19 - 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560
เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนอุปทานโครงการ โดยแบ่งตามประเภทนั้น จากอุปทานรวม 14,332 หน่วย พบว่าโครงการระดับไฮเอนด์มีจำนวนมากสุดถึง 55% ของอุปทานรวมหรือ 7,919 หน่วย ตามด้วยโครงการระดับลักชัวรีจำนวน 4,089 หน่วย และโครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรีจำนวน 2,324 หน่วย
ในด้านสัดส่วนผู้ประกอบการในตลาดระดับลักชัวรี่นั้นจาก 48 โครงการที่ได้เปิดขายตั้งแต่ปี 2555 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2560 ผู้ประกอบการรายใหญ่ให้ความสนใจพัฒนาโครงการจำนวน 9,332 ยูนิต คิดเป็น 65% ในตลาด และผู้ประกอบการรายเล็กให้ความสนใจพัฒนาโครงการจำนวน 5,000 ยูนิต คิดเป็น 35% แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงเชื่อมั่นในการพัฒนาสินค้าระดับลักชัวรีสู่ตลาดทำเลนี้ต่อเนื่อง
ด้านอุปสงค์หรือความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมทำเลอโศก-เอกมัยในปี 2555ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2560 มียอดขายรวมอยู่ที่ 11,218 หน่วย คิดเป็น 75% ของอุปทานรวม โดยตลาดระดับไฮเอนด์มียอดขายคิดเป็น 77% ตลาดระดับลักชัวรี่มียอดขาย 74% และตลาดระดับ ซูเปอร์ลักชัวรีมียอดขายคิดเป็น 74% ตามแต่อุปทานของแต่ละระดับตลาด
โดยที่ราคาคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2560 จากราคาเฉลี่ย 158,800 บาทต่อตร.ม. เป็น 222,944 บาทต่อตร.ม. โดยมีอัตราการเติบโตของของราคาในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ 9% ต่อปี การปรับตัวของราคาเฉลี่ยโดยรวมเป็นไปในทิศทางบวก เว้นแต่ในช่วงปี 2556-2557 ผู้พัฒนาโครงการให้ความสนใจพัฒนาโครงการไฮไรส์ระดับไฮเอนด์มากขึ้น จึงส่งผลให้ราคาปรับตัวเล็กน้อย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,306 วันที่ 19 - 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560
