บิ๊กอสังหาฯปักธงอีอีซี พฤกษาชนศุภาลัยดูดลูกค้าญี่ปุ่น-จีน

21 ต.ค. 2560 | 11:27 น.
แม้ยังมีที่อยู่อาศัยสะสมในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซีพอสมควร โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี แต่บริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่มั่นใจว่า หากนักลงทุนต่างชาติ ทั้งจีน-ญี่ปุ่นลงทุนนิคมอุตสาหกรรมเพิ่ม

นางณัฏฐนันท์ คุณาจิระกุล นายกสมาคมการค้าอสังหา ริมทรัพย์จังหวัดระยองเปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่ามีความเคลื่อน ไหวของบริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่ ซื้อที่ดินรองรับการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ อีอีซี ต่อเนื่องโดยเฉพาะ จังหวัดระยอง ซัพพลายคอนโด มิเนียมล่าสุดเหลือเพียง 500 หน่วย จาก 2,000-3,000 หน่วย ซึ่งระบายไปจำนวนมาก บ้านในเมืองราคาตํ่า และคอนโดมิเนียมราคา 1 ล้านบาทต้นๆ ขายหมดแล้ว ส่วนคอนโดมิเนียมราคาสูง มีปัญหากู้ไม่ผ่านกลุ่มนี้ได้นำกลับมาขายใหม่มีเป้าหมายเป็นต่างชาติ อย่างจีน-ญี่ปุ่นระดับผู้บริหารหรือคนไทยหากต้องการบ้านใกล้แหล่งงาน

เมื่อที่อยู่อาศัยเหลือขายลดลงประกอบกับรัฐบาลประกาศลงทุนโครงสร้างพื้นฐานชัดเจน นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้าพื้นที่ นิคมอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่มีอยู่เดิมเตรียมแผนขยายพื้นที่ ส่งผลให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ค่ายใหญ่เข้ามาซื้อที่ดินพัฒนาบ้านในระยองมากขึ้น

ล่าสุดบริษัท พฤกษา เรียล เอสเตทฯ ซื้อที่ดินติดกับบริษัท ศุภาลัยฯ ทำเลเส้นทางไปอำเภอบ้านค่ายพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหน่วย ส่วนจำนวนหน่วยคาดว่าไม่ตํ่ากว่า 100-200 หน่วย

ส่วนโครงการแนวสูงบริษัท ซี.พี.แลนด์ฯ เตรียมขึ้นโครงการคอนโดมิเนียมในเมืองระยอง บริษัท ออริจิ้น พรอพเพอร์ตี้ฯลงทุนร่วมกับญี่ปุ่นพัฒนาคอนโดมิเนียมและโรงแรมขนาดใหญ่ทำเลวังแก้ว ไปทางอำเภอแกลง หาดแหลมแม่พิมพ์ ขณะที่บริษัทแสนสิริฯ ยังไม่ขยายเพิ่ม ยังคงเปิดขายโครงการเก่า

นางณัฏฐนันท์ ระบุว่า จังหวัดระยอง บ้านเดี่ยวราคา 2-3 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ ในเมือง 1 ล้านบาทกลาง แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาทค่อนข้างขายดี ขณะที่โซนอำเภอปลวกแดง ราคาอยู่ที่ 1 ล้านบาทต้นๆ เงินเดือน ไม่เกิน 20,000 บาทต่อเดือน และกู้ร่วม ซึ่งจะเป็นระดับพนักงาน ส่วนทำเลอำเภอมาบตาพุด ราคาอยู่ที่ 3-4 ล้านบาทต่อหน่วย เน้นขายให้กับกลุ่มผู้บริหาร

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และในฐานะกรรมการบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศุภาลัย พัฒนาโครงการที่จังหวัดระยอง และชลบุรี ก่อนประกาศเขตอีอีซี เมื่ออีอีซีมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น ความต้องการอสังหาฯในพื้นที่ย่อมมากขึ้นตามมา ซึ่งล่าสุดบริษัทวางแผนซื้อที่ดินในจังหวัดชลบุรีเพิ่มขึ้น จากเดิมที่พัฒนาอยู่แล้วทั้งแนวราบแนวสูง อาทิ ทำเลถนนสุขุมวิท เป็นต้น

MP29-3306-A สำหรับ ระยอง บริเวณเส้นบ้านค่าย ตรงไปมาบตาพุด ที่ทราบว่าค่ายพฤกษาซื้อที่ดินพัฒนาติดกับศุภาลัย มองว่า จะช่วยให้คึกคักขึ้น ไม่ได้มองว่าเป็นคู่แข่งขันแต่จะเพิ่มสีสันให้กับพื้นที่มากกว่า

“บริษัทให้ความสนใจโซนภาคตะวันออก และมีแผนขยายโครงการต่อเนื่อง ในจังหวัดชลบุรีและระยอง พฤกษาเข้ามาจะสร้างความคึกคักมากกว่าการแข่งขัน”

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัทลงทุนโครงการในภาคตะวันออก 2 แปลงใหญ่ แปลงแรก โครงการออริจิ้นทำเลตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อำเภอศรีราชา ซึ่งเป็นทั้งคอนโดมิเนียมจำนวน 5 อาคาร และโรงแรม อีกทำเลเป็นโครงการไนท์บริด ติดกับตึกคอมพ์ศรีราชา มูลค่า 2,500 ล้านบาท รองรับผู้บริหารที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมี โรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ รูปแบบสัญญาเช่าใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง

ขณะที่ บริษัท ฮาบิแททวัน จำกัด บริษัทในเครือ บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด พัฒนาโครง การครอสทู พัทยา โอเชี่ยนเฟียร์ โครงการบ้านเดี่ยว ทำเลซอยนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

นายสุริยา สุริยาภิวัฒน์ ผู้จัดการสำนักวิจัย บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าที่ผ่านมาบริษัทเปิดขายคอนโดมิเนียมอยู่แล้วที่จังหวัดชลบุรี แต่ปัจจุบันรอจังหวะลงทุนหากอีอีซีมีการลงทุนเป็นรูปธรรมบริษัทจะลงสนามในพื้นที่ทันทีเช่นเดียวกับ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่ยํ้าว่า หากอีอีซีเริ่มมีนักลงทุนใหม่เข้าพื้นที่บริษัทมีแผนเข้าไปลงทุนเช่นกัน ขณะที่ นายทอมมี่ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คันทรี่กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ซีจีเอช กล่าวว่า มีแผนลงทุนโครงการรีเทล บริเวณสถานีให้บริการ (ปั๊มนํ้ามันปตท. และตลาด เนื้อที่ 80 ไร่ รวมทั้งที่อยู่อาศัย ที่จังหวัดฉะเชิงเทรามูลค่า เกือบ 2,000 ล้านบาท

เช่นเดียวกับ นางสาว นวณัฐ สุขะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มารวย เรียลเอสเตท จำกัด ฉะเชิงเทราที่ยืนยันว่า มีความพร้อมที่จะนำที่ดินกว่า 4,000- 5,000 ไร่ ออกพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรรองรับอีอีซี โดยเน้นบ้านเดี่ยวระดับราคาตั้งแต่ 2.5-5 ล้านบาท ใน 3 จังหวัดประกอบด้วย พัทยา อำเภอศรีราชา บางแสน แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี รองรับเขตนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นแหล่งงานจากแหลมฉบัง เป็นต้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,306 วันที่ 19 - 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว