เติมคนสภาพัฒน์ 88 อัตราทะยานคลังสมองชาติ

17 ต.ค. 2560 | 11:20 น.
ครม.ไฟเขียวเติม 88 อัตราติดปีกสภาพัฒนฯสู่สถาบันคลังสมองรัฐ รับภารกิจขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป

วันนี้ (17 ตุลาคม 2560)  เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  พร้อมด้วยพ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ร่วมกันแถลงว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติอนุมัติ 1.การเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ(คปร.) ในการประชุมครั้งที่ 5/2560 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 ตามที่สำนักงาน ก.พ. ในฐานะกรรมการและเลขานุการร่วมคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐเสนอ

 

2. สศช. เร่งรัดเสนอร่างพระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ฉบับใหม่) ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็ว นอกจากนี้ สศช. ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรคลังสมอง (Excellent Think Tank) ของรัฐบาล ในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และเป็นองค์กรที่มีบุคลากรที่มีศักยภาพสูง และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ให้ สศช. พิจารณาสรรหาบุคลากรจากทุนรัฐบาล เพื่อดึงดูดผู้มีศักยภาพสูงที่กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาภายในประเทศ (Undergraduate Intelligence Scholarship Program : UiS) เข้ามาบรรจุเป็นข้าราชการตามที่ได้รับการอนุมัติอัตรากำลังในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้  สำนักงาน ก.พ. ในฐานะกรรมการและเลขานุการร่วม คปร. รายงานว่า คปร. ในการประชุมครั้งที่ 5/2560 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 ได้พิจารณาคำขอเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ของ สศช. แล้วมีมติอนุมัติเป็นหลักการ สนับสนุนอัตราข้าราชการตั้งใหม่ให้กับ สศช. จำนวน 88 อัตรา (สำหรับข้าราชการตั้งใหม่ระดับปฏิบัติการหรือชำนาญการ) เพื่อปฏิบัติตามภารกิจที่เพิ่มขึ้น เกี่ยวกับการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศตามนโยบายของรัฐบาล โดยให้นำอัตราว่างข้าราชการ จำนวน 1 อัตรา จากสำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมากำหนดเพิ่มใหม่ในจำนวนนี้ด้วย ทั้งนี้ ให้มีผลไม่ก่อนวันที่กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ สศช. ฉบับใหม่มีผลใช้บังคับ และไม่ให้นำอัตราตำแหน่งข้าราชการที่ได้รับจัดสรรจำนวนดังกล่าว ไปยุบเลิกเพื่อปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งเป็นระดับสูงขึ้น