สนามบินพังงา... ปมเด้ง “ชลธิศ สุรัสวดี”

15 ต.ค. 2560 | 09:32 น.
“เชื่อว่า มีความพยายามทำให้ผู้ใหญ่ในกระทรวงเข้าใจตัวผมผิด แต่ผมเชื่อมั่นในศรัทธา เชื่อมั่นในผู้บริหาร แต่ข้อมูลที่ท่านได้รับอาจจะคลาดเคลื่อน ไม่เป็นข้อเท็จจริง จนเป็นเหตุให้ท่านมั่นใจว่า คือ ฝ่ายที่จะทำให้งานกระทรวงสะดุด”

นี่คือ คำกล่าวของ “นายชลธิศ สุรัสวดี” หลังจากทราบมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2560 ให้โอนตัวจากตำแหน่ง “อธิบดีกรมป่าไม้” ไปดำรงตำแหน่ง “ที่ปรึกษาพิเศษ” ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

“ผมเต็มใจทำงาน แม้ไม่ได้ทำงานในกรมป่าไม้แล้ว เพราะเป็นข้าราชการต้องทำงานได้ทุกที่ตามคำสั่ง ยืนยัน เคารพในมติ ครม. ที่ออกมา ตลอดระยะเวลารับราชการกว่า 30 ปี ทำเพื่อประเทศชาติ และไม่มีเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบ” นายชลธิศ กล่าว

แม้ว่า มติ ครม. จะไม่ระบุเหตุผลของการโอนตัว แต่ประเด็นที่ “ชลธิศ” เปิดแถลงข่าววันที่ 5 ต.ค. เจ้าตัวเชื่อว่า ส่วนหนึ่งมาจากประเด็น “สนามบินพังงา” ที่บริษัท การบินกรุงเทพ หรือ บางกอกแอร์เวย์ส ยื่นเรื่องต่อกรมป่าไม้ เพื่อขอใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองทุ่งมะพร้าว ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา รวมพื้นที่ 1,950 ไร่ โดยมีกำหนดใช้พื้นที่ 30 ปี เพื่อสร้างสนามบินเชิงพาณิชย์ให้กับ จ.พังงา

[caption id="attachment_219399" align="aligncenter" width="503"] ชลธิศ สุรัสวดี ชลธิศ สุรัสวดี[/caption]

“ผมมีหนังสือจากกรมป่าไม้ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ว่า บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ขออนุญาตก่อสร้างสนามบินภายในป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองทุ่งมะพร้าว ว่า เอกสารไม่ครบถ้วน ต้องรับฟังความเห็นของชาวบ้าน ว่า มีการคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่หรือไม่ รวมทั้งต้องทำอีไอเอก่อน ซึ่งก็ได้ทำหนังสือไปยังปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อตรวจสอบในกรณีนี้ด้วย จึงถือว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ จะมีอะไรแอบแฝงกับเรื่องนี้เลย ยืนยันว่า ยังอยู่ในขั้นตอนการอนุมัติและการอนุญาตจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งขั้นตอนของการศึกษารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปี”

ประเด็น “สนามบินพังงา” กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา หลังจากหลายภาคส่วนในสังคมออกมาตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการขอใช้พื้นที่ป่าเพื่อสร้างสนามบิน ซึ่งอาจจะสวนทางกับนโยบายรัฐบาลยุค คสช. ที่ต้องการ “ทวงคืนผืนป่า” จนทำให้นักวิชาการ รวมไปถึงบุคคลในกระทรวงทรัพยากรฯ ทั้งปลัดกระทรวง, รัฐมนตรีว่าการ ต้องตอบคำถามเหล่านี้


3-7-2560-9-41-34-2

ลุกลามไปจนถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ “บิ๊กเต่า พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่ต้องตอบคำถามรายวัน

“ผมยืนยันว่า ทุกครั้งที่พบกับท่าน (พล.อ.สุรศักดิ์) ท่านไม่เคยตำหนิอะไร และครั้งสุดท้ายที่พบกัน คือ วันที่ 2 ต.ค. ในวันสถาปนากรมอุทยานฯ ก็ไม่ได้รับสัญญาณอะไร เจอปลัดวิจารย์ สิมาฉายา ท่านก็ไม่ได้พูดอะไร” นายชลธิศ ระบุ


“ฐานเศรษฐกิจ” ได้รับข้อมูลว่า จากกรณีสนามบินพังงาสร้างความหงุดหงิดและไม่พอใจให้กับ “พล.อ.สุรศักดิ์” อย่างมาก เพราะไม่ทราบเรื่องสนามบินพังงามาก่อน แต่กลับต้องมาตอบคำถามจากสื่อมวลชน ซ้ำยังถูกผู้บังคับบัญชาตำหนิ จึงมีการสั่งการให้ปลัดกระทรวงตรวจสอบปมสร้างสนามบินพังงา ว่า ถูกต้องหรือไม่ จนเกิดเป็นรอยร้าวที่เกิดขึ้นระหว่าง “ผู้ใหญ่ในกระทรวง” กับ “ชลธิศ”


1620

เห็นภาพรอยร้าวชัด ๆ ได้จากเมื่อวันที่ 18 ก.ย. วันสถาปนากรมป่าไม้ ครบรอบ 121 ปี ที่กรมป่าไม้ทำหนังสือเชิญทั้งรัฐมนตรีและปลัดกระทรวงมาร่วมงานในวันดังกล่าว แต่ถึงวันงานจริงไม่พบว่า รัฐมนตรีและปลัดกระทรวงมาร่วมงานแต่อย่างใด

นายชลธิศ ยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่มีคนเลื่อยขาเก้าอี้ ที่ผ่านมา ตัวเองได้รับฉายาร่วมกับเพื่อนข้าราชการว่าเป็น “แก๊งเอฟโฟร์” ที่ต่อต้านการทำงานของผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรฯ คือมี นายสากล ฐินะกุล, นายเสริมยศ สมมั่น และนางภาวิณี ปุณณกันต์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกบุคคลบางคนบิดเบือนข้อมูลไปรายงานกับ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทส. ส่วนข้าราชการภายในกรมป่าไม้ก็การันตีได้ว่า ไม่มีปัญหากัน

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01

“มีความพยายามบอกว่า แก๊งนี้แหละ คือ แก๊งที่จะต่อต้าน ยืนยันว่า ไม่มีแก๊งนี้ในกระทรวงทรัพยากรฯ การที่จะพยายามยัดเยียดความเป็นแก๊ง เป็นความพยายามของกลุ่มบุคคล ซึ่งเขาคิดว่า พวกนี้คือ กลุ่มที่ทำงานแล้วขัดนโยบายต่าง ๆ แต่เรียนยืนยันว่า ทุกคนที่เอ่ยนามทำงานเพื่อกระทรวงทั้งนั้น แต่ทั้ง 4 คน รวมทั้งผม ‘โดนย้าย’ เพราะตัวผมเอง หลังจากทุกคนโดนย้ายไปแล้ว ยังมีการพูดหลาย ๆ ครั้ง ว่า ยังไงก็จะเอาเรื่องให้ผมออกจากตำแหน่งให้ได้”

ส่วนเหตุผลในการโอนตัวมานั่งสำนักนายกฯ นายชลธิศ บอกว่า “ผมถามท่านจิระชัย มูลทองโร่ย (อดีตปลัดสำนักนายกฯ) ถึงเหตุผลการโอนตัว ท่านให้ไปถามปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ (นายวิจารย์ สิมาฉายา) ผมก็ไลน์ไปถาม ท่านก็ไม่ตอบอะไร ท่านส่งสติกเกอร์ว่า สู้ ๆ ผมก็เคารพท่าน ไม่เป็นไร ผมก็ไปหาคำตอบเองว่า ผมทำอะไรผิด อาจจะเข้าใจผิด”

รายงาน โดย จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,305 วันที่ 15-18 ต.ค. 2560

e-book