ยานยนต์ทัศน์ | วิถี “เอ็นดูโร"

ยานยนต์ทัศน์ โดย กฤษฎา อุตตโมทย์ ผอ.ฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย | ผมโชคดีที่ได้ทำงานในบริษัทที่ผลิตทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ทำให้ผมได้เห็นทั้งเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทั้ง 2 กลุ่ม ที่มีสีสันไม่แพ้กัน โดยเฉพาะสายมอเตอร์ไซค์นั้น ดูจะมีความเป็นอิสระในการใช้ชีวิต เดินทางท่องเที่ยวกันไปเป็นกลุ่ม ฝ่าสายฝนไปในเส้นทางใหม่ ๆ เพื่อไปยังจุดหมายที่ไกลออกไปหลายพันกิโลเมตรด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพที่มีให้กันตลอดเส้นทาง

นี่คือ วิถีของ “ไบเกอร์” แต่ถ้าจะเรียกให้จำเพาะเจาะจงกว่านั้น ก็คือ กลุ่มนักขี่ในรูปแบบ “เอ็นดูโร” (Enduro) หรือ การขี่มอเตอร์ไซค์ในระยะทางไกล ๆ สมบุกสมบัน ที่มีทั้งถนนลาดยางและเส้นทางออฟโรด




เมื่อต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปร่วมงาน BMW Motorrad GS Trophy Southeast Asia Qualifier 2017 ซึ่งเป็นการแข่งขันมอเตอร์ไซค์เอ็นดูโร เพื่อคัดเลือกตัวแทนประเทศไทยประเภทชาย 1 ท่าน และประเภทหญิง 1 ท่าน เพื่อเข้าสู่การแข่งขันในระดับโลก BMW Motorrad International GS Trophy 2018 ที่ประเทศมองโกเลีย ในปีหน้า

โดยในประเภทชาย ตัวแทนที่ได้รับการคัดเลือกในประเทศไทย จะร่วมกับทีมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประกอบด้วย นักบิดชาวไทย, ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย เข้าทำการแข่งขันกับนักแข่งจากทั่วทุกมุมโลก โดยในรอบคัดเลือกนี้ จัดขึ้นที่คีรีมายา เขาใหญ่ บนสนามที่ปรับสภาพจากทุ่งหญ้าริมชายเขามาเป็นสนามเอ็นดูโรสุดโหด




ผมได้เห็นผู้เข้าแข่งขันต้องใช้ทั้งทักษะในการขับขี่อย่างสูง ความอดทนต่อความเหนื่อยล้าในสนามแข่ง เห็นการลากมอเตอร์ไซค์ที่มีน้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม ออกจากเนินดินที่ไปต่อไม่ได้ เพื่อไปยังจุดที่สามารถยกรถขึ้นมาด้วยตัวเอง แล้วทำการแข่งขันต่อ

ต้องยอมรับว่า เส้นทางนี้ทรหดจริง ๆ สำหรับผู้เข้าแข่งขันทั้งชายและหญิง หลายท่านต้องใช้เวลาหยุดนิ่ง อยู่เฉย ๆ เพื่อใช้เวลาหายใจ หลังจากตรากตรำกับเส้นทางที่ดูจะไม่ไกล แต่เต็มไปด้วยอุปสรรค ดังนั้น การมอง “ไลน์” ที่เหมาะที่สุดและความพร้อมของร่างกายที่จะเก็บแรงไว้ใช้ให้ได้ตลอด 2 วันแห่งการแข่งขัน จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก หาไม่แล้ว นักแข่งหลายคนต้องยกมือขอออกจากการแข่งขันไป เพราะไม่มีแรงจะไปต่ออีกแล้ว




การแข่งขันสุดโหดในครั้งนี้ ทำให้ผมเห็นความเป็นวิถีของชาวเอ็นดูโรได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น กว่าที่เคยเห็นพวกเขาเพียงแค่บนบูธมอเตอร์โชว์ นักขี่ที่เลือกเส้นทางนี้ ยอมรับที่จะละทิ้งความสบายในห้องแอร์ มาสูดกลิ่นไอดินและธรรมชาติรอบตัว

เดินทางกับ “ปี๊บ” หรือที่เก็บสัมภาระข้าง ๆ มอเตอร์ไซค์คันเก่งเพียงไม่กี่ชิ้น และที่สำคัญคือ พวกเขาเหล่านั้นยอมรับที่จะขี่ออกนอกเส้นทางที่แสนจะราบเรียบ ไปยังเส้นทางที่สุดแสนจะขรุขระ เพื่อไปสัมผัสกับสิ่งที่เป็นประสบการณ์ในการเดินทางอันแสนวิเศษ สิ่งเหล่านี้ คือ ความท้าทายที่ทำให้นักขี่เลือกเส้นทางนี้

เมื่อมองย้อนกลับมาที่ตัวเราเอง ผมเชื่อว่า “เสน่ห์” ของการก้าวข้ามความท้าทายและขีดจำกัดของตัวเองนั้น เป็นสิ่งที่เราทุกคนปรารถนา ซึ่งสิ่งสิ่งนี้ทำให้การขับขี่แบบเอ็นดูโรมีความหมาย และมีผู้คนเข้ามาค้นหาวิถีทางของพวกเขามากขึ้นทุก ๆ ปี ไม่ได้จำกัดเฉพาะนักขี่ชาวไทย แต่รวมถึงนักขี่ในชาติอื่น ๆ ด้วย



ดังนั้น ผมจึงอยากขอส่งท้ายบทความนี้ด้วยการแสดงความยินดีกับตัวแทนนักขี่ไทย คุณจักรกริช ถาวงษ์เพีย ซึ่งจะเข้าร่วมกับทีมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อชิงชัยในการแข่งขันรอบ World Final ณ ประเทศมองโกเลีย ในปีหน้า และคุณวันวิสาข์ ภิรมย์ นักขี่หญิงไทยเพียงหนึ่งเดียว ที่จะไปเข้าร่วมในการแข่งขัน International GS Trophy Female Qualifier ระดับนานาชาติ ณ ประเทศแอฟริกาใต้ ในช่วงปลายปีนี้ เพื่อเฟ้นหาตัวแทนทีมหญิงไปเข้าร่วมการแข่งขัน BMW Motorrad International GS Trophy 2018 ณ ประเทศมองโกเลีย เช่นกัน

ผมขอให้ทุกท่านร่วมส่งแรงใจให้ตัวแทนนักขี่ชาวไทยทั้ง 2 ท่านนี้ ประสบความสำเร็จในการแข่งขันบนเวทีระดับโลกด้วยครับ

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,305 วันที่ 15-18 ต.ค. 2560