ก.ท่องเที่ยวเตรียมพร้อมเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นย้ำปี60เร่งรายได้ด้วยท่องเที่ยววิถีไทย

12 ต.ค. 2560 | 08:57 น.
ก.ท่องเที่ยวพร้อมรองรับ นักท่องเที่ยวตลอดเดือนตุลาคม เตรียมเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ย้ำปี 2560 เร่งรายได้ด้วยท่องเที่ยววิถีไทย เน้นปั้นท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) เติบโตระดับภูมิภาค

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงภาพรวมรอบครึ่งปี พบว่า การท่องเที่ยวไทยมีการขยับเพิ่มทั้งรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึง 11 ตุลาคม มีนักท่องเที่ยวสะสม จำนวน 26.9 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้ 1.37 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.6 และ 7.6 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตามลำดับ โดยนักท่องเที่ยวจีน ยังครองแชมป์มาไทยเป็นอันดับหนึ่ง มียอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึง 11 ตุลาคม จำนวน 7.63 ล้านคน

ในช่วงวันชาติจีน ระหว่างวันที่ 1 - 8 ต.ค.2560 ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวจีนออกเดินทางไปท่องเที่ยวและพักผ่อนจำนวนมาก และ นิยมเที่ยวไทยเป็นอันดับ 1 ปรากฏว่า มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมายังประเทศไทย 227,648 คน (เทียบกับปี 2559 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 69.04) ทั้งนี้ก่อให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยว 12,528 ล้านบาท (เทียบกับปี 2559 เพิ่มขึ้นร้อยละ 75.66 )

 

ทั้งนี้ Ctrip .com International คาดว่า ในช่วงวันชาติจีนจะมีชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ 6.15 ล้านคน โดยประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับ 1 ของชาวจีน อันดับ 2 คือญี่ปุ่น และอันดับที่ 3 คือ สิงคโปร์ อันดับที่ 4 คือ สหรัฐอเมริกา และ อันดับที่ 5 คือเวียดนาม

tt3

รมว. ท่องเที่ยว กล่าวย้ำว่า ได้เร่งเตรียมการทุกด้านเพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น โดยย้ำว่าปี 2560 จะเร่งรายได้ด้วยท่องเที่ยววิถีไทย ซึ่งจะมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป และเชื่อมโยงกันกับการกีฬาเดินหน้าควบคู่ไปด้วยการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) สร้างการเติบโตสู่ระดับภูมิภาค ล่าสุดได้ร่วมประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน เพื่อร่วมสร้างวัฒนธรรมกีฬา ให้กลุ่มคนอาเซียนรักและเล่นกีฬา อย่างต่อเนื่อง เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยเฉพาะในทุกกลุ่มคนทุกเพศวัย โดยเป็นการเข้าถึงกีฬาอย่างเท่าเทียม การสร้างเครือข่าย ส่งเสริมกีฬาในกลุ่มผู้หญิงและเด็ก เพื่อให้ประชาชนในประเทศมีสุขภาพที่ดี นำไปสู่ความสันติสุข

-ประชุมกีฬาอาเซียนส่งเสริมร่วมมือระดับภูมิภาค และผนึกความร่วมมือกับญี่ปุ่น
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า ผลการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านกีฬาอาเซียน ครั้งที่ 7ซึ่งมีการประชุมที่ประเทศเมียนมา มีประเด็นสำคัญ คือ การเสนอชื่อภูมิภาคอาเซียนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี ค.ศ. 2034 การจัดกิจกรรมอาเซียน Sports Day การส่งเสริมให้ผู้หญิงและเยาวชนเล่นกีฬามากขึ้น โดยเฉพาะการ Rebranding เปลี่ยนชื่อการแข่งขัน SEA Games เป็น ASEAN Games การส่งเสริมกีฬาพื้นบ้านของอาเซียนในโรงเรียน และชุมชน

ส่วนผลการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียน+ญี่ปุ่น ครั้งที่ 1 โดยญี่ปุ่นได้นำเสนอวิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ และแผนปฏิบัติการความร่วมมือระหว่างอาเซียน และญี่ปุ่น ภายใต้แผนปฏิบัติการอาเซียนด้านกีฬา ปี ค.ศ. 2016-2020 ตามโครงการ Sports for Tomorrow กว่า 900โครงการ โดยมี 95 โครงการที่สนับสนุนกีฬาในประเทศไทย ยกระดับศักยภาพการแข่งขันของอาเซียน เพื่อเตรียมการสู่การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ในปี ค.ศ.2020 อีกทั้งการบูรณาการกับภาคเอกชน ด้วยรูปแบบการสนับสนุนนักกีฬา สร้างเยาวชน และจัดเกมส์แข่งขัน ผลิตสินค้าและบริการที่เป็นประโยชน์ต่อการออกกำลังกาย รวมทั้งส่งเสริมการจัดประชุม สัมมนา ทางด้านกีฬา เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญและมีส่วนร่วม

tt

•เปิดตัวอู่ตะเภาและ ชู Sports Tourism ในไทย ด้วย Air Race 1
นางกอบกาญจน์ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ จากการที่พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมาเพื่อติดตามความพร้อมการเป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน Air Race 1 World Cup Thailand 2017 แข่งขันระหว่างวันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2560 ณ สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา จ.ระยอง

โดยความสำคัญของ Air Race 1 คือที่สุดของการประลองความเร็วในสายมอเตอร์สปอร์ตเสมือนการแข่งขันฟอร์มูล่าวันของเครื่องบิน สุดยอดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่เร็วที่สุดในโลก เร้าใจกับเครื่องบินเข้าแข่งขัน 16 ลำพร้อมกับนักบินชั้นนำของโลก เป็นส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) สร้างการรับรู้ไปทั่วโลก อีกทั้งเป็นการเปิดตัวอู่ตะเภาและ สร้างเมืองกีฬา ภาคตะวันออก

สำหรับผลของการจัดงาน จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์พัทยาให้ชัดเจนในเรื่องการเป็นแหล่งท่องเที่ยวกีฬาสร้างสรรค์ อีกทั้งต้องการให้ผู้คนมาเที่ยวจะไปเชื่อมโยงต่อยังจังหวัดอื่นๆ ด้วยใน คลัสเตอร์ ระยอง จันทบุรี ตราด อีกด้วย สำหรับการแข่งขันครั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขัน รอบตัดสินในวันที่ 19 พฤศจิกายน เวลา 14.00-16.00 น. ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 และสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของการแข่งขันได้ที่ www.airrace1thailand.com

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว