ทำงานกับสิ่งที่ชอบ กับทีมที่ใช่ดันธุรกิจสู่เป้าหมาย

14 ต.ค. 2560 | 00:12 น.
หากพูดถึงนักธุรกิจชื่อ “สุรเกียรติ เทียนทอง” หลายๆ คนคงคุ้นหู พอสมควร เพราะนอกจากนามสกุลของนักการเมืองดัง ที่ทำให้หลายๆ คนต้องสะดุดแล้ว ด้วยชื่อเสียงของเขาคนนี้ ก็เป็นที่รู้จักกันพอสมควร ในแวดวงสื่อโฆษณา และอีเวนต์

“คุณอุ้ม-สุรเกียรติ เทียนทอง” ทายาทนักการเมือง เสนาะ เทียนทอง ซึ่งใช้ชีวิตโลดแล่นอยู่ในแวดวงธุรกิจสื่อ เขาจบทั้งตรีและโท สาขาผู้นำองค์กรและการตลาด มหาวิทยาลัยจอห์นสัน แอนด์ วาเลส เคยผ่านงานบริษัทในเครือซีพี ดูแลการส่งออก เคยเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ให้กับโตโยต้า ภายใต้ชื่อบริษัท โตโยต้าพารากอน จำกัด ย่านรังสิต ก่อนจะผัน ตัวเองสู่ธุรกิจสื่อโฆษณา กับ บริษัท เค เอ เค อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด รับสัมปทานขายโฆษณาบนตั๋วรถไฟ จากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และเขายังทำบริษัท
ออร์แกไนซ์ฯ รวมทั้งจัดอีเวนต์ต่างๆ

[caption id="attachment_218056" align="aligncenter" width="503"] สุรเกียรติ เทียนทอง สุรเกียรติ เทียนทอง[/caption]

ล่าสุด เขาจับมือกับเพื่อนๆ นักธุรกิจรุ่นใหม่ จัดตั้งบริษัท ฮีโร่ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท สร้าง The Marvel Experience: Theme Entertainment Attraction ย่านถนนบางนา-ตราด ได้รับลิขสิทธิ์จาก บริษัท ฮีโร่ เวนเจอร์ฯ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทภายใต้เครือวอลท์ดิสนีย์ สหรัฐอเมริกา ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว และกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2561

“คุณอุ้ม” บอกว่า เขารวมตัวกับเพื่อนนักธุรกิจ 6 คน ลงทุนในธุรกิจใหม่ ที่เขาและ “นพปฎล เจสัน จิรสันติ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม อีกคนหนึ่งเพียงไม่กี่นาที ก็ตกลงจับมือกันลุย

“บริษัท ฮีโร่ เอ็กซ์พีเรียนซ์ฯ เกิดจากการรวมตัวของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในหลายๆ แง่ ของธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ คุณเจสัน มีประสบการณ์ทางด้านเฟสติวัล คอนเสิร์ตระดับโลก และทีวี ของผมก็เหมือนกัน แต่เป็นคอนเสิร์ตในประเทศ และมีสื่อต่างๆ และมีผู้บริหาร อย่างคุณนิติ เนื่องจำนงค์มีประสบการณ์ด้านดูแลทรัพย์สินทางปัญญา และดูแลศิลปิน มากกว่า 15 ปี ทุกคนมีเป้าหมาย เดียวกัน เลยมาร่วมกัน มองว่าตรงนี้เป็น
ธุรกิจที่เราพยายามสร้างขึ้นมาอีกธุรกิจหนึ่ง”

MP26-3304-B การทำงานเป็นทีมครั้งนี้ “คุณอุ้ม” บอกว่า เป็นการลงทุนที่ใช้เงินเยอะ ทุนจดทะเบียน 127.5 ล้านบาท และกำลังจะเพิ่มทุนอีกรอบในเดือนตุลาคมนี้ โปรเจ็กต์นี้เป็นอะไรที่ใหม่ ต้องใช้เวลามากพอสมควร ทั้งการทำความเข้าใจ การจูนให้ทีมแต่ละคนมีความคิด มีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน ก่อนที่จะเริ่มเดินหน้าสร้างและพัฒนาโปรเจ็กต์ ให้เป็นไปตามเป้า และตรงตามโจทย์ของ บริษัท ฮีโร่ เวนเจอร์ฯ ซึ่งไม่ง่ายนัก เพราะฮีโร่แต่ละตัวที่เข้ามารวมอยู่ในธีมพาร์กแห่งนี้ ล้วนมีรายละเอียดยิบย่อย มีเรื่องราวมากมาย โดยจะต้องปรับทุกอย่างให้เข้ากับความเป็นเอเชีย ทำให้คนเอเชียรู้สึกชื่นชอบ นี่คือภารกิจใหญ่ที่พวกเขาต้องทำ

สิ่งที่พวกเขาต้องทำ คือ การเป็นหัวหน้าทีม ที่คุยกับทุกๆ บริษัทที่เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งขณะนี้มีมากกว่า 20 บริษัท ผู้บริหารหนุ่มบอกว่า รายละเอียดของโปรเจ็กต์นี้
เยอะมาก จึงทำให้ต้องมีซีอีโอร่วม เพื่อช่วย
กันคิด ช่วยกันตัดสินใจ

“วิธีการทำงานกับ ฮีโร่ เวนเจอร์ ไม่ยาก แต่รายละเอียดเยอะ คาแรกเตอร์แต่ละตัวก็มีข้อบังคับ ส่วนของ ฮีโร่ เวนเจอร์ เขาค่อนข้างเปิดรับไอเดียของโลคัล เขาเข้าใจว่าแต่ละพื้นที่ความชอบ วัฒนธรรมไม่เหมือนกัน คอนเทนต์ ก็ต้องปรับให้สอดคล้องกับความชอบของคนในพื้นที่ เทคโนโลยีก็ต้องปรับ คนอเมริกันชอบแบบหนึ่ง คนเอเชียก็ชอบแบบหนึ่ง”

เมื่อถามถึงการแบ่งหน้าที่การทำงาน “คุณอุ้ม” บอกว่า เขารับหน้าที่ดูแลโอเปอเรชัน และอีกหลายๆ เรื่อง คุณวิทย์โฟกัสเรื่องก่อสร้าง โอเปอเรชัน คุณเจสันโฟกัสเรื่องการตลาด คุณโน๊ต-นิติ จะดูเรื่องไลเซนส์ ลิขสิทธิ์ สัญญา แต่ละคนจะมีโฟกัสของตัวเอง แต่จะกลับมาคุยกันทุกวัน และการทำงานก็สามารถช่วยเหลือเติมเต็มกันได้ตลอด

“ผมมองว่าทีมเราซินเนอร์ยี และไดนามิก ทุกคนมีความคิด และมีส่วนร่วม คนหนึ่งติดอะไรขึ้นมา ก็ให้อีกคนเข้ามาช่วย มันเลยทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้เร็ว ทุกคนมีประสบการณ์ เรื่องยากเลยกลายเป็นเรื่องง่าย เรามีความคิดเหมือนกัน ไม่ใช่ How Much You Gain เรายึดติดกับความสำเร็จมากกว่า และความสำเร็จมันไม่สนุก ถ้าคุณอยู่คนเดียว แต่มันจะสนุกมากขึ้น ถ้าเราอยู่เป็นทีม”

ส่วนธุรกิจเดิม คือ การทำออร์แกไนซ์การจัดอีเวนต์ การจัดคอนเสิร์ต “คุณอุ้ม”บอกว่า ธุรกิจของเขาก็ยังเดินหน้าต่อ เช่นเดียวกับธุรกิจของพาร์ตเนอร์แต่ละคน ก็ยังเดินหน้าเช่นกัน เพียงแต่ว่า ต่อไปนี้ ถ้ามีอะไรที่เป็นโปรเจ็กต์เกี่ยวกับแฟมิลี่เอนเตอร์เทนเมนต์ จะใช้บริษัท ฮีโร่ เอ็กซ์พีเรียนซ์ฯ ดำเนินการ นั่นคือข้อตกลงร่วมกัน

การบริหารเป็นทีมใหญ่กับธุรกิจใหม่ที่มีรายละเอียดมากมาย “คุณอุ้ม” บอกว่า ต้องใช้ความเข้าใจและการเอาใจใส่อย่างมาก ต้องมีความเข้าใจในตัวแบรนด์ มาร์เวล และต้องเข้าใจตลาด เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค หลายคนเคยไปสัมผัสมาตรฐานระดับโลกของฮีโร่จากมาร์เวลกันแล้ว การมาเปิดเป็นธีมพาร์ก ครั้งนี้ คนที่จะเข้ามาเที่ยวเขาก็ต้องคาดหวังเช่นกันว่าจะได้สัมผัสอะไรในระดับมาตรฐานโลกบ้าง ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ทีมผู้บริหารทีมนี้
ต้องทำ อะไรที่จะสร้างว้าวให้กับคนที่เข้าไปเที่ยวได้ นั่นคือเป้าหมายของการทำธุรกิจในครั้งนี้ และหากทำได้นั่นคือ การคุ้มทุนแล้ว สำหรับโปรเจ็กต์ยักษ์ครั้งนี้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,304 วันที่ 12 - 14 ตุลาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว