ซีอีโอ‘แพลทินัม’กำหนดมิสชัน ปั้นมิกซ์ยูสบูมธุรกิจประตูน้ำ

14 ต.ค. 2560 | 00:21 น.
ทําเลประตูนํ้า - ราชดำริ ถือเป็นทำเลการค้าใจกลางเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนไทยและต่างชาติมานาน ทุกวันนี้ภาพของประตูนํ้าเริ่มปรับเปลี่ยนไป จากการค้าขายแบบบ้านๆ ร้านค้าห้องแถว ขึ้นสู่ห้างค้าส่งและค้าปลีกที่มีความเป็นอินเตอร์มากขึ้น โดยส่วนหนึ่งของผู้มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ก็คือ “ชาญชัย พันธุ์โสภา” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารแพลทินัม มอล์ล ศูนย์ค้าส่งขนาดใหญ่ ที่ไม่ใช่แค่ใหญ่สุดในประเทศไทย แต่เรียกว่าใหญ่ระดับอาเซียนกันเลยทีเดียว

“ชาญชัย” เล่าว่า แพลทินัมถือกำเนิดมาได้ 12-13 ปี ด้วยวิสัยทัศน์ (Vision) ที่ต้องการเป็นเบอร์ 1 ในการบริหารจัดการศูนย์แฟชั่นค้าส่ง และเมื่อผ่านมา 12 ปี แพลทินัมก็สามารถก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ได้ตามเป้า ก้าวต่อมาของแพลทินัม หลังนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่เขาเข้ามาทำหน้าที่บริหารเต็มตัว วิสัยทัศน์และพันธกิจ (Mission) ของแพลทินัมก็ถึงเวลาขยายผล

“เราต้องมาดูระยะสั้น กลาง ยาว ว่าเราต้องปรับอะไรบ้าง และสำคัญคือระยะยาว บริษัทขับเคลื่อนด้วยคน คนเรามีวิสัยทัศน์อย่างไร ถ้าคิดแค่ว่า เราเป็นผู้บริหารจัดการค้าส่งก็เหมือนเดิม เราปรับวิชัน-มิสชันจากที่เป็นค้าส่ง มาเป็นการพยายามที่เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ เน้นองค์รวมเรื่องการพัฒนา มองผสมผสาน นอกเหนือจากศูนย์การค้า ก็มองโอกาสเรื่องการทำโรงแรม อาคารสำนักงาน อาคารที่อยู่อาศัย อย่างเดียวที่เราไม่ทำ คือ ศูนย์นิคมอุตสาหกรรม”

[caption id="attachment_218040" align="aligncenter" width="317"] ชาญชัย พันธุ์โสภา ชาญชัย พันธุ์โสภา[/caption]

เมื่อปรับพันธกิจและวิสัยทัศน์ใหม่แล้ว ก็บริหารให้ทุกคนเดินไปในทิศทางเดียวกัน โดยในส่วนของธุรกิจศูนย์แฟชั่นค้าส่ง เมื่อตลาดเออีซีเปิด เป้าหมายของธุรกิจก็ใหญ่ขึ้น นั่นคือ การเป็น Wholesale Fashion Hub of Asian ซึ่งขณะนี้ถือว่าแพลทินัมบรรลุเป้าหมายนั้นแล้ว และขณะนี้กำลังขยายส่วนของธุรกิจรีเทล ที่มีทั้ง เดอะมาร์เก็ต แบงค็อก ซึ่งจะเสร็จและเปิดให้บริการประมาณปลายปี 2561 มี เดอะนีออน ที่จับตลาดกลางลงล่าง โดยการบริหารธุรกิจไม่ใช่แค่ผู้บริหารพื้นที่ แต่ “ชาญชัย” ต้องการให้ผู้เช่าพื้นที่ทั้งหลายอยู่ได้ ธุรกิจเติบโตจึงมีการจัดทำทั้งระบบนิเวศของการค้าขาย และการพัฒนาผู้เช่าไปด้วยพร้อมๆ กัน ด้วยเป้าหมายคือการทำธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ส่วนธุรกิจโรงแรม กลุ่มแพลทินัมเริ่มทำธุรกิจโรงแรมเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา มี เดอะวอล์ค ที่สมุย เป็นศูนย์ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์เล็กๆ และกำลังลงทุนโรงแรมอีก 2 โรงแรมที่สมุยอีกเช่นกัน ชื่อ ฮอลิเดย์อินน์รีสอร์ท และฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส

แผนการลงทุนของกลุ่มแพลทินัมยังเดินหน้าอยู่เรื่อยๆ แต่สิ่งที่ยังเน้นยํ้า คือ ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ที่ยังเป็นธุรกิจหลัก ดังนั้น สิ่งที่ผู้บริหารคนนี้มองและถือเป็นภารกิจ คือ การดึงกลยุทธ์ด้านโลเกชันมาใช้ในการพัฒนาธุรกิจ

“ประตูนํ้า ถ้าเราพัฒนา เราปรับเป็นมิกซ์ยูส วิ่งไปแอร์พอร์ตเรียลลิงค์ ทำอย่างไรให้พื้นที่นี้ถูกพัฒนาเป็นศูนย์กลางของความเชื่อมโยง วิ่งไปเพชรบุรีตัดใหม่ เราจะเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงระหว่างแอร์พอร์ต เรียลลิงค์ และเพชรบุรีฯ และบีทีเอส ด้วยสะพานทางเชื่อม...วิธีการคิด คือ การพัฒนาเมือง ให้ควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจของเรา มันต้องไปด้วยกัน”
วิธีการคิดและการพัฒนาธุรกิจของ “ชาญชัย” ในฐานะมือปืนรับจ้าง เขาทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ และสิ่ง หนึ่งที่เขาให้ความสำคัญคือ การเข้ามาทำหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มแพลทินัม อย่างแรก คือ...

“ผมมาโดยไม่เอาลูกน้องมา การมาแบบนั้นจะแบ่งพักแบ่งพวก เราต้องชัดเจนว่าเรากำลังจะทำอะไร ความเป็นผู้นำที่คุณจะสามารถชี้ให้เขาเห็นสิ่งที่แตกต่าง ชี้ให้เขาเห็นเรื่องการพัฒนาองค์กร ทำให้เขาถูกใจ และเริ่มที่จะทำซํ้าๆ โค้ชเขาพูดซํ้าๆ มันเป็นเรื่องที่จะทำให้เขาเข้าใจมากขึ้น”

ปีหน้า “ชาญชัย” บอกว่า จะมีโปรเจ็กต์การลงทุนขนาดใหญ่ อาจจะเป็นช่วงไตรมาส 1-2 ตอนนี้เขากำลังทำงบปีหน้า การเตรียมการ การวางแผนเรื่องการทำงาน วิธีการคิด ทีมงานจะเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยความเข้าใจของทีมงานด้วย...ปีหน้าเป็นปีที่ท้าทายสำหรับผม 2-3 ปีที่ผ่านมาเป็นการขับเคลื่อนธุรกิจ ปีหน้าจะมีการลงทุนและมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นมากมาย ในขณะที่ธุรกิจก็ต้องเติบโต แต่จะโตอย่างไร สิ่งเหล่านี้ “ชาญชัย” บอกว่า เขาได้เตรียมไว้หมดแล้ว เพียงแต่ต้องอยู่ที่คณะกรรมการจะเห็นด้วยหรือไม่ ตรงนี้เป็นบิ๊กสตอรี...ส่วนจะบิ๊กสตอรีอย่างไร เราคงต้องรอดูกัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,304 วันที่ 12 - 14 ตุลาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว