แอดเวนเจอร์เดินหน้า ลงทุนสตาร์ตอัพ B2B

14 ต.ค. 2560 | 10:57 น.
แอดเวนเจอร์ บริษัทลูกในกลุ่มเอสซีจี เดินหน้าร่วมลงทุนใส่เงินในกองทุนระดับท็อปของอาเซียนใน “เวฟเมกเกอร์ พาร์ทเนอร์” แล้วหวังหนุนสตาร์ตอัพกลุ่ม B2B ในภูมิภาค หวังยกระดับสตาร์ตอัพทั้งนิเวศ

ดร.จาชชัว แพส กรรมการผู้จัดการ AddVentures เปิดเผยว่า ขณะนี้ AddVentures ได้ระดมลงทุนเงินก้อนแรกในลักษณะ Fund of Funds ผ่าน Venture Capital หรือ VC (ธุรกิจร่วมลงทุน) ได้ลงทุนผ่านกองทุน Wavemaker SEA Fund II ซึ่งเป็นกองทุนที่ 2 ของ เวฟเมกเกอร์ พาร์ทเนอร์ (Wavemaker Partners) ที่มุ่งลงทุนสตาร์ตอัพด้าน B2B (Business2Business หรือ ธุรกิจกับธุรกิจ) โดยรับเงินลงทุนในระดับ Seed Stage ถึง Series A Stage (การปรับปรุงผลิตภัณฑ์
เพื่อรับกับรูปแบบของธุรกิจที่เหมาะสม (กับตลาดจริงๆ) เงินลงทุนอาจเกิน 66 ล้านบาท) ในเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้

[caption id="attachment_159458" align="aligncenter" width="503"] จาชชัว แพส กรรมการผู้จัดการ AddVentures (2) ดร.จาชชัว แพส กรรมการผู้จัดการ AddVentures[/caption]

“เราเลือกลงทุนใน เวฟเมกเกอร์ พาร์ทเนอร์ เพราะเป็นกองทุนที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จจนทำให้สตาร์ตอัพในพอร์ตหลายรายไปสู่จุดหมายหรือการ Exit ได้ เราและ เวฟเมกเกอร์ ยังมีความสนใจร่วมกัน คือการลงทุนสตาร์ตอัพด้าน B2B และ Deep Tech Startups จึงคาดหวังหวังว่าเราจะได้ร่วมลงทุนและใช้เครือข่ายของเอสซีจีในการช่วยให้สตาร์ตอัพกลุ่มนี้เติบโต” ดร.จาชชัว กล่าว

อย่างไรก็ตามเวฟเมกเกอร์ พาร์ทเนอร์ ได้รับคัดเลือกอยู่ในเครือข่ายของ Draper Venture Network (DVN) ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรกองทุนระดับโลก มีเครือข่าย VC มากกว่า 17 ราย เชื่อมโยงผู้ประกอบการและนักลงทุนจากทั่วโลก
ดร.จาชชัว ยังกล่าวอีกว่า Wavemaker SEA Fund II เน้นการสร้าง Portfolio จำนวนมาก เพื่อเลือกลงทุนในสตาร์ต อัพ B2B ที่มีศักยภาพ 80 รายตลอดระยะเวลากองทุน และสร้างโอกาสการลงทุนรอบถัดไป (Follow-on round) ในบริษัทที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตสูง โดยการลงทุนครั้งนี้สามารถเอื้อประโยชน์ให้กับการร่วมลงทุน (Co-investment) ของ แอดเวนเจอร์ส ในระดับ Series A ได้เป็นอย่างดี

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ นอกจากนี้ กลยุทธ์ที่สอดคล้องกับทิศทางการลงทุนของ แอดเวนเจอร์ส ทำให้มีโอกาสเข้าถึงสตาร์ตอัพที่มีนวัตกรรมด้าน B2B และอาจพิจารณานำนวัตกรรมเหล่านั้นมาต่อยอดเป็นธุรกิจใหม่ของเอสซีจีได้ ปัจจุบัน แอดเวนเจอร์ส และเอสซีจี
ก็ได้เริ่มทดลองต่อยอดสร้างความร่วมมือเชิงพาณิชย์ หรือ Commercial Deal กับสตาร์ตอัพบางรายที่ เวฟเมกเกอร์ ได้ลงทุนไปแล้ว มั่นใจว่าการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลดีต่อทิศทางของบริษัทและการเจริญเติบโตของ ecosystem ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แน่นอน

สำหรับ แอดเวนเจอร์ส บริษัทลูกของ เอสซีจี มีแผนในการลงทุนทั้งการลงทุนผ่านกองทุน (Venture Capital) และการลงทุนโดยตรง (Direct Investment) ในสตาร์ต อัพทั้งในไทย อาเซียน และศูนย์ กลางด้านเทคโนโลยีของโลก เช่น ซิลิคอนวัลเลย์ ประเทศสหรัฐ อเมริกา, เทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล, เสินเจิ้น ประเทศจีน ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.Enterprise 2.Industrial และ 3.B2B ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจหลัก 3 กลุ่มของเอสซีจี ได้ แก่ 1.ธุรกิจซีเมนต์ และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 2.ธุรกิจเคมิคัล และ 3.ธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,304 วันที่ 12 - 14 ตุลาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1