พาณิชย์เร่งพัฒนาระบบตลาดกลาง หนุนไทยขึ้นแท่นผู้นำตลาดกลางอาเซียน

10 ต.ค. 2560 | 07:14 น.
พาณิชย์เร่งพัฒนาระบบตลาดกลาง หวังใช้เป็นราคาอ้างอิงมาตรฐานให้เกษตรกร ทำไทยขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดกลางของอาเซียน พร้อมดันให้ค้าขายในระบบออนไลน์ ช่วยลดต้นทุน และยังเชื่อมโยงสินค้าผักผลไม้ไม่ให้ขาดแคลน

นายวรพันธ์ ประเสริฐยิ่ง ผู้อำนวยการกองส่งเสริมสินค้าเกษตร กรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้เร่งยกระดับการประกอบธุรกิจและตลาดกลางผักและผลไม้ของไทยให้สามารถเชื่อมโยงสู่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มซีแอลเอ็มวี เพื่อเป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้าเกษตรให้กับเกษตรกรมีอำนาจต่อรองสูงขึ้น โดยตลาดกลางผักผลไม้ในการส่งเสริมของกรมการค้าภายใน ปัจจุบันมีอยู่ 19 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งกรมได้เลือกตลาดกลางสำคัญ  6 แห่ง เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาให้เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบด้วยตลาดกลางที่จังหวัดอุดรธานี, อุบลราชธานี,ราชบุรี,พิษณุโลก และนครศรีธรรมราช เนื่องจากเป็นพื้นที่ใกล้กับชายแดนทำให้สามารถเชื่อมโยงตลาดกับประเทศเพื่อนบ้านได้ง่าย และอีกแห่งคือ ตลาดไท จังหวัดปทุมธานี เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่และมีระบบการซื้อขายที่ได้มาตรฐาน และการพัฒนาดังกล่าวจะช่วยให้ไทยเป็นผู้นำระบบตลาดกลางของผักผลไม้ในอาเซียนได้

บาร์ไลน์ฐาน นายอัทธ์ พิศาลวานิช ที่ปรึกษาโครงการพัฒนาระบบตลาดภูมิภาครองรับตลาดประเทศเพื่อนบ้าน กรมการค้าภายใน กล่าวว่า การพัฒนาตลาดกลาง จะส่งเสริมในเรื่องสุขอนามัยของผักและผลไม้ ไม่ให้มีสารตกค้างสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้จะจัดทำระบบฐานข้อมูลราคาสินค้าผักผลไม้จากแต่ละตลาดกลาง โดยให้รายงานข้อมูลราคา และปริมาณผลผลิตเข้ามายังส่วนกลางทุกวัน เพื่อให้ทราบสถานการณ์ และเป็นราคากลางอ้างอิงสำหรับการซื้อขายได้ ขณะเดียวกันยังจะทำให้สามารถเชื่อมโยงปริมาณผักจากแต่ละตลาดหากเกิดการขาดแคลนในช่วงเทศกาล ที่ต้องการบริโภคผักและผชไม้จำนวนมาก ซึ่งทำให้เชื่อมโยงผักผลไม้จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในไทยได้ ทำให้ผลผิตเพียงพอต่อการบริโภค และราคาไม่สูงจนเกินไป รวมถึงผู้ประกอบการไทย สามารถนำผักและผลไม้ไปจำหน่ายในตลาดกลางประเทศเพื่อนบ้านในราคาถูกลง เพราะการเชื่อมโยงช่วยลดต้นทุนค่าขนส่ง และยังมีการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทย และประเทศเพื่อนบ้านด้วย

นอกจากนี้ จะจัดทำระบบการซื้อขายผ่านออนไลน์ของตลาดกลาง โดยอยู่ระหว่างการจัดทำแพลตฟอร์มกลาง เพื่อให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายผักผลไม้ในตลาดกลางลงทะเบียนเพื่อทำการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ รวมทั้งให้ได้เอสเอ็มอี และผู้ประกอบการสินค้าโอทอปสามารถลงทะเบียน และทำการซื้อขายผ่านออนไลน์ในแพลตฟอร์มดังกล่าวด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มใช้ได้ในต้นปีหน้า

ขอบคุณภาพ : http://talaadthai.com e-book