เงินบาทกลับมาแข็งค่ากรอบแคบที่ระดับ 33.41 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังตลาดกังวลปัญหาเกาหลีเหนือ

เงินบาทกลับมาแข็งค่าในกรอบแคบที่ระดับ 33.41 บาทต่อดอลลาร์ฯ จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงตามตลาดกังวลปัญหาเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธ พร้อมเกาะติดตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญตลอดสัปดาห์

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ระบุค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 33.41 บาทค่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจาก 33.45 บาทต่อดอลลาร์ฯ ณ สิ้นวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงแตะระดับ 93.50 จุด หลังตลาดกังวลว่าเกาหลีเหนืออาจจะมีการทดสอบขีปนาวุธในระยะสั้นนี้

สำหรับสัปดาห์นี้มีตัวเลขเศรษฐกิจ ที่น่าสนใจดังนี้ เริ่มจากวันจันทร์ นักวิเคราะห์จะจับตา ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของจีน โดย Caixin ว่าจะสามารถเพิ่มขึ้นแตะระดับ 53 จุดได้หรือไม่ ซึ่งถ้าหากตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากเดิม (52.7จุด) จะสะท้อนว่าเศรษฐกิจจีนยังคงขยายตัวได้ดีต่อจากแรงหนุนของภาคการบริการที่เริ่มมีสัดส่วนความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวมมากขึ้น วันพฤหัสบดี ตลาดจะจับตามองรายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพื่อหาแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ย และมุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯของเฟด โดยเฉพาะ มุมมองต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของอัตราเงินเฟ้อ และในวันศุกร์ นักวิเคราะห์มองว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐฯ (Core CPI YoY) ในเดือนกันยายน จะสามารถเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.8% ได้ ซึ่งมาจากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากภัยพิบัติเฮอริเคน ดังจะเห็นได้จากการที่องค์ประกอบด้านราคาของดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อทั้งภาคการผลิตและการบริการต่างปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ในวันเดียวกัน ตลาดจะจับตายอดการส่งออกและนำเข้าของจีน ซึ่งคาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ดีต่อในระดับ 9.8% และ 15% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ สะท้อนว่าการค้าโลกยังคงมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้น

มองเงินบาทมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในช่วงกรอบ 33.30-33.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยถ้าหาก ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ อาทิ อัตราเงินเฟ้อ ออกมาดีเกินคาด จะส่งผลให้ ดอลลาร์จะกลับมาแข็งได้ ทว่า นักลงทุนจะต้องระมัดระวัง ความผันผวนของค่าเงินที่จะเกิดขึ้น จากข่าวการเลือกประธานเฟดคนต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในอีก 1-2 สัปดาห์