ชาร์ปทิ้งมาเลย์ซบไทย Foxconn ดันฐานผลิตสมาร์ททีวี1.2ล้านเครื่อง
“ชาร์ป” หันหัวเรือย้ายฐานผลิตทีวีจากมาเลเซียกลับไทย ผลิต 1.2 ล้านเครื่องต่อปี เผยเบื้องหลัง Foxconn ผู้ผลิต “แอปเปิล”จากไต้หวันผลักดันกลับมาผลิตในไทย ปัดฝุ่นโรงงานเดิมที่นครปฐม คิกออฟทีวีจอ LED และ LCD แข่งเวียดนาม
หลังจากที่ฐานการผลิตไทยเริ่มไม่เอื้อต่อการลงทุน ทั้งปัญหาแรงงาน กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคใหญ่ส่งผลให้ทุนข้ามชาติบางรายหันมาทบทวนการลงทุนใหม่ โดยเฉพาะการผลิตทีวีจอแบน อย่างจอ LED ทั้งทีวีแบรนด์ “แอลจี” และ “ซัมซุง” ต่างมุ่งหน้าไปปักฐานที่เวียดนาม
บรรษัทข้ามชาติเหล่านี้ต่างมองว่า เวียดนามมีค่าแรงที่ถูกกว่า สิทธิประโยชน์การลงทุนจูงใจ เช่น ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 16 ปี คิดเป็น 2 เท่าของไทย รวมถึงทีวีแบรนด์ “ชาร์ป” (Sharp) ยักษ์ใหญ่ค่ายญี่ปุ่นที่ถูกเปลี่ยนมือเป็นไต้หวัน ที่ก่อนหน้านี้เข้าไปตอกเสาเข็มในมาเลเซีย ตั้งฐานผลิตสมาร์ททีวีเพื่อส่งออกเพราะเป็นฐานการผลิตในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ฐานใหญ่
หลังจากออกไปมาเลเซียไม่นาน ชาร์ปได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ ในการหวนกลับคืนมาใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกอีกรอบ
++“ชาร์ป”ม้วนเสื่อกลับไทย
แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังจากที่ทุนข้ามชาติหลายรายออกไปขยายการลงทุนนอกประเทศไทย สุดท้ายก็ต้องม้วนเสื่อกลับไทย ซึ่งที่ผ่านมามีบางรายเป็นทุนญี่ปุ่นเข้าไปลงทุนในจีน ก็ต้องกลับมาไทยเหมือนเดิม ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่ากฎระเบียบ และฝีมือแรงงานยังไม่เอื้อเท่าแรงงานไทยโดยเฉพาะความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมถึงค่าแรงในบางพื้นที่ก็เริ่มสูงขึ้น อีกทั้งบางประเทศยังมีความเสี่ยงต่อปัญหาการเมืองภายในประเทศ
ขณะที่สิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนไทย หลังปรับยุทธศาสตร์ใหม่เมื่อปี 2558-2560 น่าสนใจมากขึ้น เช่นปรับปรุงและเพิ่มกฎหมายส่งเสริมการลงทุนใหม่ รวมถึงเปิดพื้นที่อีอีซีและให้สิทธิประโยชน์สูงสุดกับอุตสาหกรรมที่มีการผลิตไฮเทคมากขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องนโยบายของแต่ละบริษัทที่มองเห็นโอกาสไม่เหมือนกันเช่น กรณีล่าสุดของทีวีแบรนด์“ชาร์ป”ที่มาเลเซีย เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง หลังจากที่ ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn)จากไต้หวัน บริษัทรับจ้างผลิต (OEM) ผู้ผลิตไอโฟน ไอพอด ไอแพด ให้กับแอปเปิล เข้าซื้อกิจการ เนื่องจากฟ็อกซ์คอนน์ กับ ชาร์ป เป็นพันธมิตรด้านการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆให้แก่กันอยู่ก่อนแล้ว
แหล่งข่าวกล่าวว่าการเข้ามาของฟ็อกซ์คอนน์ก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดการตัดสินใจย้ายการผลิตทีวี “ชาร์ป” กลับมาผลิตยังประเทศไทยอีกครั้ง ทั้งที่เพิ่งย้ายจากไทยไปมาเลเซียก่อนหน้านี้ แต่เพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานในไทย จึงปรับปรุงโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชาร์ปเดิมที่มีอยู่แล้วของบริษัทชาร์ป แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด จังหวัดนครปฐม รองรับการผลิตทีวีจอLCD และจอLED ขนาดกำลังผลิตรวม 1.2 ล้านเครื่องต่อปี สำหรับป้อนตลาดส่งออกและขายในประเทศ
ล่าสุดโครงการนี้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แล้วด้วยงบลงทุนเบื้องต้น 40 ล้านบาท (ไม่ต้องสร้างโรงงานใหม่) ล่าสุดเดินสายการผลิตได้แล้ว โดยใช้วัตถุดิบสำคัญอย่างจอ LCD และจอLEDที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น
“หวังว่าชาร์ปย้ายฐานกลับไทยรอบนี้ จะเป็นกระแสให้ยักษ์ใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้ารายอื่นหันมาทบทวนแผนการลงทุนในย่านนี้ เพราะไทยดีกว่าในแง่ทำเลที่ตั้งและกำลังปรับปรุงเงื่อนไขการลงทุนอย่างมาก โดยเฉพาะในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี”
++ฐานผลิตไทยได้เปรียบที่ตั้ง
นายวิษณุ ลิ่มวิบูลย์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่าฟ็อกซ์คอนน์ ต้องการย้ายไลน์ผลิตทีวีจอ LCD และจอ LED จากมาเลเซียมาไทย ด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบรายละเอียด แต่เท่าที่ทราบ มาเลเซียมีค่าแรงต่อวันสูงถึง 600-700บาท ซึ่งสูงกว่าไทย รวมถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นแหล่งผลิตเพราะมีลักษณะพื้นที่ เป็นเกาะและแหลมจำนวนมาก พอทุนไต้หวันเป็นเจ้าของ แล้วกลับมาใช้ไทยเป็นฐานการผลิต ก็น่าจะได้เปรียบมากกว่าในแง่จุดยุทธ ศาสตร์ของทำเลที่ตั้งฐานการผลิตเนื่องจากมีตลาด CLMV อยู่รอบๆ และเป็นจุดศูนย์กลางของอาเซียน สามารถเชื่อมโยงตลาดไปยังประเทศต่างๆ ได้ดีกว่า
“ก่อนหน้านี้ชาร์ปย้ายไลน์ผลิตทีวีไปยังมาเลเซีย เพราะเป็นการตัดสินใจของทุนญี่ปุ่นเดิม พอเปลี่ยนมือเป็นทุนไต้หวันบริหาร ก็ต้องย้ายกลับมาไทยอีกครั้งเนื่องจากฟ็อกซ์คอนน์จากไต้หวันมีแผนงานในไทย และการลงทุนของชาร์ปในไทยในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในไทยอยู่แล้วจึงสะดวกในการบริหารงาน”
[caption id="attachment_33966" align="aligncenter" width="503"]
ฟ็อกซ์คอนน์ซื้อกิจการชาร์ป หมายตาเทคโนโลยีรุกเป็นซัพพลายเออร์จอสมาร์ทโฟน[/caption]
++คาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโต3%
สำหรับภาพรวมเฉพาะอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ปี2560 ทั้งปี มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นโดยเฉลี่ย 3.5% เมื่อเทียบกับภาพรวมปีที่แล้วที่ติดลบ(ติดลบไม่ถึง 1% ) โดยสาเหตุที่ขยายตัวเกิดจากตลาดยุโรปมีคำสั่งซื้อสินค้ากลุ่มดังกล่าวมากขึ้น อีกทั้งภาพรวมเศรษฐกิจอเมริกาดีขึ้น
นอกจากนี้สินค้าหมวดอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) กลับมาเติบโตสูงขึ้น โดยประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรายใหญ่ของโลก จากการลงทุนของบริษัท เวสเทิร์นดิจิตอล (ประเทศไทย) จำกัด หรือWD และบริษัท ซีเกท เทคโนโลยี(ประเทศไทย)จำกัด
ปัจจุบันฟ็อกซ์คอนน์ อินเตอร์เนชั่นแนลโฮลดิ้งส์ (Foxconn International Holdings Ltd.) เป็นบริษัทในเครือของ บริษัท หองไห่ พรีซีชัน อินดัสทรี จำกัด บริษัทสัญชาติไต้หวัน เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดในโลก ฟ็อกซ์คอนน์เป็นผู้รับช่วงผลิตไอโฟน ไอพอด ไอแพด ให้กับแอปเปิล เป็นผู้ผลิตอเมซอน คินเดิลให้กับอเมซอน.คอม
ขณะที่ชาร์ปเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์จอภาพสมาร์ทโฟนและแท็บเลตรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงไอโฟนด้วย การเข้าซื้อกิจการชาร์ปก่อนหน้านี้ เพราะต้องการก้าวขึ้นมาเป็นซัพพลายเออร์จอภาพให้กับสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ แข่งขันกับซัมซุง ดิสเพลย์ จากเกาหลีใต้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,303 วันที่ 8 - 11 ตุลาคม พ.ศ. 2560
หลังจากที่ฐานการผลิตไทยเริ่มไม่เอื้อต่อการลงทุน ทั้งปัญหาแรงงาน กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคใหญ่ส่งผลให้ทุนข้ามชาติบางรายหันมาทบทวนการลงทุนใหม่ โดยเฉพาะการผลิตทีวีจอแบน อย่างจอ LED ทั้งทีวีแบรนด์ “แอลจี” และ “ซัมซุง” ต่างมุ่งหน้าไปปักฐานที่เวียดนาม
บรรษัทข้ามชาติเหล่านี้ต่างมองว่า เวียดนามมีค่าแรงที่ถูกกว่า สิทธิประโยชน์การลงทุนจูงใจ เช่น ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 16 ปี คิดเป็น 2 เท่าของไทย รวมถึงทีวีแบรนด์ “ชาร์ป” (Sharp) ยักษ์ใหญ่ค่ายญี่ปุ่นที่ถูกเปลี่ยนมือเป็นไต้หวัน ที่ก่อนหน้านี้เข้าไปตอกเสาเข็มในมาเลเซีย ตั้งฐานผลิตสมาร์ททีวีเพื่อส่งออกเพราะเป็นฐานการผลิตในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ฐานใหญ่
หลังจากออกไปมาเลเซียไม่นาน ชาร์ปได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ ในการหวนกลับคืนมาใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกอีกรอบ
++“ชาร์ป”ม้วนเสื่อกลับไทย
แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังจากที่ทุนข้ามชาติหลายรายออกไปขยายการลงทุนนอกประเทศไทย สุดท้ายก็ต้องม้วนเสื่อกลับไทย ซึ่งที่ผ่านมามีบางรายเป็นทุนญี่ปุ่นเข้าไปลงทุนในจีน ก็ต้องกลับมาไทยเหมือนเดิม ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่ากฎระเบียบ และฝีมือแรงงานยังไม่เอื้อเท่าแรงงานไทยโดยเฉพาะความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมถึงค่าแรงในบางพื้นที่ก็เริ่มสูงขึ้น อีกทั้งบางประเทศยังมีความเสี่ยงต่อปัญหาการเมืองภายในประเทศ
ขณะที่สิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนไทย หลังปรับยุทธศาสตร์ใหม่เมื่อปี 2558-2560 น่าสนใจมากขึ้น เช่นปรับปรุงและเพิ่มกฎหมายส่งเสริมการลงทุนใหม่ รวมถึงเปิดพื้นที่อีอีซีและให้สิทธิประโยชน์สูงสุดกับอุตสาหกรรมที่มีการผลิตไฮเทคมากขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องนโยบายของแต่ละบริษัทที่มองเห็นโอกาสไม่เหมือนกันเช่น กรณีล่าสุดของทีวีแบรนด์“ชาร์ป”ที่มาเลเซีย เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง หลังจากที่ ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn)จากไต้หวัน บริษัทรับจ้างผลิต (OEM) ผู้ผลิตไอโฟน ไอพอด ไอแพด ให้กับแอปเปิล เข้าซื้อกิจการ เนื่องจากฟ็อกซ์คอนน์ กับ ชาร์ป เป็นพันธมิตรด้านการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆให้แก่กันอยู่ก่อนแล้ว
แหล่งข่าวกล่าวว่าการเข้ามาของฟ็อกซ์คอนน์ก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดการตัดสินใจย้ายการผลิตทีวี “ชาร์ป” กลับมาผลิตยังประเทศไทยอีกครั้ง ทั้งที่เพิ่งย้ายจากไทยไปมาเลเซียก่อนหน้านี้ แต่เพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานในไทย จึงปรับปรุงโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชาร์ปเดิมที่มีอยู่แล้วของบริษัทชาร์ป แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด จังหวัดนครปฐม รองรับการผลิตทีวีจอLCD และจอLED ขนาดกำลังผลิตรวม 1.2 ล้านเครื่องต่อปี สำหรับป้อนตลาดส่งออกและขายในประเทศ
ล่าสุดโครงการนี้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แล้วด้วยงบลงทุนเบื้องต้น 40 ล้านบาท (ไม่ต้องสร้างโรงงานใหม่) ล่าสุดเดินสายการผลิตได้แล้ว โดยใช้วัตถุดิบสำคัญอย่างจอ LCD และจอLEDที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น
“หวังว่าชาร์ปย้ายฐานกลับไทยรอบนี้ จะเป็นกระแสให้ยักษ์ใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้ารายอื่นหันมาทบทวนแผนการลงทุนในย่านนี้ เพราะไทยดีกว่าในแง่ทำเลที่ตั้งและกำลังปรับปรุงเงื่อนไขการลงทุนอย่างมาก โดยเฉพาะในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี”
นายวิษณุ ลิ่มวิบูลย์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่าฟ็อกซ์คอนน์ ต้องการย้ายไลน์ผลิตทีวีจอ LCD และจอ LED จากมาเลเซียมาไทย ด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบรายละเอียด แต่เท่าที่ทราบ มาเลเซียมีค่าแรงต่อวันสูงถึง 600-700บาท ซึ่งสูงกว่าไทย รวมถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นแหล่งผลิตเพราะมีลักษณะพื้นที่ เป็นเกาะและแหลมจำนวนมาก พอทุนไต้หวันเป็นเจ้าของ แล้วกลับมาใช้ไทยเป็นฐานการผลิต ก็น่าจะได้เปรียบมากกว่าในแง่จุดยุทธ ศาสตร์ของทำเลที่ตั้งฐานการผลิตเนื่องจากมีตลาด CLMV อยู่รอบๆ และเป็นจุดศูนย์กลางของอาเซียน สามารถเชื่อมโยงตลาดไปยังประเทศต่างๆ ได้ดีกว่า
“ก่อนหน้านี้ชาร์ปย้ายไลน์ผลิตทีวีไปยังมาเลเซีย เพราะเป็นการตัดสินใจของทุนญี่ปุ่นเดิม พอเปลี่ยนมือเป็นทุนไต้หวันบริหาร ก็ต้องย้ายกลับมาไทยอีกครั้งเนื่องจากฟ็อกซ์คอนน์จากไต้หวันมีแผนงานในไทย และการลงทุนของชาร์ปในไทยในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในไทยอยู่แล้วจึงสะดวกในการบริหารงาน”
[caption id="attachment_33966" align="aligncenter" width="503"]
++คาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโต3%
สำหรับภาพรวมเฉพาะอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ปี2560 ทั้งปี มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นโดยเฉลี่ย 3.5% เมื่อเทียบกับภาพรวมปีที่แล้วที่ติดลบ(ติดลบไม่ถึง 1% ) โดยสาเหตุที่ขยายตัวเกิดจากตลาดยุโรปมีคำสั่งซื้อสินค้ากลุ่มดังกล่าวมากขึ้น อีกทั้งภาพรวมเศรษฐกิจอเมริกาดีขึ้น
นอกจากนี้สินค้าหมวดอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) กลับมาเติบโตสูงขึ้น โดยประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรายใหญ่ของโลก จากการลงทุนของบริษัท เวสเทิร์นดิจิตอล (ประเทศไทย) จำกัด หรือWD และบริษัท ซีเกท เทคโนโลยี(ประเทศไทย)จำกัด
ปัจจุบันฟ็อกซ์คอนน์ อินเตอร์เนชั่นแนลโฮลดิ้งส์ (Foxconn International Holdings Ltd.) เป็นบริษัทในเครือของ บริษัท หองไห่ พรีซีชัน อินดัสทรี จำกัด บริษัทสัญชาติไต้หวัน เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดในโลก ฟ็อกซ์คอนน์เป็นผู้รับช่วงผลิตไอโฟน ไอพอด ไอแพด ให้กับแอปเปิล เป็นผู้ผลิตอเมซอน คินเดิลให้กับอเมซอน.คอม
ขณะที่ชาร์ปเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์จอภาพสมาร์ทโฟนและแท็บเลตรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงไอโฟนด้วย การเข้าซื้อกิจการชาร์ปก่อนหน้านี้ เพราะต้องการก้าวขึ้นมาเป็นซัพพลายเออร์จอภาพให้กับสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ แข่งขันกับซัมซุง ดิสเพลย์ จากเกาหลีใต้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,303 วันที่ 8 - 11 ตุลาคม พ.ศ. 2560
