รายย่อยร้องก.ล.ต.ปลดกรรมการไอเฟค3คน

06 ต.ค. 2560 | 10:39 น.
รายย่อย IFEC ร้อง ก.ล.ต.ปลด “ศุภนันท์-ฉัตรณรงค์-พลตรีบุญเลิศ” ออกจากตำแหน่งกรรมการไอเฟค เข้าข่ายมีลักษณะขาดความไม่น่าไว้วางใจ หลังศาลอาญาประทับรับฟ้องคดีถูกกล่าวหาทำผิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ วอนเข้าไปตรวจสอบสถานะของบริษัท พร้อมเข้าไปเป็นตัวกลางตั้งโต๊ะเจรจาหาทางออก เร่งจัดประชุมวิสามัญ คืนอำนาจผู้ถือหุ้น เลือกกรรมการชุดใหม่ ฟื้นสถานะไอเฟค ก่อนถูกเพิกถอนออกจากตลาดฯ

- 6 ต.ค. - นายจักรกริช ประชุม ทนายความตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IFEC) เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึงนายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอให้มีคำสั่งให้กรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทั้ง 3 คน ซึ่งประกอบด้วย 1.นายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ 2.นายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ และ 3.พลตรีบุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ ซึ่งเข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน เนื่องจากในวันที่ 8 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 1 มาตรา 4 มาตรา 89/1 มาตรา 89/7 มาตรา 281/2 วรรคสอง มาตรา 281/10 พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 มาตรา 70 มาตรา 71 มาตรา 72 (5) มาตรา 85 มาตรา 91 (3) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ประกอบมาตรา 86 มาตรา 90 และมาตรา 91

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1

เช่นเดียวกับนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการไอเฟค ซึ่งถูกปลดจากตำแหน่งในช่วงก่อนหน้า หลังถูกกล่าวโทษต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2560 จากการที่นายวิชัย ได้กระทำความผิดต่อพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ และการถูกกล่าวโทษดังกล่าวทำให้นายวิชัย เข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหาร ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ.3/2560 เรื่องการกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ลงวันที่ 23 มกราคม 2560 ข้อ 3 (1) ประกอบข้อ 4 (3) และ (6) ตามข่าว ก.ล.ต. ฉบับที่ 79/2560

ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อย ยังได้เข้าหารือกับก.ล.ต. ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับไอเฟค ซึ่งแม้จะมีการปลดนายวิชัย ลงจากตำแหน่งประธานกรรมการไอเฟค แต่ในส่วนของกรรมการบริษัท ที่เหลืออยู่ และไม่ครบองค์ประชุม เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ไม่รับจดทะเบียนกรรมการชุดใหม่ จากผลการเลือกตั้งในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 เนื่องจากใช้วิธีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งกรรมการด้วยวิธี Cumulative Voting ซึ่งเป็นวิธีการที่มิชอบด้วยกฎหมายและผิดข้อบังคับของบริษัท แต่กรรมการชุดที่เหลือ กลับแจ้งตลาดฯ โดยอ้างมติบอร์ด แต่งตั้งประธานกรรมการ และกรรมการชุดใหม่ ทั้งๆที่ไม่มีอำนาจ และตลาดหลักทรัพย์ฯ ยืนยันว่า กรรมการตรวจสอบไม่ครบ และเป็นเหตุให้บริษัทฯเข้าข่ายถูกเพิกถอน ซึ่งถือเป็นการท้าทายอำนาจฝ่ายตรวจสอบไม่ว่าจะเป็นสำนักงานก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ฯ และกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะนายทะเบียน

ทนายความตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย กล่าวอีกว่า ผู้ถือหุ้นรายย่อยไอเฟคต้องการให้สำนักงานก.ล.ต.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเข้าไปตรวจสอบสถานะการเงินของไอเฟค และเข้าไปเป็นตัวกลางในการหาทางออกร่วมกับกลุ่มผู้ถือหุ้น พร้อมกับเร่งจัดให้มีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อเลือกตั้งกรรมการชุดใหม่ เข้ามาฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ เพื่อหยุดยั้งและระงับความเสียหาย ไม่ให้มากไปกว่านี้ เพราะถ้าปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อ มีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทฯอาจถูกเพิรายย่อยวอน ก.ล.ต.ลากกรรมการไอเฟค 3 คน ลงจากตำแหน่งถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากไม่มีกรรมการตรวจสอบ และไม่สามารถปิดงบฯได้ตามเกณฑ์กำหนด ซึ่งสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับผู้ถือหุ้นที่มีกว่า 27,000 คน มูลค่าตลาดรวม (มาร์เก็ตแค็ป) กว่า 6,100 ล้านบาท

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1