"ไทยรุ่ง"ส่งทรานฟอร์เมอร์บุกยุโรป

11 ต.ค. 2560 | 14:29 น.
ก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 แล้ว สำหรับบริษัท ไทยรุ่ง ยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งกรรมการผู้จัดการใหญ่อย่าง “สมพงษ์ เผอิญโชค” ก็ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ยังคงมีอภิมหาโปรเจ็กต์ต่างๆอีกมายมายที่จะสร้างชื่อไทยรุ่งให้โลดแล่นอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของทั้งไทยและต่างประเทศซึ่งก้าวของปีที่ 50 นี้จะมีอะไรบ้างนั้น วันนี้ฐานยานยนต์พร้อมนำเสนอ

**50 ปีของไทยรุ่ง
ปีนี้ถือเป็นปีที่พิเศษ เพราะรถทีอาร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ II เราเพิ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ ด้านเศรษฐกิจ ในการประกวดรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติประจำปี 2560 จัดขึ้นโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ซึ่งมีผลงานเข้าประกวดกว่า 90 ผลงาน และรางวัลดังกล่าวยังไม่มีรถยนต์จากบริษัทไหนหรือประเภทใดเคยได้รับมาก่อน ถือเป็นสิ่งที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับบริษัทเราเป็นอย่างมาก

 

[caption id="attachment_216746" align="aligncenter" width="377"] สมพงษ์ เผอิญโชค สมพงษ์ เผอิญโชค[/caption]

**แผนงานต่อยอด
เรามีโปรเจ็กต์ของทีอาร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ II โดยจะเปิดตัวรุ่นพิเศษฉลอง 50 ปี ที่จะเพิ่มความหรูหรา ,ปราดเปรียว และดูหนุ่มขึ้น ประกอบกับการที่เราได้รับรางวัลจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติก็จะเป็นการยกระดับสินค้าของเรา ซึ่งเราจะมีการสื่อสารออกไป โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือหน่วยงานรัฐ เนื่องจากที่ผ่านมาภาครัฐสนับสนุนให้มีการจัดซื้อจัดจ้างนวัตกรรมของไทยโดยวิธีการพิเศษ ทำให้เราได้รับความสนใจมากขึ้น ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็มีหลายหน่วยงานที่บริษัทมีการส่งมอบรถออกไปไม่ว่าจะเป็น กองทัพไทย
ที่ส่งมอบไป 14 คัน, กองทัพเรือ 3 คัน, เคไนน์ 2 คัน

ส่วนตลาดต่างประเทศ เดิมส่งไปยังมาเลเซีย, ศรีลังกา ในปีนี้ได้เข้าเจาะตลาดที่สิงคโปร์ ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการส่งรถต้นแบบไปให้คาดว่าจะได้ข้อสรุปของดีลนี้ในต้นปีหน้า นอกจากนั้นแล้วมีการพูดคุยกับพันธมิตรที่ยุโรป คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 เดือนน่าจะรู้ผล ซึ่งหากทุกอย่างได้ข้อสรุปก็จะเป็นการเปิดตลาดของไทยรุ่งไปสู่ระดับโลก และในอนาคตเราอาจจะทำยอดขายพุ่งไปสู่ 1,000-2,000 คันต่อปีได้

**เป้าหมายยอดขาย
เราตั้งเป้า 300 คัน แบ่งเป็นในประเทศ 50% และต่างประเทศ 50% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ขายได้ 200 คัน และในปีหน้าหากภาครัฐเริ่มมีการสั่งซื้ออย่างจริงจังบวกกับออร์เดอร์จากต่างประเทศ ก็คาดว่าจะมียอดขาย 400-500 คัน และในกรณีที่สิงคโปร์ได้ข้อสรุป ก็จะมีคำสั่งซื้อจำนวนถึง1,000 คัน

**ความคืบหน้ารถมินิบัส
จากกรณีที่ภาครัฐประกาศให้มีการนำรถมินิบัสมาวิ่งแทนรถตู้ ทำให้ตลาดของมินิบัสมีโอกาสเติบโต เพราะปัจจุบันมีการประเมินกันว่ามีรถตู้จำนวน 1.6 หมื่นคัน หากกฎหมายเริ่มบังคับใช้ ก็คาดว่า 6-7 ปีข้างหน้าจะมีการปรับเปลี่ยน โดยไทยรุ่งมีการศึกษาโปรเจ็กต์นี้มานาน คาดว่าต้นปีหน้าจะได้เห็น ส่วนรูปแบบการทำตลาดนั้นตอนนี้มองไว้ 2 ทางคือ ทำเองและใช้แบรนด์ไทยรุ่ง และทางที่ 2 คือ 
จับมือกับพันธมิตร โดยตอนนี้มีหลายบริษัทที่อยากให้เราประกอบให้

**โปรเจ็กต์อื่นๆ ในปีนี้
เราเคยประกาศเรื่องการขอเขตฟรีโซนหรือเขตปลอดอากรของโรงงานที่หนองแขม ซึ่งตอนนี้ได้รับการอนุมัติมาเดือนกว่าแล้ว ทำให้ได้สิทธิประโยชน์เรื่องภาษี และสร้างความได้เปรียบของการรับจ้างประกอบมากขึ้น ส่วนความสนใจเรื่องการประกอบรถพีพีวี ก็ยังคงคิดอยู่ โดยต้องมีการสร้างความแตกต่าง ไม่เหมือนกับรถที่มีอยู่ในตลาด

ขณะที่การลงทุนใหม่ๆ ในปีนี้ยังไม่มี เพราะโรงงานของเรายังมีกำลังการผลิตเหลือ ปัจจุบันโรงงานหนองแขมผลิตแค่เพียง 30% เท่านั้น จากกำลังการผลิตทั้งหมด 5 หมื่นคัน

**ผลการดำเนินงานโดยรวม
ครึ่งปีแรกผลการดำเนินงานค่อนข้างจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่สำหรับเทรกไทยรุ่งที่เราจับมือกับญี่ปุ่นยอดขายยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีการลงทุนสูง มีขนาดที่ใหญ่ อย่างไรก็ตามเรามองว่าจะเป็นผลระยะสั้น คาดว่าปีหน้าจะเริ่มดีขึ้นเพราะมีตลาดส่งออกไปอาเซียน ส่วนตลาดที่ได้รับผลกระทบอีกอันคือตะวันออกกลาง ซึ่งเดิมเราส่งกระบะพื้นเรียบไปตลาดนี้มากกว่า 70% ดังนั้นแนวทางในตอนนี้คือต้องมีการหาอะไรใหม่ๆ เข้ามาทดแทน ส่วนรายได้ครึ่งปีแรกนั้น เราทำได้ 972.89 ล้านบาท ขณะที่เป้าหมายของทั้งปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาคือ 1,800 - 1,900 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,303 วันที่ 8 - 11 ตุลาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1