จำนำข้าวทำชาติเสียหาย”วรงค์”เรียกร้อง”ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”ขอโทษคนไทย

04 ต.ค. 2560 | 08:24 น.
หมอวรงค์ตั้งโต๊ะแถลงปิดท้ายตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าว ยกคำพิพากษาย้ำนโยบายช่วยชาวนาทำได้ แต่ผิดถ้าทุจริตหรือปล่อยให้ทุจริต แนะรัฐเร่งทำให้ประชาชนและสังคมโลกเข้าใจ พร้อมเดินหน้าทำงานช่วยเกษตรกร เรียกร้อง”ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”ขอโทษคนไทย

IMG_1089 ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าวไปแล้ว 2 คดี นั้น วันนี้(4 ตุลาคม 2560)ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส. พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ผู้เกาะติดเปิดโปงโครงการรับจำนำข้าว และนายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดแถลงว่า  โครงการรับจำนำข้าว ศาลได้ให้ความชัดเจนไว้หลายประเด็น คือ

1. ศาลชี้ว่า ศาลไม่มีอำนาจในการวินิจฉัยเรื่องนโยบายของรัฐบาลว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่เป็นเรื่องที่ต้องกระทำโดยรัฐสภา  2.กรณีของนายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าฝ่ายปกครอง ซึ่งมีหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน จึงไม่ใช่มีความรับผิดชอบต่อสภาเท่านั้น แต่ต้องรับผิดชอบให้เป็นไปตาม ตัวบทกฏหมาย และย่อมถูกตรวจสอบโดยกระบวนการยุติธรรม คดีนี้จึงไม่ใช่คดีดำเนินนโยบายผิดพลาด (ต้องตรวจสอบโดยรัฐสภา) แต่เป็นเรื่องของความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ

3.การดำเนินนโยบายรับจำนำข้าว ศาลได้ชี้ให้เห็นถึงความเสียหายหลายประการ 3.1 ความเสียหายขั้นตอนต้นน้ำ มีการโกงความชื้น และน้ำหนักเพื่อกดราคาชาวนา การสวมสิทธิ์ รวมทั้งข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสวมสิทธิ์ การออกใบประทวนเท็จ การใช้เอกสารปลอม 3.2 ความเสียหายขั้นตอนกลางน้ำ มีข้าวเสื่อมสภาพ ข้าวเน่า ข้าวไม่ได้มาตรฐานกระทรวงพาณิชย์ ข้าวสูญหายจากโกดัง ความเสียหายในสองขั้นตอนนี้ ถือเป็นความเสียหายที่เกิดจากฝ่ายปฏิบัติ เพราะจำเลยในฐานะประธานกขช. ได้กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีป้องกันความเสียหาย จึงถือว่านางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ผิด แต่ความผิดนี้ลงไปสู่ระดับปฏิบัติ ซึ่งสอดคล้องกับป.ป.ท.ได้เตรียมดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ทั้งอคส. อตก.และผู้เกี่ยวข้อง  รวมทั้งโรงสีและเซอร์เวเยอร์ กว่า 900 คดี จึงขอให้รัฐบาลเร่งรัดการดำเนินคดีดังกล่าวให้ถึงที่สุด

ประการที่ 4. ศาลได้ชี้ให้เห็นถึงการทุจริตในขั้นตอนปลายน้ำ นั่นคือการระบายข้าวแบบจีทูจี ซึ่งศาลเคยวินิจฉัยว่า เป็นการขายที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย เป็นการแอบอ้างสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ เพื่อนำข้าวมาเวียนเทียนขายแก่ผู้ค้าในประเทศ และชี้ให้เห็นถึงกรณีของนางสาวยิ่งลักษณ์ว่า  4.1 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจให้นางสาวยิ่งลักษณ์ทราบรายละเอียด และวิธีขายที่ไม่เป็นไปตามแนวปฏิบัติของรัฐต่อรัฐ 4.2 พาดพิงถึงผู้ประกอบธุรกิจค้าข้าว ที่เคยเกี่ยวข้องกับการทุจริตเกี่ยวกับการค้าข้าวในอดีต และบุคคลที่เป็นผู้ช่วยส.ส. ของพรรคเพื่อไทย ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนรัฐวิสาหกิจจีนมาซื้อข้าว

4.3 ก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาวยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าเป็นการขายแบบรัฐต่อรัฐจริง 4.4 แม้นายบุญทรงจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ แต่กรรมการก็ล้วนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายบุญทรง และการตรวจสอบก็ไม่ตรงประเด็นการอภิปราย แสดงว่าเป็นการตรวจสอบไม่จริงจัง 4.5 นางสาวยิ่งลักษณ์ปรับนายบุญทรงออกวันที่ 30 มิถุนายน 2556 หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนานถึง 7 เดือน ซึ่งนำไปสู่การทำสัญญาเพิ่มอีก 4.6 พฤติการณ์ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ทราบว่าการขายไม่ชอบด้วยกฏหมาย แต่ไม่ระงับยับยั้งปล่อยให้มอบข้าวตามสัญญา

ศาลได้พิพากษาว่า การกระทำของนางสาวยิ่งลักษณ์ จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ซึ่งก็คือความผิดของการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวในขั้นตอนปลายน้ำ นั่นคือการระบายข้าวแบบจีทูจี

สรุปได้ว่า 1.การดำเนินนโยบายช่วยชาวนานั้นไม่ผิด แต่ผิดที่มีการทุจริต หรือปล่อยให้มีการทุจริต 2.การดำเนินโครงการรับจำนำข้าวนั้น มีความเสียหายทุกขั้นตอน ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ เพียงแต่ขั้นตอนต้นน้ำ และกลางน้ำ เป็นความรับผิดชอบของฝ่ายปฏิบัติ ส่วนปลายน้ำคือระบายข้าวแบบจีทูจี เป็นความรับผิดชอบของนางสาวยิ่งลักษณ์ฐานปล่อยปละละเลย 3.นี่คือการตรวจสอบผ่านระบบรัฐสภา โดยอาศัยกลไกปกติของระบอบประชาธิปไตย

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1 นพ.วรงค์ยังมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลด้วยว่า 1.รัฐบาลต้องชี้แจงข้อเท็จจริง และผลคำพิพากษาของศาลแก่ประเทศที่เกี่ยวข้อง ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ไปพำนักอาศัย 2.ทำความเข้าใจข้อเท็จจริง แก่ประชาชนเป็นระยะๆ เพราะขบวนการทำลายความน่าเชื่อถือกระบวนการยุติธรรมกำลังก่อตัวขึ้น 3.การดำเนินการขอตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ ยกเลิกพาสปอร์ต และเรื่องที่เกี่ยวข้อง ต้องดำเนินการตามกฏหมายปกติ ห้ามใช้ม.44

4.หลังจากชี้แจงประเทศผู้เกี่ยวข้องที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์พำนัก ถ้าประเทศเหล่านี้อยากได้คนพัวพันการทุจริตอยู่กับเขา อย่าไปเสียเวลา เพราะประเทศต้องเดินต่อไปข้างหน้า และยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขอีกมาก 5.ให้รัฐบาลทุ่มเทเอาจริงเอาจัง กับเรื่องต่อต้านการทุจริต โดยเฉพาะการทุจริตเชิงนโยบายที่เอาประชาชนมาบังหน้า 6.ขณะนี้พี่น้องเกษตกรยังลำบาก รัฐบาลต้องมีมาตรการในการดูแลเกษตกรบนพื้นฐานที่ไม่โกง นั่นคือโครงการประกันรายได้ และสนับสนุนสร้างความเข้มแข็งให้เกษตกรด้วยระบบสหกรณ์

และย้ำส่งท้ายว่า นโยบายรับจำนำข้าวมีพื้นฐานมาจาก "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ยิ่งลักษณ์นำไปปฏิบัติ" โดยกำหนดราคาสูงกว่าตลาด เพื่อชี้นำราคาข้าวในตลาดโลก แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวและนำไปสู่การทุจริต “เพื่อสร้างบรรทัดฐานของระบอบประชาธิปไตย คิดว่านางสาวยิ่งลักษณ์และนายทักษิณ ควรจะขอโทษพี่น้องประชาชนคนไทย เพื่อแสดงสำนึกของความรับผิดชอบต่อความเสียหายครั้งนี้”
e-book