GCS เจาะกลุ่มไฮเอนด์เซ็นทรัล ลั่นยอดใช้จ่าย 5 หมื่นล้าน-บัตรใหม่ 7.5 หมื่นใบ
GCS เตรียมพัฒนาแพลตฟอร์ม-สร้าง Big Data รุกฐานลูกค้าท็อปสเปนดิ้งเซ็นทรัลคาร์ด ดึงถือบัตร-กระตุ้นยอดใช้ คาดทั้งปียอดบัตรใหม่ 7.5 หมื่นใบ ยอดใช้จ่ายแตะ 5 หมื่นล้านบาท ลั่นยอดอนุมัติทรงตัว 45% ไม่กระทบเกณฑ์ธปท.
นายอธิศ รุจิรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด (GCS)บริษัทในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เปิดเผยว่า ตอนนี้บริษัทกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าในการสมัครบัตรใหม่ โดยผ่านเครือข่ายพันธมิตรของเซ็นทรัล กรุ๊ป เช่น ท็อป โรบินสัน หรือซุปเปอร์สปอร์ต รวมถึงทำ Big Data เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ทำโปรโมชันทั้งเครือ จากเดิมที่จะเน้นทำแบบหว่าน ซึ่งไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย คาดว่าน่าจะมีความชัดเจนและได้เห็นภายในปี 2561 พร้อมกับแพลตฟอร์มการปล่อยสินเชื่อผ่านออนไลน์ หรือ Digital Lending ที่กรุงศรี คอนซูมเมอร์ กำลังขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ทั้งนี้ บริษัทจะผนึกกำลังกับเซ็นทรัล กรุ๊ป โดยการใช้ฐานข้อมูลลูกค้าและการใช้จ่ายลูกค้าของ The 1 Card ที่มีอยู่กว่า 12 ล้านราย โดยมีลูกค้าที่มียอดใช้จ่ายสมํ่าเสมอ ประมาณ 50% มาช่วยในการเพิ่มยอดบัตรใหม่และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรโดยเบื้องต้นบริษัทจะเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มใช้จ่ายค่อนข้างสูง หรือ Top Spender และกลุ่มที่ชื่นชอบการแลกคะแนนสะสมก่อน เนื่องจากบริษัทมีโปรแกรม Super Burn คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการแลกคะแนนสะสมของลูกค้าจะเพิ่มมากขึ้น และหลังจากนั้นจะทยอยเจาะกลุ่มทั่วไป โดยบริษัทมองว่ากลุ่มลูกค้าของ The 1 Card ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานปีนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดบัตรใหม่อยู่ที่ 7.5 หมื่นใบ จากฐานบัตรปัจจุบันอยู่ที่ 7.5 แสนใบ โดยในช่วง 6 เดือนแรกสามารถออกบัตรใหม่ได้แล้วกว่า 3 หมื่นใบ ส่วนใหญ่ประมาณ 98% เป็นฐานลูกค้าบัตร Central the 1 credit card (Red) และที่เหลือเป็นลักชัวรี
ขณะที่ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร อยู่ที่ 3.12 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 7% ปีต่อปี สูงกว่าตลาดที่เติบโตเพียง 3% ทั้งนี้มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ย 4,000 ล้านบาทต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 3,500 ล้านบาท คาดว่าทั้งปียอดใช้จ่ายผ่านบัตรจะปิดสิ้นปีเกือบ 5 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 1.31 หมื่นล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 6% ปีต่อปี
ส่วนฐานลูกค้าบัตรที่มีอยู่ 7.5 แสนใบ จะแบ่งเป็น บัตรเดอะ แบล็ค มีประมาณ 300 ใบ มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ย 3 แสนบาทขึ้นไปต่อเดือน เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นกลุ่มลูกค้าเชิญ จึงมีจำนวนไม่มาก บัตรแบล็ค 4,000 ใบ ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 1.5 แสนบาทต่อเดือน บัตรลักชัวรี 4 หมื่นใบ ใช้จ่ายผ่านบัตร 7.5 หมื่นบาทต่อเดือน และที่เหลือจะเป็นบัตรเรด ซึ่งมียอดใช้จ่าย 1 หมื่นบาทต่อเดือน ทั้งนี้ยอดการอนุมัติบัตร (Approval Rate) เฉลี่ยทรงตัวกับปีก่อนอยู่ที่ระดับ 45% หากเป็นกลุ่มรายได้สูง เช่น บัตรลักชัวรี ยอดการอนุมัติจะสูงถึง 60-70%
อย่างไรก็ดีมาตรการควบคุมสินเชื่อภายใต้การกำกับดูแลของธปท.มีผลกระทบกับพอร์ตบริษัทไม่มากนัก เพราะฐานลูกค้าส่วนใหญ่รายได้ค่อนข้างสูง จะเห็นว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ค่อนข้างตํ่ากว่าระบบ และตํ่าที่สุดในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์
“ปีนี้เราจะทยอยทำแพลตฟอร์มหาลูกค้าใหม่ และทำบิ๊กดาต้าในการวิเคราะห์ลูกค้าและออกโปรโมชันให้ตรงกลุ่มลูกค้า โดยเราจะทำครอสเซลกับลูกค้าเซ็นทรัล กรุ๊ป โดยเราจะคัดลูกค้าระดับบนก่อนและค่อยทยอยเจาะลูกค้าทั่วไป เราเชื่อว่าฐานลูกค้าในเครือเซ็นทรัลมีจำนวนมาก และเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,302 วันที่ 5 - 7 ตุลาคม พ.ศ. 2560
นายอธิศ รุจิรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด (GCS)บริษัทในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เปิดเผยว่า ตอนนี้บริษัทกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าในการสมัครบัตรใหม่ โดยผ่านเครือข่ายพันธมิตรของเซ็นทรัล กรุ๊ป เช่น ท็อป โรบินสัน หรือซุปเปอร์สปอร์ต รวมถึงทำ Big Data เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ทำโปรโมชันทั้งเครือ จากเดิมที่จะเน้นทำแบบหว่าน ซึ่งไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย คาดว่าน่าจะมีความชัดเจนและได้เห็นภายในปี 2561 พร้อมกับแพลตฟอร์มการปล่อยสินเชื่อผ่านออนไลน์ หรือ Digital Lending ที่กรุงศรี คอนซูมเมอร์ กำลังขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ทั้งนี้ บริษัทจะผนึกกำลังกับเซ็นทรัล กรุ๊ป โดยการใช้ฐานข้อมูลลูกค้าและการใช้จ่ายลูกค้าของ The 1 Card ที่มีอยู่กว่า 12 ล้านราย โดยมีลูกค้าที่มียอดใช้จ่ายสมํ่าเสมอ ประมาณ 50% มาช่วยในการเพิ่มยอดบัตรใหม่และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรโดยเบื้องต้นบริษัทจะเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มใช้จ่ายค่อนข้างสูง หรือ Top Spender และกลุ่มที่ชื่นชอบการแลกคะแนนสะสมก่อน เนื่องจากบริษัทมีโปรแกรม Super Burn คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการแลกคะแนนสะสมของลูกค้าจะเพิ่มมากขึ้น และหลังจากนั้นจะทยอยเจาะกลุ่มทั่วไป โดยบริษัทมองว่ากลุ่มลูกค้าของ The 1 Card ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานปีนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดบัตรใหม่อยู่ที่ 7.5 หมื่นใบ จากฐานบัตรปัจจุบันอยู่ที่ 7.5 แสนใบ โดยในช่วง 6 เดือนแรกสามารถออกบัตรใหม่ได้แล้วกว่า 3 หมื่นใบ ส่วนใหญ่ประมาณ 98% เป็นฐานลูกค้าบัตร Central the 1 credit card (Red) และที่เหลือเป็นลักชัวรี
ส่วนฐานลูกค้าบัตรที่มีอยู่ 7.5 แสนใบ จะแบ่งเป็น บัตรเดอะ แบล็ค มีประมาณ 300 ใบ มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ย 3 แสนบาทขึ้นไปต่อเดือน เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นกลุ่มลูกค้าเชิญ จึงมีจำนวนไม่มาก บัตรแบล็ค 4,000 ใบ ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 1.5 แสนบาทต่อเดือน บัตรลักชัวรี 4 หมื่นใบ ใช้จ่ายผ่านบัตร 7.5 หมื่นบาทต่อเดือน และที่เหลือจะเป็นบัตรเรด ซึ่งมียอดใช้จ่าย 1 หมื่นบาทต่อเดือน ทั้งนี้ยอดการอนุมัติบัตร (Approval Rate) เฉลี่ยทรงตัวกับปีก่อนอยู่ที่ระดับ 45% หากเป็นกลุ่มรายได้สูง เช่น บัตรลักชัวรี ยอดการอนุมัติจะสูงถึง 60-70%
อย่างไรก็ดีมาตรการควบคุมสินเชื่อภายใต้การกำกับดูแลของธปท.มีผลกระทบกับพอร์ตบริษัทไม่มากนัก เพราะฐานลูกค้าส่วนใหญ่รายได้ค่อนข้างสูง จะเห็นว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ค่อนข้างตํ่ากว่าระบบ และตํ่าที่สุดในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์
“ปีนี้เราจะทยอยทำแพลตฟอร์มหาลูกค้าใหม่ และทำบิ๊กดาต้าในการวิเคราะห์ลูกค้าและออกโปรโมชันให้ตรงกลุ่มลูกค้า โดยเราจะทำครอสเซลกับลูกค้าเซ็นทรัล กรุ๊ป โดยเราจะคัดลูกค้าระดับบนก่อนและค่อยทยอยเจาะลูกค้าทั่วไป เราเชื่อว่าฐานลูกค้าในเครือเซ็นทรัลมีจำนวนมาก และเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,302 วันที่ 5 - 7 ตุลาคม พ.ศ. 2560
