ธ.ก.ส. แจงยอดผลการดำเนินงานการแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สัปดาห์แรกมีผู้รับบัตรแล้ว 4.1 ล้านราย หรือคืบหน้ากว่า 60% ระบุมีทั้งดำเนินการส่งมอบที่สาขา และลงพื้นที่แจกถึงหมู่บ้าน พร้อมเน้นให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใช้บัตร และสิทธิประโยชน์ต่างๆ
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากการ ลงทะเบียนโครงการสวัสดิการรัฐ ปี 2560 ทั้งหมด 14.1 ล้านราย ลงทะเบียนผ่าน ธ.ก.ส. 7.7 ล้านราย และผ่านการ ตรวจสอบคุณสมบัติทั้งสิ้น 6.17 ล้านราย ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้ดำเนินการแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้กับผู้มีสิทธิรับบัตรสวัสดิการรัฐตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2560 เป็นต้นมา โดยผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2560 สามารถแจกบัตรดังกล่าวไปได้แล้ว 4.1 ล้านราย หรือคิดเป็น 66.48 ของยอดทั้งหมด
สำหรับการใช้บัตรสวัสดิการที่เริ่มต้นเมื่อวันที่ 1ตุลาคมนั้น ผู้มีสิทธิสามารถนำบัตรสวัสดิการไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในร้านธงฟ้า จำนวน 200 บาทต่อเดือน กรณีเป็นผู้มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาทต่อปี และจำนวน 300 บาทต่อเดือน กรณีเป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี นอกจากนี้แล้ว ยังได้รับส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนด 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน หรือใช้ในการเดินทางด้วยรถโดยสาร ขสมก./รถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน รถ บขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน และรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน
นายอภิรมย์ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า เนื่องจากผู้ที่ลงทะเบียนไว้และผ่านคุณสมบัติยังไม่ได้ไปรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมทั้งการนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าประชารัฐในช่วงแรกอาจทำให้ไม่ได้รับความสะดวก และไม่ สามารถใช้วงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น เพื่อให้ผู้มีสิทธิมีเวลาในการทำความคุ้นเคยกับการใช้บัตร ซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ และสวัสดิการอื่นๆ กรมบัญชีกลางจึงจะยกยอดวงเงินคงเหลือจากการซื้อสินค้าร้านธงฟ้า ประชารัฐและสวัสดิการทุกประเภทของเดือนตุลาคม ให้ไปใช้ต่อได้ในเดือนพฤศจิกายน 2560 อีก 1 เดือน
“ในส่วนของ ธ.ก.ส. นอกเหนือจากการส่งมอบบัตร ณ ที่ทำการของสาขาแล้ว ยังมีนโยบายให้พนักงานลงพื้นที่ส่งมอบบัตรสวัสดิการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิถึงในตำบลและหมู่บ้าน รวมทั้งได้ดำเนินการชี้แจงให้ความรู้แก่เกษตรกร อาทิ เงื่อนไข สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ วิธีการใช้บัตร ตลอดจนข้อระมัดระวัง โดยจัดเตรียมทำเอกสาร ข้อแนะนำมอบให้เกษตรกรด้วย”