นายกฯ เร่งโครงข่าย ICT ดันไทยฮับอินเตอร์เน็ต
นายกฯ เดินหน้า “ไทยแลนด์ 4.0” ลุยเปิด “เน็ตประชารัฐและเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ” ระบบ AAE-1 ปฏิรูปประเทศไทย ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตภูมิภาค
[caption id="attachment_215374" align="aligncenter" width="503"]
เปิดเน็ตประชารัฐ..พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดงานเน็ตประชารัฐและเคเบิลใต้นํ้าระหว่างประเทศระบบ AAE-1 ปฏิรูปประเทศ ผลักดันไทยก้าวสู่ศูนย์กลางการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตภูมิภาค ASEAN Digital Hub ที่ จ.สตูล[/caption]
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า โครงการ “เน็ตประชารัฐ” ขยายโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 24,700 หมู่บ้าน และการลงทุนสร้าง “เคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ” ระบบ Asia-Africa-Europe-1 หรือ AAE-1 ความจุสูง ระบบแรกที่มีเส้นทางหลักผ่านประเทศไทย ด้วยความยาวถึง 25,000 กิโลเมตร ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต หรือ ASEAN Digital Hub เพื่อรองรับการใช้งานในอนาคต
สำหรับโครงการเน็ตประชารัฐ เป็นการขยายโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสื่อสัญญาณสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (FTTx) เพื่อเพิ่มช่องทางการขาย ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและก่อให้เกิดความเท่าเทียมในสังคม ปัจจุบัน เน็ตประชารัฐได้ติดตั้งแล้วเสร็จจำนวน 16,375 หมู่บ้าน (ณ 26 ก.ย. 2560) คิดเป็น 66.29% แบ่งเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 13,435 หมู่บ้าน ติดตั้งแล้วเสร็จ 9,007 หมู่บ้าน, ภาคเหนือ จำนวน 4,398 หมู่บ้าน ติดตั้งแล้วเสร็จ 2,761 หมู่บ้าน, ภาคใต้ จำนวน 4,398 หมู่บ้าน ติดตั้งแล้วเสร็จ 2,287 หมู่บ้าน, ภาคกลาง จำนวน 2,072 หมู่บ้าน ติดตั้งแล้วเสร็จ 1,348 หมู่บ้าน, ภาคตะวันออก จำนวน 1,542 หมู่บ้าน ติดตั้งแล้วเสร็จ 913 หมู่บ้าน, กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 81 หมู่บ้าน ติดตั้งแล้วเสร็จ 59 หมู่บ้าน
[caption id="attachment_132082" align="aligncenter" width="503"]
พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี[/caption]
ทางด้าน นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า เคเบิลใต้น้ำ ระบบ Asia-Africa-Europe-1 หรือ AAE-1 เป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัทโทรคมนาคมระหว่างประเทศอีก 17 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส, อิตาลี, กรีซ, อียิปต์, ซาอุดีอาระเบีย, จิบูตี, เยเมน, กาตาร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, โอมาน, ปากีสถาน, อินเดีย, เมียนมา, กัมพูชา, เวียดนาม, ฮ่องกง, มาเลเซีย และสิงคโปร์ ใช้งบลงทุน 2.7 หมื่นล้านบาท โดยไทยลงทุนเป็นจำนวนเงิน 1,700 ล้านบาท
จุดเด่นโครงการนี้ คือ เมื่อมาขึ้นบกที่ จ.สตูล แล้ว ทำให้ไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกา ซึ่งสามารถลดต้นทุนไปได้กว่า 1,000 กิโลเมตร ด้วยนวัตกรรมดิจิตอลแลนด์บริดจ์ ที่มีในปากบารา จ.สตูล ระยะทางที่ลดลงทำให้ประสิิทธิภาพของสัญญาณดีขึ้น ความจุรวมในปัจจุบันนั้นเพิ่มขึ้นถึง 40 TB หรือ 40 Tbps ซึ่งเร็วกว่ากิกะบิต 3 เท่า และสามารถใช้งานได้อย่างน้อย 3 ปี
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,302 วันที่ 5-7 ต.ค. 2560
[caption id="attachment_215374" align="aligncenter" width="503"]
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า โครงการ “เน็ตประชารัฐ” ขยายโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 24,700 หมู่บ้าน และการลงทุนสร้าง “เคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ” ระบบ Asia-Africa-Europe-1 หรือ AAE-1 ความจุสูง ระบบแรกที่มีเส้นทางหลักผ่านประเทศไทย ด้วยความยาวถึง 25,000 กิโลเมตร ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต หรือ ASEAN Digital Hub เพื่อรองรับการใช้งานในอนาคต
สำหรับโครงการเน็ตประชารัฐ เป็นการขยายโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสื่อสัญญาณสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (FTTx) เพื่อเพิ่มช่องทางการขาย ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและก่อให้เกิดความเท่าเทียมในสังคม ปัจจุบัน เน็ตประชารัฐได้ติดตั้งแล้วเสร็จจำนวน 16,375 หมู่บ้าน (ณ 26 ก.ย. 2560) คิดเป็น 66.29% แบ่งเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 13,435 หมู่บ้าน ติดตั้งแล้วเสร็จ 9,007 หมู่บ้าน, ภาคเหนือ จำนวน 4,398 หมู่บ้าน ติดตั้งแล้วเสร็จ 2,761 หมู่บ้าน, ภาคใต้ จำนวน 4,398 หมู่บ้าน ติดตั้งแล้วเสร็จ 2,287 หมู่บ้าน, ภาคกลาง จำนวน 2,072 หมู่บ้าน ติดตั้งแล้วเสร็จ 1,348 หมู่บ้าน, ภาคตะวันออก จำนวน 1,542 หมู่บ้าน ติดตั้งแล้วเสร็จ 913 หมู่บ้าน, กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 81 หมู่บ้าน ติดตั้งแล้วเสร็จ 59 หมู่บ้าน
[caption id="attachment_132082" align="aligncenter" width="503"]
ทางด้าน นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า เคเบิลใต้น้ำ ระบบ Asia-Africa-Europe-1 หรือ AAE-1 เป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัทโทรคมนาคมระหว่างประเทศอีก 17 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส, อิตาลี, กรีซ, อียิปต์, ซาอุดีอาระเบีย, จิบูตี, เยเมน, กาตาร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, โอมาน, ปากีสถาน, อินเดีย, เมียนมา, กัมพูชา, เวียดนาม, ฮ่องกง, มาเลเซีย และสิงคโปร์ ใช้งบลงทุน 2.7 หมื่นล้านบาท โดยไทยลงทุนเป็นจำนวนเงิน 1,700 ล้านบาท
จุดเด่นโครงการนี้ คือ เมื่อมาขึ้นบกที่ จ.สตูล แล้ว ทำให้ไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกา ซึ่งสามารถลดต้นทุนไปได้กว่า 1,000 กิโลเมตร ด้วยนวัตกรรมดิจิตอลแลนด์บริดจ์ ที่มีในปากบารา จ.สตูล ระยะทางที่ลดลงทำให้ประสิิทธิภาพของสัญญาณดีขึ้น ความจุรวมในปัจจุบันนั้นเพิ่มขึ้นถึง 40 TB หรือ 40 Tbps ซึ่งเร็วกว่ากิกะบิต 3 เท่า และสามารถใช้งานได้อย่างน้อย 3 ปี
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,302 วันที่ 5-7 ต.ค. 2560
