ในขณะที่ประเทศไทยกำลังมุ่งหน้าไปสู่ ไทยแลนด์ 4.0 แนวทางการบริหารบุคลากรของกลุ่มธุรกิจเอ็มบีเค ก็พยายามผลักดันและมุ่งหน้าไปในแนวทาง เอชอาร์ 4.0 เช่นกัน
“เกษมสุข จงมั่นคง” รองกรรมการผู้อำนวยการสายการเงินและบริหาร บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) เล่าว่า เอ็มบีเคกรุ๊ป มีทั้งหมด 8 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย 1. กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า 2. กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว 3. กลุ่มธุรกิจกอล์ฟ 4. กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 5. กลุ่มธุรกิจข้าว 6. กลุ่มธุรกิจการเงิน 7. กลุ่มธุรกิจอื่นๆ และ 8. กลุ่มธุรกิจสนับสนุน ซึ่งกลุ่มที่ 8 นี้ คือ กลุ่มที่ทำหน้าที่สนับสนุนงานส่วนกลางทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เอชอาร์ ไอที จัดซื้อ การเงิน และอื่นๆ
[caption id="attachment_215192" align="aligncenter" width="271"]
เกษมสุข จงมั่นคง[/caption]
การบริหารกลุ่มธุรกิจที่มีความหลากหลาย จะมีการส่งต่อนโยบาย รวมทั้งโครงการต่างๆ ออกไปจากส่วนกลาง ในลักษณะของ Insight out ทั้งเรื่องของการจัดการความรู้ (Knowledge management :KM) เรื่องของวัฒนธรรมองค์กร เพราะทุกส่วนจะต้องมี Core Value หรือ Core Competency ตัวเดียวกัน แม้แต่เรื่อง สมรรถนะของผู้บริหาร (Managerial Competency) ก็เป็นตัวเดียวกัน จะมีเพียงสมรรถนะตามบทบาทหน้าที่ (Functional Competency: FC) เท่านั้นที่แต่ละคนจะมีต่างกัน
Core Value ของเอ็มบีเคกรุ๊ป มี “SMOOTHC” เป็นตัวขับเคลื่อน ได้แก่ S-Service Mind คือ จิตบริการ M-Merrit & Integrity ทำงานโปร่งใส O-Openness มีความซื่อสัตย์ในองค์กร O-Ownership มีความรักในองค์กร T-Teamwork สร้างทีมเวิร์ก H-High Commitment ความมุ่งมั่น และ C-Continuous Learning สร้างสรรค์การเรียนรู้ ซึ่งทั้ง 7 ตัวนี้พนักงานเอ็มบีเคกรุ๊ปกว่า 3,500 คน ต้องมีส่วนใครจะมีมากมีน้อย ดูกันที่ระบบการบริหารผลการปฏิบัติงาน (PMS : Performance Management System) ซึ่งจะมีลักษณะการประเมิน Care Value และ Managerial Competency ซึ่งจะเป็นอีก 3 ตัวถัดมา คือ Leadership นำการเปลี่ยนแปลง Decisiveness กล้าตัดสินใจ และ People Development สร้างคนเก่ง คนดี ทั้ง 3 ตัวนี้ เป็น Managerial Competency ที่คนที่มีลูกน้องมากกว่า 1 คนขึ้นไปจะต้องมี
ส่วนระดับ Functional Competency เป็นลักษณะงานในแต่ละสายงาน เช่น สายบัญชี สายวิศวกรรม แต่ละคนจะมี Competency ที่ไม่เหมือนกัน และในส่วนของเคพีไอ มีหลายระดับชั้น เริ่มจากระดับกรุ๊ป แล้วลงมาระดับบียู ระดับแผนก โดยปีนี้ได้เพิ่มเติม การกําหนดตัวชี้วัดรายบุคคล (Individual KPIs) เข้ามาอีก 1 ตัว เพราะแต่ละคนทำงานไม่เหมือนกัน พนักงานแต่ละคน มีสิทธิเสนอ เคพีไอของตัวเอง แต่จะมีคณะกรรมการกลั่นกรอง ดูว่าสิ่งที่เสนอมาตรงกับงานของ เขาหรือเปล่า และถ้าเขาบรรลุเคพีไอตัวเองได้แล้ว ก็ต้องบรรลุเคพีไอของฝ่ายได้ด้วย มันจะต้องสอดรับกัน ต้องบรรลุได้ทั้งหมด ต้องเริ่มจากข้างล่างค่อยๆ ขึ้นไป
ผลที่คาดว่าจะได้รับ จากการเอา Individual KPIs มาใช้ จะทำให้เอ็มบีเค สามารถกำหนดกลยุทธ์ในการทำงาน รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรได้อย่างชัดเจนมากขึ้น โดยต่อไปนี้การทำงานทุกอย่างต้องมีแอกชันแพลน เพื่อการติดตามผลได้ในทุกขั้นตอน
และในส่วนของการมุ่งสู่ เอชอาร์ 4.0 คือ การรวบกระบวนการทำงานให้มีความกระชับ ไม่ซํ้าซ้อน และเน้นการนำดิจิตอลเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพงานมากขึ้น รวมถึงการใช้กระดาษให้น้อยลง (paperless) โดยมีการจัดตั้งคณะทำงานพิเศษขึ้นมาวิเคราะห์ แต่ละขั้นตอนการทำงานของเอ็มบีเค มีอะไรที่ยังเป็น Manual ยังซํ้าซ้อน นำไปวิเคราะห์ แล้วก็ปรับลดขั้นตอน (Lean Process) เสียใหม่
อีกสิ่งหนึ่งที่เอ็มบีเคกรุ๊ปได้พยายามพัฒนามาตลอด คือ การทำ Pool Talent หรือดาวเด่นของเอ็มบีเค โดยคัดเลือกจากพนักงานที่ทำงาน 2 ปีขึ้นไป ผลการทำงานไม่ตํ่ากว่า B มีความประพฤติที่ดี ก็คัดเข้ามา และวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อนของเขา พร้อมทั้งพัฒนาให้เขามีศักยภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น เป็นการสนับสนุนให้เขาเติบโตได้ในเอ็มบีเคกรุ๊ป โดยกลุ่มนี้มีประมาณ 50-70 คน
และปีที่ผ่านมา เอ็มบีเคได้เริ่มทยอยปรับฐานโครงสร้างเงินเดือนใหม่ ด้วยการ benchmark กับอุตสาหกรรม เป็นรายตำแหน่งงาน มีการประเมินค่างาน (Job Evaluation) จากเมื่อก่อนการปรับเงินเดือนจะใช้วิจารณญาณของผู้บริหาร ซึ่งจะทำให้การประเมินการปรับเงินเดือนของแต่ละคนมีเหตุมีผลที่ชัดเจน
ส่วนของการสรรหาบุคลากรใหม่ๆ เนื่องจากเอ็มบีเคกรุ๊ปมีการขยายเงินเพิ่มทุกปี ทำให้ต้องรับพนักงานใหม่จำนวนมาก การสร้าง HR Branding จึงถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะกระตุ้นให้แรงงานสนใจเข้ามาสมัครทำงานในองค์กร เรื่องนี้เป็นส่วนที่เอ็มบีเคกำลังดำเนินการไปพร้อมๆ กับการทำทวิภาคีกับสถานศึกษาให้น้องๆ ฝึกงาน เป็นการสร้างความผูกพันระหว่างรุ่นพี่ที่ทำงานอยู่ในเอ็มบีเคกรุ๊ป กับน้องๆ ร่วมสถาบัน
“เกษมสุข” บอกว่า วิธีการพัฒนาระบบบริหารบุคลากร จะเริ่มจากบริษัท เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ แล้วค่อยๆ ขยายไปในกลุ่มงานอื่นๆ โดยจะมีการวางแผนงานระยะ 5 ปีในแต่ละครั้ง และทั้งหมดจะเสร็จเรียบร้อยทั้ง 8 กลุ่มธุรกิจ ภายในปี 2562
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,302 วันที่ 5 - 7 ตุลาคม พ.ศ. 2560