ไทย-สหรัฐฯหารือเต็มคณะ ขับเคลื่อนความร่วมมือทุกมิติ

03 ตุลาคม 2560
ไทยและสหรัฐฯยืนยันในความสัมพันธ์ที่เข้มแข็ง พร้อมขับเคลื่อนความร่วมมือในทุกมิติ

หารือเต็มคณะ_๑๗๑๐๐๓_0007 วันที่ 2 ตุลาคม 2560  เวลา 17.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงผลการหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณประธานาธิบดีสหรัฐฯและภริยา สำหรับการต้อนรับอย่างดียิ่ง เต็มไปด้วยมิตรไมตรี และบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเอง ซึ่งนับว่าการเยือนสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเยือนในระดับนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการของไทยในรอบ 12 ปี ประสบผลสำเร็จน่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง และนายกรัฐมนตรีได้ใช้โอกาสนี้ แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ภัยพิบัติจากพายุเฮอริเคนที่เปอโตริโก และเหตุโศกนาฎกรรมที่ลาสเวกัสด้วย ไทย-สหรัฐฯมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดเป็นมิตรกันมายาวนาน 184 ปีในปีนี้ และย้อนไปเกือบ 200 ปีสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน

หารือเต็มคณะ_๑๗๑๐๐๓_0005 ทั้งนี้ ไทยและสหรัฐฯ ต่างมีนโยบายและแนวทางเดียวกัน คือ การให้ความสำคัญกับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งนโยบาย America First ของ นายโดนัลด์  เจ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สอดคล้องและเชื่อมโยงกับนโยบาย Thailand 4.0 ของไทย  เพื่อชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน อย่างเท่าเทียมและคลอบคลุม

หารือเต็มคณะ_๑๗๑๐๐๓_0006 ในการหารือเต็มคณะ นายกรัฐมนตรีได้เผยถึงประเด็นต่างๆ ได้แก่ ด้านความมั่นคง ซึ่งนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีสหรัฐฯได้เห็นพ้องร่วมกันว่าเป็นเสาหลักสำคัญของความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศ และมีส่วนสำคัญในการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก  ซึ่งตัวอย่างความร่วมมือที่ดีได้แก่ การฝึกซ้อม Cobra Gold พร้อมกันนี้ ไทยและสหรัฐฯจะขยายความร่วมมือเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญนาง Ivanka Trump บุตรสาวประธานาธิบดีสหรัฐฯที่มีความสนใจและมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ เยือนไทยเพื่อดูงานและความพยายามของรัฐบาลในการแก้ปัญหา นอกจากนี้ จะขยายความร่วมมือด้านการต่อต้านการก่อการร้ายและส่งเสริมความมั่นคงทางไซเบอร์ ด้านข่าวกรอง พร้อมทางหาแนวทางว่าจะร่วมมือกันอย่างไรเพื่อเสริมสร้างสันติสุขในภูมิภาค รวมทั้ง การถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการป้องกันประเทศ ด้วย

หารือเต็มคณะ_๑๗๑๐๐๓_0001 ด้านความร่วมมือเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาค ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างกว้างขวางในประเด็นต่างๆ เช่น สถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี ซึ่งไทยยืนยันดำเนินการตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( UNSC) และสนับสนุนให้เกาหลีเหนือเข้าสู่การเจรจา ส่วนสถานการณ์ในรัฐยะไข่ ไทยและสหรัฐฯร่วมผลักดันการแก้ปัญหา ตามหลักมนุษยธรรม รวมทั้งการแก้ไขปัญหาในระยะยาวด้วย

หารือเต็มคณะ_๑๗๑๐๐๓_0002 การค้าและการลงทุน ตามสนธิสัญญาไมตรีและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ปี ค.ศ 1966 ทำให้นักธุรกิจอเมริกันได้ประโยชน์เหมือนคนไทยในการลงทุนที่ประเทศไทย พร้อมทั้ง ร่วมผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างกันให้สูงขึ้น โดยกลไกที่มีอยู่ พร้อมตั้งกลไกใหม่ๆเพื่อสนับสนุนหามีปัญหาติดขัด โดยขณะนี้ นักลงทุนไทยมีการลงทุนในสหรัฐฯทั้งหมด 23 บริษัท มูลค่าการลงทุนรวม 5.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีแผนเพิ่มการลงทุนอีกรวม 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จะสามารถสร้างงานได้มากกว่า 8,000 ตำแหน่ง จึงขอให้สหรัฐฯได้สนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนไทยเหล่านี้ พร้อมทั้ง ขอให้สหรัฐฯ เปิดตลาดสินค้าเกษตรไทยมากขึ้น

ภายหลังการหารือ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างบริษัท PTTGC America LLC กับหน่วยงาน JobsOhio ว่าด้วยความร่วมมือในการศึกษา วางแผน และจัดทำโครงการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนในพื้นที่เขตเบลมอนต์ (Belmont County) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานปิโตรเคมี ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว