สปป.ลาวและมาเลเซีย ลงนามซื้อขายไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์ ใช้ไทยเป็นทางผ่านถือเป็นความร่วมมือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังเจรจารายละเอียดค่าไฟได้ข้อยุติ โดยลาวจะได้ค่าไฟฟ้าจากการขายให้มาเลเซียประมาณ 6.3 เซนต์สหรัฐฯต่อหน่วย ส่วนไทยจะได้ค่าผ่านสายส่งค่า (wheeling charge ) 0.86 เซ็นต์สหรัฐฯต่อหน่วย
ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน หรือ ASEAN Ministers on Energy Meetings -AMEM ครั้งที่ 35 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ไฮไลท์สำคัญที่สุดของงานถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของความร่วมมือด้านพลังงานของอาเซียนที่เป็นรูปธรรม โดยมีการลงนามซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง3ประเทศได้แก่ สปป.ลาว -ไทย และมาเลเซีย ที่จะมีผลให้เกิดการเริ่มซื้อขายไฟฟ้ากันในทางปฏิบัติ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561
[caption id="attachment_213221" align="aligncenter" width="503"]
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์[/caption]
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรัว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนดังกล่าว ทั้ง ไทย สปป.ลาว และมาเลเซีย ได้มีการลงนามซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกันที่มีมากกว่า 2 ประเทศ โดยมาเลเซีย จะซื้อไฟฟ้าจากสปป.ลาว ผ่านระบบสายส่งของไทย จำนวน100 เมกะวัตต์ ในราคารวมประมาณ 7.16 เซ็นต์สหรัฐฯต่อหน่วย ซึ่งแบ่งเป็นค่าไฟฟ้าที่สปป.ลาวจะได้รับประมาณ 6.3 เซนต์สหรัฐฯต่อหน่วย และเป็นค่าผ่านสายส่งค่า (wheeling charge )ที่ไทยจะได้รับ 0.86 เซ็นต์สหรัฐฯต่อหน่วย มีระยะเวลาการซื้อขายตามสัญญา 2 ปี
ทั้งนี้หากความร่วมมือดังกล่าวประสบความสำเร็จ จะถือเป็นจุดเริ่มต้นของการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างอาเซียน ที่มีระบบสายส่งเชื่อมโยงถึงกัน (ASEAN Power Grid ) ที่มีการริเริ่มโครงการมานานกว่าสิบปีแล้ว
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ ในการประชุมAMEM ครั้งที่ 34 ที่กรุงเนปยีดอ ประเทศเมียนมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของไทย พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ ก็ได้เดินทางไปร่วมประชุมและลงนามบันทึกความเข้าใจโครงการ LTM on Power Integration Project ร่วมกับรัฐมนตรีจากลาวและมาเลเซีย มาแล้ว และนำมาสู่การเจรจาร่วมกันในรายละเอียด และการลงนามซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกันในที่สุด
สำหรับโครงการ LTM on Power Integration Project อยู่ในแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานอาเซียน 2016-2025 ในระยะที่ 1 ระหว่างปี 2016-2020 โดย มาเลเซียนั้นมีความต้องการซื้อไฟฟ้าจาก ลาว และไทยก็เป็นประเทศที่มีศักยภาพความพร้อมในเรื่องระบบสายส่ง