การพัฒนา‘อีอีซี’ในสายตาสภาอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา

จังหวัดฉะเชิงเทรา ถือเป็น 1 ใน 3 จังหวัด ของการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี ซึ่งที่ผ่านมาทางสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือสกรศ.ได้ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นและสร้างความเข้าใจกับทุกภาคส่วนมาเป็นระยะๆ เพื่อนำข้อคิดเห็นไปปรับแผนให้สอดคล้องกับการพัฒนาจังหวัด“ฐานเศรษฐกิจและสื่อในเครือสปริงนิวส์ กรุ๊ป” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์นายร่มไทร ทิพยเศวต ประธานสภาอุตสาหกรรม จังหวัดฉะเชิงเทราสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะผู้ที่อยู่ในพื้นที่และมีส่วนในการขับเคลื่อนของภาคอุตสาหกรรม ได้มีมุมมองต่อการพัฒนาอีอีซีไว้อย่างน่าสนใจ

++เร่งโครงสร้างพื้นฐาน
นายร่มไทร สะท้อนให้เห็นว่าในฐานะนักธุรกิจแล้ว ต้องการให้ภาครัฐดำเนินการใน 3วัตถุประสงค์หลักให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเร่งดำเนินงานด้านโครงสร้างพื้นฐาน อย่างรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ การก่อสร้าง 3 ท่าเรือการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาการก่อสร้างถนนเส้นทางต่างๆรวมถึงการพัฒนาดิจิตอลต่างๆให้สำเร็จได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะใน 10กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย

ส่วนเรื่องกฎระเบียบหรือกฎหมายข้อบังคับต่างๆ ที่รัฐจะออกมาเพื่อสนับสนุนให้การลงทุนเกิดความคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซื้อที่ดิน การให้สิทธิ์ การถือครองสิทธิ์ต่างๆของชาวต่างชาติ นักลงทุนอยากเห็นความชัดเจนของพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ให้สามารถประกาศบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

อีกทั้ง อยากเห็นการสนับสนุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ ให้กับ 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ระหว่างอุตสาหกรรมเป้าหมายเดิมกับอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ มีความแตกต่างกันอย่างไรในการให้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน เพราะ 3 เรื่องนี้ จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการลงทุนจริงๆเกิดขึ้น หรือดึงนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาได้

[caption id="attachment_213039" align="aligncenter" width="503"] ร่มไทร ทิพยเศวต ประธานสภาอุตสาหกรรม จังหวัดฉะเชิงเทราสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)[/caption]

++วางแผนรับวันเบลต์วันโรด
นอกจากนี้ มองว่า การจะให้อีอีซีเกิดขึ้นตามแผนได้นั้น ในระยะสั้นต้องสอดรับกับวันเบลต์วันโรดของจีนด้วย ซึ่งจะทำให้มีพลังการขับเคลื่อนในภูมิภาค โดยใช้อีอีซีเป็นตัวเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่ดีตามที่รัฐมุ่งหวังได้ น่าจะเป็นประเด็นหลัก ที่ทางภาคเอกชนหรือว่าผู้ประกอบการมุ่งหวังจากอีอีซี ในส่วนที่น่าจะเกิดขึ้น

++ตั้งรับแรงงานขาดแคลน
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาอีอีซีให้สำเร็จลงได้ จะต้องมองไปถึง 1.เรื่องของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในเรื่องการศึกษาถือเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐจะต้องเข้ามาเร่งดำเนินการในเรื่องการนำเทคโนโลยีเข้ามา ในการนำนวัตกรรมเข้ามาขับเคลื่อน10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของไอโอที เรื่องการศึกษาในเชิงการนำนวัตกรรม หรือการศึกษาในเชิงให้ความรู้ สิ่งเหล่านี้เป็นประเด็นแรก

รวมถึงการพัฒนาด้านแรงงาน ในส่วนระดับอาชีวะต้องสอดรับกับความต้องการ เพราะถ้ากลับไปดูโจทย์ของประเทศที่ก้าวข้ามผ่านกับดักรายได้ปานกลางไปแล้ว จะพบว่าแรงงานในภาคของอาชีวะมีถึง 48% เพื่อไปรองรับการปรับตัวหรือการใช้เทคโนโลยีระดับสูงเข้ามา แต่ในพื้นที่อีอีซีมีแรงงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาชีวะมีแค่ 14% เท่านั้น

นอกจากนี้ เรื่องการประชาสัมพันธ์การสื่อสารให้ข้อมูล ยังเป็นเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน อย่างกรณีของจังหวัดฉะเชิงเทราที่วางให้เป็นเมืองใหม่ แต่ภาครัฐยังไม่มีการประชาสัมพันธ์หรือทำความเข้าใจมากนัก ถึงรูปแบบที่จะเกิดขึ้น โดยเชื่อว่าฉะเชิงเทราจะเป็นเมืองที่มีการขยายตัว แต่ข้อพึงระวังในเชิงสังคม เชิงผังเมือง กับการอยู่ร่วมกันระหว่างผู้พักอาศัยกับพื้นที่สีเขียวในเชิงเกษตรกับการพัฒนาในเชิงอุตสาหกรรมอย่างเหมาะสมและเป็นสัดส่วน

++ยกระดับอาร์แอนด์ดี
อีกทั้ง มีอุปสรรคที่สำคัญ คือการวิจัยและพัฒนาหรืออาร์แอนด์ดี ที่ยังเป็นจุดของประเทศ และถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการจะทำให้อีอีซีขับเคลื่อนและได้รับความสนใจ และเชื่อว่าเป็นคำถามที่อยู่ในใจของนักลงทุน หรือหลายๆฝ่ายเสมอว่า อีอีซีเข้ามาแล้วจะประสบความสำเร็จจริงหรือไม่ รัฐจะทำให้ฝันเหล่านี้เป็นจริงได้มากน้อยเพียงใด

ในนามประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ก็ต้องวิงวอนฝากไปถึงทุกๆฝ่าย ให้มีความร่วมมือกัน เพราะเป็นโอกาสและเกิดประโยชน์กับประเทศ และเชื่อว่าสิ่งที่รัฐวางไว้น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่คงต้องใช้ระยะเวลาเกินกว่า5ปีขึ้นไปอย่างแน่นอน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,300 วันที่ 28 - 30 กันยายน พ.ศ. 2560