แห่ลุยหุ้นอินเดียไม่หวั่นขึ้นแรง บลจ.เชื่อศก.โต-‘กรุงศรี’ชี้ดัชนีขาขึ้นยาว10ปี

29 ก.ย. 2560 | 13:19 น.
นักลงทุนมั่นใจตลาดหุ้นอินเดียสดใส ไม่กังวลหุ้นอาจปรับฐาน หลังขึ้นแรงปีนี้“บลจ.บัวหลวง”IPOทะลุพันล้านต้องเพิ่มขนาดกองทุนรองรับ “กรุงศรี” ชี้ตลาดเพิ่งเริ่มสตาร์ต ปัจจัยบวกหนุนยาว

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เปิดขายครั้งแรก (ไอพีโอ) กองทุนที่มีนโยบายลงทุนตลาดหุ้นอินเดียในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนให้การตอบรับแน่น โดยบลจ.บัวหลวงฯเปิดขายกองทุนเปิดบัวหลวงภารตะ (B-BHARATA) ยอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาทเกินจำนวนกำหนด จนต้องเพิ่มขนาดกองทุนเป็น 1,500 ล้านบาท มียอดไอพีโอทั้งสิ้น 1,280 ล้านบาท ส่วนกองทุนเปิดกรุงศรีอินเดียอิควิตี้ (KF-INDIA) ของบลจ.กรุงศรีฯ มียอดไอพีโอ 990 ล้านบาท

นายเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บลจ.กรุงศรีฯ เปิดเผยว่า ปีนี้ตลาดหุ้นอินเดียปรับตัวขึ้นประมาณ 22% จากต้นปี จนราคาปัจจุบันไม่ได้ถูกมากแต่ก็ไม่แพงจนเกินไปและแนวโน้มน่าจะไปต่อได้ โดยระดับราคาซื้อขาย (พี/อี) ใน 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 18 เท่า สูงกว่าในอดีตตามการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดีย ซึ่งแนวโน้ม 5-6 ปีข้างหน้าเติบโตได้ค่อนข้างดีเกือบ 8% สูงมากเมื่อเทียบประเทศตลาดเกิดใหม่คาดเติบโต 5-6%
นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ผลประกอบการบริษัทในตลาดหุ้นอินเดีย 2 ปีข้างหน้าจะเติบโต 10-15% สูงกว่าตลาดหุ้นทั่วโลกคาดว่าจะเติบโต 10% ทำให้ทิศทางตลาดหุ้นอินเดียน่าจะไปในทิศทางเดียวกับการเติบโตของกำไรตลาดหุ้น

นายเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นอินเดียปกติจะซื้อขายแพงกว่าดัชนี MSCI EM ประมาณ 1.4 เท่า ซึ่งปัจจุบันก็ยังอยู่ระดับนี้ แม้ปีนี้ตลาดหุ้นอินเดียขึ้นแรง แต่ตลาดหุ้นอื่นๆ ก็ขึ้น เช่น บราซิล จีน ขณะที่อินเดียขึ้นแรงกว่าเพราะมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย การปฏิรูปในหลายด้าน ด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงการเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายโมดิทำให้การเมืองมีเสถียรภาพ ช่วงที่ผ่านมาแม้หุ้นอินเดียจะปรับฐานลงก็ลงไม่มาก แนวโน้มระยะกลางและยาวยังดี พอมีแรงขายก็มีแรงซื้อเข้ามา

MP19-3300-A “สตอรีอินเดียมีค่อนข้างมาก จึงเป็นตลาดที่ลงทุนได้เป็น 10 ปี เราจึงมองเป็นการเริ่มขึ้นของตลาดหุ้นอินเดียขณะที่ความเสี่ยงของอินเดียมี 2 เรื่อง คือ 1.ความเสี่ยงที่ตลาดอาจปรับฐานลงมาหลังราคาขึ้นไปมากและ 2.นโยบายของนายโมดิจะทำได้เร็วและมีประสิทธิภาพแค่ไหน แต่ในด้านการลงทุนไม่รู้ว่าตลาดจะปรับฐานช่วงไหน จึงแนะนำให้เข้าลงทุนบางส่วนและรอจังหวะลงทุนเพิ่ม” นายเกียรติศักดิ์ กล่าว

นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ จก. เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดเกิดใหม่ที่ผลตอบแทนโดดเด่นในปีนี้ และคาดว่านโยบายปฏิรูปภาษีหรือ GST จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติช่วยสนับสนุนการขยายตัวเศรษฐกิจในระยะกลางถึงยาว

สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นอินเดีย (SCBINDIA) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ iShares India 50 ETF มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของ CNX NIFTY Index ซึ่งมีผลดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 25.31% ข้อมูล ณ วันที่ 14 กันยายน 2560 และล่าสุดจ่ายปันผลจากผลดำเนินงานวันที่1 มีนาคม-31 สิงหาคม 2560 ในอัตรา 0.0974บาทต่อหน่วย เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2560

นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบริหารช่องทางจัดจำหน่าย บลจ.แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จก. กล่าวว่า อินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมาก การบริโภคภายในประเทศที่สูงรวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานจะทำให้เศรษฐกิจของอินเดียเติบโตส่งผลดีต่อการลงทุน

ด้านกองทุนเปิดแมนูไลฟ์สเตร็งค์อินเดีย อิควิตี้เอฟไอเอฟ (MS-INDIA) ชนิดจ่ายเงินปันผล ซึ่งเน้นลงทุนในหน่วยลงทุน Manulife Global Fund-India Equity Fund (Share Class I2) มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2560 อยู่ที่ 22.42% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน (MSCI India 10/40 Index) ที่ 19.46% และล่าสุดจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในอัตรา 1.00 บาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,300 วันที่ 28 - 30 กันยายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1