รมว.แรงงานย้ำ!ลงโทษอย่างเด็ดขาด ขรก.ทุจริตแรงงานต่างด้าว
รมว.แรงงาน ย้ำ! หากพบเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานทุจริตพิสูจน์ต่างด้าว จะลงโทษอย่างเด็ดขาด อธิบดี กกจ. ชี้แจง เมียนมาเปิดศูนย์พิสูจน์สัญชาติฯ ครบ 9 แห่ง คาดว่าจะดำเนินการออกใบอนุญาตทำงาน เสร็จทันภายใน 31 ธ.ค. 60 นี้ แน่นอน
-25 ก.ย. 60- พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงแรงงาน ได้อำนวยความสะดวกในการออกใบอนุญาตทำงานให้แก่ลูกจ้างต่างด้าว 3 สัญชาติ ที่ทำงานกับนายจ้างแบบผิดกฎหมาย ในระยะผ่อนผันถึง 31 ธ.ค. 60 โดยตกลงกับประเทศต้นทาง โดยเฉพาะกับเมียนมาให้เข้ามาดำเนินการพิสูจน์สัญชาติในไทย เพื่อออกเอกสารรับรองบุคคล (Certificate of Identity: CI) เป็นการช่วยมิให้แรงงานต่างด้าวต้องเดินทางกลับไปทำหนังสือเดินทางที่ประเทศของตน แต่สามารถไปใช้บริการได้ที่ศูนย์พิสูจน์สัญชาติเมียนมา รวมทั้งหมด 9 แห่ง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ สมุทรปราการ สมุทรสาคร (2 ศูนย์) ระนอง และสงขลา และฝ่ายไทยได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ OSS (One Stop Service) ใกล้ๆ กับศูนย์พิสูจน์สัญชาติ ประกอบด้วยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อตรวจลงตราวีซ่า กระทรวงสาธารณสุขตรวจสุขภาพและทำประกันสุขภาพ และกรมการจัดหางานอนุญาตทำงานตามลำดับ ปรากฏว่าในระยะนี้ ได้มีกระแสข่าวการมีนายหน้าออกมาให้บริการโดยเรียกรับเงินจากนายจ้างและอ้างการอำนวยความสะดวกเพื่อความรวดเร็ว ทำให้เกิดข้อกังขาถึงการทุจริตโดยการเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ จึงได้กำชับและเน้นย้ำให้อธิบดีกรมการจัดหางาน ดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด หากตรวจพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงานมีการทุจริตเกิดขึ้น
[caption id="attachment_212346" align="aligncenter" width="503"]
นายวรานนท์ ปีติวรรณ[/caption]
ด้านนายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทางการเมียนมา ได้มาจัดตั้ง ศูนย์บริการเพื่อการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา/ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ครบทั้ง 9 แห่งแล้ว สามารถดำเนินการพิสูจน์สัญชาติลูกจ้างต่างด้าวได้ประมาณ 800 คน/ศูนย์ ซึ่งคาดว่าการพิสูจน์สัญชาติและออกใบอนุญาตทำงาน จะแล้วเสร็จทันภายใน 31 ธ.ค. 60 นี้ ตามที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ ยังได้ขอความร่วมมือนายจ้างและลูกจ้างที่ไปดำเนินการพิสูจน์สัญชาติให้อดทน หากไม่ได้รับความสะดวกในระยะนี้ด้วย และขอยืนยันและเน้นย้ำว่า ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงานจะไม่มีการแสวงหาประโยชน์จากเรื่องนี้ เพราะกำหนดการลงโทษไว้อย่างเด็ดขาด ซึ่งหากพบเบาะแสสามารถแจ้งผ่านทางศูนย์ปราบปรามการทุจริตของ คสช. ในหน่วยทหาร หรือ ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์กระทรวงแรงงาน โทรศัพท์ 0 2232 1467
-25 ก.ย. 60- พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงแรงงาน ได้อำนวยความสะดวกในการออกใบอนุญาตทำงานให้แก่ลูกจ้างต่างด้าว 3 สัญชาติ ที่ทำงานกับนายจ้างแบบผิดกฎหมาย ในระยะผ่อนผันถึง 31 ธ.ค. 60 โดยตกลงกับประเทศต้นทาง โดยเฉพาะกับเมียนมาให้เข้ามาดำเนินการพิสูจน์สัญชาติในไทย เพื่อออกเอกสารรับรองบุคคล (Certificate of Identity: CI) เป็นการช่วยมิให้แรงงานต่างด้าวต้องเดินทางกลับไปทำหนังสือเดินทางที่ประเทศของตน แต่สามารถไปใช้บริการได้ที่ศูนย์พิสูจน์สัญชาติเมียนมา รวมทั้งหมด 9 แห่ง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ สมุทรปราการ สมุทรสาคร (2 ศูนย์) ระนอง และสงขลา และฝ่ายไทยได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ OSS (One Stop Service) ใกล้ๆ กับศูนย์พิสูจน์สัญชาติ ประกอบด้วยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อตรวจลงตราวีซ่า กระทรวงสาธารณสุขตรวจสุขภาพและทำประกันสุขภาพ และกรมการจัดหางานอนุญาตทำงานตามลำดับ ปรากฏว่าในระยะนี้ ได้มีกระแสข่าวการมีนายหน้าออกมาให้บริการโดยเรียกรับเงินจากนายจ้างและอ้างการอำนวยความสะดวกเพื่อความรวดเร็ว ทำให้เกิดข้อกังขาถึงการทุจริตโดยการเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ จึงได้กำชับและเน้นย้ำให้อธิบดีกรมการจัดหางาน ดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด หากตรวจพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงานมีการทุจริตเกิดขึ้น
[caption id="attachment_212346" align="aligncenter" width="503"]
ด้านนายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทางการเมียนมา ได้มาจัดตั้ง ศูนย์บริการเพื่อการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา/ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ครบทั้ง 9 แห่งแล้ว สามารถดำเนินการพิสูจน์สัญชาติลูกจ้างต่างด้าวได้ประมาณ 800 คน/ศูนย์ ซึ่งคาดว่าการพิสูจน์สัญชาติและออกใบอนุญาตทำงาน จะแล้วเสร็จทันภายใน 31 ธ.ค. 60 นี้ ตามที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ ยังได้ขอความร่วมมือนายจ้างและลูกจ้างที่ไปดำเนินการพิสูจน์สัญชาติให้อดทน หากไม่ได้รับความสะดวกในระยะนี้ด้วย และขอยืนยันและเน้นย้ำว่า ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงานจะไม่มีการแสวงหาประโยชน์จากเรื่องนี้ เพราะกำหนดการลงโทษไว้อย่างเด็ดขาด ซึ่งหากพบเบาะแสสามารถแจ้งผ่านทางศูนย์ปราบปรามการทุจริตของ คสช. ในหน่วยทหาร หรือ ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์กระทรวงแรงงาน โทรศัพท์ 0 2232 1467