บลจ.กสิกรไทย ปันผล WHAPF-ABPIF ชูยิลด์ตั้งแต่ตั้งกอง 6.97-7.89%

บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผล ABPIF และ WHAPF ดีเดย์ 28 ก.ย.นี้ ชูผลตอบแทนตั้งแต่ตั้งกองทุน 7.89% และ 6.97% ตามลำดับ

[caption id="attachment_211687" align="aligncenter" width="418"] นายวิทวัส อัจฉริยวนิช[/caption]

นายวิทวัส อัจฉริยวนิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ABPIF) ครั้งที่ 8 สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2560 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียนวันที่
19 กันยายน 2560 (XD Date) ในอัตรา 0.2539 บาทต่อหน่วย

พร้อมกันนี้กองทุนได้ดำเนินการลดทุนจดทะเบียนครั้งที่ 8 และจะจ่ายคืนผลตอบแทนส่วนลดทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ในอัตรา 0.3650 บาทต่อหน่วย ทำให้ผู้ลงทุนจะได้รับทั้งเงินปันผลและเงินลดทุน รวม 0.6189 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่ารวม 371.34 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ที่นักลงทุนได้รับโดยเฉลี่ยที่ 6.98% ของมูลค่าที่ตราไว้ (PAR) และหลังจากการลดทุน มูลค่าทุนจดทะเบียนของกองทุนจะอยู่ที่ 6.9721 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมคืนเงินลดทุนในวันที่ 28 กันยายน 2560

นอกจากนี้ยังเตรียมจ่ายปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) ครั้งที่ 26สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 31 กรกฎาคม 2560 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียนของวันที่ 19 กันยายน 2560 (XD Date) ในอัตรา 0.1800 บาทต่อหน่วย รวมมูลค่า 169.03 ล้านบาท โดยกองทุนมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 กันยายน 2560

“กองทุน ABPIF ลงทุนในสัญญาโอนผลประโยชน์จากการประกอบกิจการไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 1 และ 2 ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ที่มีรายได้หลักมาจากการทำสัญญาระยะยาวในการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ทั้งนี้ ในรอบผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรก ปี 2560 ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ ทำให้ในรอบบัญชีที่ผ่านมา (1 มกราคม -30 มิถุนายน 2560) กองทุน ABPIF มีกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว 152.39 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 0.2540 บาทต่อหน่วยลงทุน ทั้งนี้ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนจ่ายปันผลแล้วรวม 8 ครั้ง รวม 2.9050 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ประมาณ 7.89% ต่อปี

นายวิทวัส กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน WHAPF ที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง และจ่ายปันผลสม่ำเสมอนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2553 เป็นต้นมา ซึ่งหากนับรวมการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้ กองทุนมีการจ่ายเงินปันผลแล้ว 26 ครั้ง รวม 4.6111 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ประมาณ 6.97% ต่อปี

อย่างไรก็ตามสำหรับผลการดำเนินงานในรอบบัญชีที่ผ่านมา (1 พฤษภาคม -31 กรกฎาคม 2560) กองทุนยังคงมีรายได้อย่างสม่ำเสมอจากค่าเช่าของอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงานต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันกองทุน WHAPF ถือครองทรัพย์สินในโครงการรวมแล้วทั้งสิ้นจำนวน 14 โครงการ อาทิ โครงการคลังสินค้า Kao 1 , Kao 2 และ Kao 3, โครงการอาคารคลังสินค้า DKSH จำนวน 7 โครงการซึ่งตั้งอยู่ที่บางพลี บางปะอิน และบริเวณถนนบางนา-ตราด ก.ม.20,โครงการศูนย์กระจายสินค้า WHA Mega Logistics Center บนถนนบางนา-ตราด ก.ม.19 และโครงการศูนย์กระจายสินค้า WHA Mega Logistics Center บริเวณ อ.พานทอง จ.ชลบุรี, โครงการ DSG 1 และ 2 ในเขตประกอบการเหมราช จ.สระบุรี และยังมีโครงการโรงงานอีก 3 โครงการ คือ โครงการโรงงาน Primus และโครงการโรงงาน Ducati 1 และ 2 ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ. ระยอง