คำพิพากษากลางคดี‘จีทูจี’ (4) เปิดช่องเวียนเทียนขายข้าว

28 ก.ย. 2560 | 08:33 น.
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ได้รับแต่งตั้งเป็น รองประธาน กขช. ทั้งยังเป็น ประธานอนุกรรมการ 4 คณะ รวมถึง ประธานอนุฯ พิจารณาระบายข้าว ต่อจาก นายภูมิ รมช.พาณิชย์ ได้เห็นชอบการแก้ไขสัญญาฉบับที่ 1 ขยายเวลารับมอบข้าว 2 ครั้ง และแก้ไขสัญญาฉบับที่ 2 อีก 2 ครั้ง ครั้งแรกแก้ไขขยายเวลารับมอบข้าวออกไปอีก 1 เดือน และเพิ่มชนิดข้าวหอมมะลิ 5 แสนตันให้รวมอยู่ในปริมาณตามสัญญาเดิม ครั้งที่ 2 ให้เพิ่มชนิดข้าวขาว 10% จำนวน 5 หมื่นตัน

ศาลชี้ว่า นายบุญทรง ย่อมทราบได้จากบันทึกขอความเห็นชอบการแก้ไขจากสัญญาเดิมว่า มีพิรุธหลายประการในแต่ละครั้งไม่ปรากฏว่า ได้เจรจากันในประเด็นที่ขอแก้ไข โดยเฉพาะสัญญาเพิ่มชนิดข้าว ซึ่งมีผลเสมือนทำสัญญาใหม่ควรต้องเจรจาเงื่อนไขข้อตกลงใหม่เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ฝ่ายไทย การเห็นชอบแก้ไขสัญญาจึงเป็นการมิชอบ ส่งผลให้กรมการค้าต่างประเทศเกิดผลผูกพันตามสัญญาที่แก้ไข ต้องส่งมอบชนิดข้าวเพิ่มเติม และต้องขยายเวลารับมอบข้าวออกไป ทำความเสียหายให้ต้องขายข้าวราคาตํ่ากว่าท้องตลาดและเสียค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้าวเพิ่มขึ้น
ข้อต่อสู้ที่ว่าให้ความเห็นชอบแก้ไขสัญญาไปตามข้อตกลงเดิมที่ทำขึ้นก่อนเป็น ประธานอนุฯพิจารณาระบายข้าวนั้นฟังไม่ขึ้น เมื่อเป็นเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐมีอำนาจหน้าที่ระบายข้าว อันเป็นการจัดการทรัพย์การเห็นชอบแก้สัญญาฉบับที่ 1 และ 2 โดยมิชอบ เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต

[caption id="attachment_211418" align="aligncenter" width="265"] บุญทรง เตริยาภิรมย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์[/caption]

การเห็นชอบสัญญาฉบับที่ 3 ขายข้าวขาว 5% และปลายข้าวขาวเอวันเลิศ ชนิดละ 5 แสนตัน โดยไม่ได้ขออนุมัติกรอบการเจรจาและตามบันทึกขอความเห็นชอบผลการเจรจาที่อ้างว่า บริษัทกว่างตงฯ มีหนังสือขอซื้อข้าวโดยไม่ปรากฏว่าได้มีการเจรจาแต่อย่างใด ตามบันทึกระบุเพียงว่า ทำสัญญาฉบับที่ 2 ตกลงซื้อข้าวขาว 5% ปีการผลิต 2554/55 ราคาตันละ 16,950 บาท และปลายข้าวขาวเอวันเลิศตันละ 13,650 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาที่ขอความเห็นชอบไว้ในสัญญาฉบับที่ 3 อาจเป็นเหตุให้ผู้ซื้อเลือกรับข้าวตามสัญญาใหม่แทนสัญญาเดิม จึงควรต้องกำหนดเงื่อนไขให้บริษัทกว่างตงฯ รับมอบข้าวขาว 5% และปลายข้าวขาวเอวันเลิศตามสัญญาเดิมไม่ตํ่ากว่า 5 แสนตัน และ 3 แสนตันตามลำดับ

นายบุญทรง ย่อมพบข้อผิดปกติและทราบถึงผลเสียหายอันเป็นเหตุให้บริษัทกว่างตงฯ ไม่ยอมรับมอบข้าวตามสัญญาเดิมที่มีราคาแพงกว่า แต่ยังเห็นชอบผลการเจรจา นำไปสู่การทำสัญญาฉบับที่ 3 แม้จะเห็นชอบภายใต้เงื่อนไขตามที่นายมนัส เสนอ ก็ยังทำให้ไทยเสียเปรียบ เนื่องจากสัญญาเดิมกำหนดปริมาณข้าว 4 ชนิด ปริมาณมากถึง 2 ล้านตัน สมควรรอให้รับมอบข้าวตามสัญญาฉบับที่ 2 ให้ครบถ้วนก่อนจะเห็นชอบทำสัญญาฉบับใหม่ ท้ายที่สุดมีการรับมอบข้าวขาว 5% ตามสัญญาฉบับที่ 2 ปริมาณ 561,158.03 ตัน เป็นปลายข้าวขาว 5% จำนวน 156,610.32 ตัน แต่รับมอบตามสัญญาฉบับที่ 3 ปริมาณ 1,350,884.70 ตัน เป็นปลายข้าวขาว 5% จำนวน 303,466.87 ตัน ทำความเสียหายแก่กรมการค้าต่างประเทศที่ขายข้าวชนิดเดียวกันในราคาตํ่ากว่ามาก

++ปกปิดข้อมูลอ้างความลับ
เมื่อเป็น“รองประธานกรรมการ กขช.” นายบุญทรงได้ทำหน้าที่ประธานการประชุมมาตลอดจนพ้นจากตำแหน่ง แต่ไม่เคยรายงานการขายข้าวจีทูจีตามสัญญาทั้ง 2 ฉบับ ให้ที่ประชุมทราบสักครั้งเดียว แต่มีการรายงานขายข้าวจีทูจีให้สาธารณรัฐโกตดิวัวร์ให้คณะอนุกรรมการทราบในการประชุมครั้งที่ 4/2555

ต่างจากนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เมื่อเป็นรมว.พาณิชย์ ในการประชุมอนุกรรมการ ครั้งที่ 2/2556 ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบว่า ทำสัญญาจีทูจีกับ รัฐวิสาหกิจจีน 6 แห่ง 8 สัญญา ปริมาณข้าว 20.43 ล้านตัน ทั้งยังรายงานการเดินทางไประบายข้าวให้สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านทั้งก่อนและหลังการให้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการทราบ รวมถึงการขายข้าวจีทูจีให้ COFCO ปริมาณ 1 ล้านตันให้ครม.ทราบ ให้สัมภาษณ์ด้วยว่าได้ลงนามสัญญาซื้อขายข้าวตามราคาตลาดโลก เน้นส่งมอบข้าวขาว 5% กำหนด ส่งมอบ 3 งวด ระหว่างเดือน ธันวาคม 2556-ธันวาคม 2557 ซึ่งเป็นการเปิดเผยทั้งคู่สัญญา ชนิดและปริมาณข้าวที่ซื้อขาย

ตลอดเวลาที่ดำเนินโครงการทุกปีการผลิต กระทรวงการคลังซึ่งมีหน้าที่จัดหาเงินทุนมาใช้ดำเนินโครงการมีหนังสือเสนอความเห็นต่อ กขช.และครม. ซึ่งมีมติเห็นชอบสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ กำกับ ติดตาม ควบคุม รายงานความคืบหน้าการระบายข้าวสาร ปริมาณ มูลค่าคงเหลือ ปัญหาและอุปสรรคให้ครม. กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณทราบทุกวันที่ 7 ของเดือน

แต่กระทรวงพาณิชย์ภายใต้การกำกับดูแลของนายบุญทรง มีหนังสือลงวันที่ 21 กันยายน 2555 รายงานต่อครม.เพียงครั้งเดียวว่า มีการขายข้าวจีทูจี 7.32 ล้านตัน นายบุญทรงปกปิดข้อมูลขายข้าวจีทูจีอ้างว่า เป็นความลับมาตลอด

++ตั้งก.ก.สอบลดแรงเสียดทาน
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีการตั้งกระทู้และอภิปรายประเด็นการระบายข้าวหลายวาระ แม้ว่าภายหลังนายบุญทรงได้ตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งมีนางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานใช้เวลา 8 วันได้สรุปผลรายงานต่อนายบุญทรง เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2555 ศาลเห็นว่า ผลสอบไม่ตรงประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์อภิปรายไว้ว่า ข้าวที่ขายจีทูจีให้บริษัทกว่างตงฯไม่มีการส่งออกนอกประเทศ และความ จาก นายสกล หาญสุทธิวารินทร์ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการตรวจข้าว สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยที่ว่า เวลาส่งออกข้าวไม่ว่าจะโดยรัฐบาลหรือเอกชน ยกเว้นข้าวหอมมะลิ จะต้องขออนุญาตต่อกรมการค้าต่างประเทศ ต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพข้าวจากคณะกรรมการตรวจข้าวและผ่านพิธีการศุลกากร ไม่มีการตรวจสอบขั้นตอนซื้อขายที่ผิดไปจากแนวปฏิบัติ เรื่อง ความสัมพันธ์ของนายสมคิด เอื้อสุภา (จำเลยที่ 7) และนายรัฐนิธ โสจิระกุล (จำเลยที่ 8) ผู้รับมอบอำนาจจากรัฐวิสาหกิจของจีนว่า เกี่ยวข้องเป็นพนักงานของนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง (จำเลยที่ 14) ผู้ค้าข้าวในประเทศว่า ได้กระทำตามที่อภิปรายจริงหรือไม่

ทั้งยังปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในวันที่ 9, 11 มกราคม 2556 และ 6 มีนาคม 2556 ได้เห็นชอบการทำสัญญาจีทูจีกับรัฐวิสาหกิจจีนอีก 3 สัญญา 3 แสนตัน 2 ล้าน ตัน และ 4 ล้านตัน ตามลำดับ บ่งชี้ว่า ตั้งกรรมการตรวจสอบฯ เพื่อหวังลดกระแสกดดันของสังคมเท่านั้น รวมถึงการเห็นชอบให้ยกเลิกสัญญาฉบับที่ 3 โดยทำสัญญาจีทูจีกับรัฐวิสาหกิจจีนเพิ่มอีก 1 สัญญาในราคาที่ถูกกว่า สัญญาฉบับที่ 3 จำนวน 5 ล้านตัน ก่อนจะถูกปรับออกจากครม. เพียง 4 วัน ยํ้าชัดว่าการขายข้าวให้บริษัทกว่างตงฯ และบริษัทห่ายหนานฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ต้องปกปิดข้อมูลตลอดมา

++ข้าวไม่ถูกส่งออกไปจีน
และเมื่อนายวรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.ประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามผลสอบขายข้าวจีทูจีให้บริษัทกว่างตงฯ และปริมาณขายข้าวจีทูจีในปี 2555 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ตอบกระทู้ว่า มีการระบายข้าวจีทูจี 6.2 ล้านตัน ขณะที่นายวรงค์อภิปรายรายงานตัวเลขส่งออกข้าวไปจีนของกรมศุลกากรว่า ในปี 2554 มีเพียง 29,850 ตัน และปี 2555 จำนวน 212 ตันเท่านั้น รับกับข้อมูลในหนังสือที่นายบุญทรงมีถึงเลขาธิการครม. เรื่องการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเสนอซื้อขายข้าวระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนที่ว่าในแต่ละปีจีนนำเข้าข้าวจากไทยเฉลี่ยปีละ 3 แสนตัน ตอกยํ้าว่า ข้าวตามสัญญาไม่ได้ถูกส่งออกไปจีน

ในการประชุมสภาพิจารณางบฯประจำปี 2557 มีการอภิปรายและตั้งกระทู้ถามอีกครั้ง นายบุญทรงได้ตอบกระทู้เป็นหนังสือลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้สัมภาษณ์สื่อหลายครั้งยืนยันการขายข้าวจีทูจีไปทั้งหมด 7.32 ล้านตัน ทั้งที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในวันที่ 9 และ 11 มกราคม 2556 ขายข้าวจีทูจีอีก 2 สัญญารวม 5 ล้านตันจึงไม่ ตรงกับความเป็นจริง แต่ก็ไม่เคยเปิดเผยเรื่องทำสัญญาจีทูจีกับรัฐวิสาหกิจจีนเพิ่มเติมอีก 4 สัญญาที่มีปริมาณมากถึง 14 ล้านตัน หากชอบด้วยกฎหมายย่อมต้องรีบเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศโดยรวม

++เอื้อประโยชน์พวกพ้อง
ทางไต่สวนได้ความว่า เริ่มดำเนินโครงการ จนถึงวันพ้นตำแหน่ง 1 ปี 9 เดือน ผู้ค้าข้าวในประเทศทำหนังสือขอซื้อข้าวต่อกรมการค้าต่างประเทศหลายครั้ง ออกประกาศให้ผู้สนใจเสนอราคาเพียง 5 ครั้ง โดยนายบุญทรงเห็นชอบ 2 ครั้ง รวม 287,267.08 ตัน ซึ่งบางครั้งเสนอราคาซื้อไม่ตํ่ากว่าเกณฑ์ราคาที่คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวกำหนดก็ไม่ให้ความเห็นชอบ อ้างว่า มีอำนาจสงวนสิทธิ์ไม่รับราคาได้ทั้งที่ข้าวเปลือกเกือบทั้งหมดเข้าโครงการจนขาดตลาด ส่งผลให้ไม่สามารถหาซื้อในตลาดได้แต่ก็ไม่เปิดประมูลให้ผู้ค้าในประเทศ มุ่งขายให้รัฐวิสาหกิจจีน 6 แห่ง 8 สัญญา ปริมาณสูงถึง 22 ล้านตันเศษอย่างไม่เคยมีมาก่อน เมื่อราคาตลาดปรับตัวลดลงบริษัทกว่างตงฯ ก็ขอทำสัญญาใหม่ซื้อขายข้าวชนิดเดียวกันในราคาตํ่ากว่าสัญญาเดิม เมื่อลดลงอีกนายบุญทรง ก็เห็นชอบให้ยกเลิกสัญญาฉบับที่ 3 อ้างว่า ผู้ซื้อไม่ยอมมารับมอบข้าว ทำสัญญา ขายข้าวชนิดเดียวกันให้รัฐวิสาหกิจจีนรายใหม่ในราคาตํ่าลงอีก

สัญญา 4 ฉบับตามฟ้อง อ้างว่า เป็นสัญญาจีทูจี ผลที่สุดข้าวที่ขายไปไม่ได้ส่งออกแต่ถูกนำมาขายต่อในประเทศ หาประโยชน์จากส่วนต่างราคาโดยกลุ่มของเสี่ยเปี๋ยง การระบายข้าวของนายบุญทรง จึงมิได้กระทำไปเพื่อให้ประสบผลสัมฤทธิ์ ยกระดับราคาข้าวในประเทศให้สูงขึ้นอันจะเป็นประโยชน์แก่ชาวนาและประเทศอย่างยั่งยืนตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

แต่กระทำไปเพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง ซึ่งการสมคบวางแผนนำรัฐวิสาหกิจทั้ง 2 บริษัทมาทำสัญญาจีทูจีตามฟ้อง แอบอ้างว่า เป็นตัวแทนรับมอบหมายของรัฐบาลจีนเพื่อทำสัญญาซื้อข้าวกับกรมการค้าต่างประเทศในราคาตํ่านั้น เป็นแผนการอย่างหนึ่งในการจัดการข้าวโดยมิชอบสร้างความเสียหายแก่รัฐ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,299 วันที่ 24 - 27 กันยายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1