อนุฯปฎิรูปตำรวจเคาะงานสอบสวนยังอยู่สตช.

20 ก.ย. 2560 | 11:24 น.
อนุฯบังคับใช้กฎหมายฯในคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ เสนอรวมระบบงานสืบสวนสอบสวนอยู่ภายใต้กำกับสตช. พร้อมหาแนวทางป้องกันผู้บังคับบัญชาแทรกแซงการทำงาน หวังให้ทำคดีอย่างเป็นธรรม

- 20 ก.ย. 60 - เว็บไซต์ www.radioparliament.net รายงาน พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร อนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายและระบบการสอบสวนคดีอาญา ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบกับข้อเสนอของอนุกรรมการฯ ที่เสนอให้รวมงานด้านสืบสวน และงานด้านสอบสวนเข้าด้วยกัน เพราะในทางปฏิบัติไม่สามารถแยกการทำงานออกจากกันได้ อีกทั้งงานสืบสวนสอบสวน มีความจำเป็นกับงานในความรับผิดชอบของตำรวจ ที่ต้องมีการติดตามคดีอาชญากรรม และมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว โดยงานสืบสวนสอบสวนจะอยู่ภายใต้โครงสร้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ต่อไป และให้พนักงานสอบสวนปฏิบัติงานในกลุ่มงานสืบสวนสอบสวนในที่ทำการสถานีตำรวจทั่วประเทศ กองบังคับการ กองบัญชาการ และตำรวจภูธรภาค โดยไม่ได้ตั้งเป็นกองบัญชาการใหม่ ขณะเดียวกันยังได้เสนอให้มีการปรับโครงสร้างการเจริญเติบโตในสายงานของพนักงานสอบสวนออกเป็น 2 รูปแบบ โดยตำแหน่งทั่วไปหรือการเลื่อนในสายงานหลัก ให้เลื่อนตำแหน่งเมื่อมีตำแหน่งว่าง ส่วนตำแหน่งในสายงานพนักงานสอบสวนโดยเฉพาะ ให้เลื่อนตำแหน่งที่ครอง โดยเป็นการเลื่อนจากการประเมิน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะสามารถเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปได้ถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ควบคุมงานด้านสืบสวนสอบสวน

org_243286122

พล.ต.อ.ชัชวาลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะอนุกรรมการฯ ยังได้พิจารณาหาแนวทางป้องกันไม่ให้ผู้บังคับบัญชา หรือผู้บังคับการเข้าไปแทรกแซงหรือครอบงำการทำคดีของพนักงานสอบสวน โดยต้องมีอิสระในการทำงาน ป้องกันผู้บังคับบัญชากลั่นแกล้ง เนื่องจากพนักงานสอบสวนต้องทำงานภายใต้บังคับบัญชาของฝ่ายบริหารของตำรวจ ทั้งนี้ผู้บังคับบัญชาสามารถสนับสนุนให้ความช่วยเหลือการทำงานของพนักงานสอบสวนได้ แต่ไม่สามารถมายุ่งเกี่ยวกับการทำคดีได้ เพื่อให้พนักงานสอบสวนทำคดีด้วยความเป็นธรรม

ส่วนความคืบหน้าการทำงานของคณะอนุกรรมการด้านการรับฟังความคิดเห็น ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งมีประชาชนร่วมแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง โดยในวันที่ 20-21 กันยายนนี้ คณะอนุกรรมการฯ จะเดินทางไปจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง ณ โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น โดยจะเป็นการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นจะนำความคิดเห็นดังกล่าวมาวิเคราะห์สรุปผลต่อไป ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1