KTAMชูหุ้นปีหน้า1,758จุด รับเงินไหลเข้า แนะกระจายลงทุน ‘จีน-อินเดีย-ยุโรป’

23 ก.ย. 2560 | 09:38 น.
บลจ.กรุงไทยฯ ประเมินหุ้นไทยปี 61 เศรษฐกิจดี เลือกตั้งหนุน คาดกำไรบริษัทจดทะเบียนโต 10% เชียร์จัดพอร์ตลงทุนหุ้นนอก 3 ตลาดเด่น พร้อมส่งกองทุน KTBTHAICG ลุยซื้อหุ้นนํ้าดี มีธรรมาภิบาล

[caption id="attachment_210241" align="aligncenter" width="335"] ชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM ชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM[/caption]

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยในปี 2561 อยู่ที่ประมาณ 1,758 จุดและสิ้นปี 2560 นี้อยู่ที่1,668จุดโดยมองแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้ายังขยายตัวต่อเนื่อง การลงทุนภาครัฐมีเม็ดเงินเบิกจ่ายเริ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ หลังจากมีการทยอยประมูลโครงการลงทุนขนาดใหญ่หลายโครงการในปีที่ผ่านมาและปีนี้นักท่องเที่ยวจีนเริ่มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งปลายปีหน้าอาจจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งจะส่งผลให้บรรยากาศการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนฟื้นตัวตามไปด้วย

นายวีระ วุฒิคงศิริกูล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานจัดการลงทุน บลจ.กรุงไทยฯ เปิดเผยว่า ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวดี แต่ตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวเริ่มชะลอ เงินเฟ้อยังไม่ตามเป้า อาจส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในตลาดเกิดใหม่ต่อเนื่องและตลาดหุ้นไทยน่าจะได้รับอานิสงส์ ซึ่งที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติยังถือครองหุ้นไทยไม่มากและตลาดหุ้นเพิ่งปรับตัวขึ้นมาไม่นาน ขณะที่แนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในปีหน้าคาดว่าเติบโต 10%

“กรณีโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เริ่มเห็นภาพชัดขึ้นช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุน ประกอบกับเศรษฐกิจและค่าเงินบาทของไทยก็มีเสถียรภาพ จึงเชื่อว่าไทยยังเป็นเป้าหมายของต่างชาติ แม้ระยะสั้นหุ้นอาจปรับฐาน หลังจากขึ้นมามาก แต่การลงทุนในหุ้นอยากให้มอง 2-3ปี” นายวีระ กล่าว

อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยในรอบนี้ส่งผลให้หุ้นหลายตัวราคาเกือบเต็มมูลค่า ดังนั้นกองทุนจะเลือกขายหุ้นที่ราคามีอัพไซด์เหลือน้อยเมื่อเทียบกับราคาตามพื้นฐานและเข้าลงทุนในหุ้นที่ราคายังไม่แพง มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยมองกลุ่มที่น่าสนใจ ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์และที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายภายในประเทศ คาดว่าจะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ รวมถึงกลุ่มวัสดุก่อสร้างและธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น

นายวีระ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มการลงทุนในปี 2561 มองว่าตลาดหุ้นยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มตลาดหุ้นเกิดใหม่ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว จึงแนะนำจัดพอร์ตกระจายลงทุน เนื่องจากปัจจุบันตลาดหุ้นหลายแห่งปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากโดยมองตลาดหุ้นจีน อินเดีย และยุโรป ยังน่าสนใจแนวโน้มเติบโตได้ดี ซึ่งสามารถทยอยเข้าลงทุนได้ตั้งแต่ตอนนี้

นอกจากนี้บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย บุญตรง ธรรมาภิบาลไทย (KTBTHAICG) เสนอขายครั้งแรกวันที่ 20-26 กันยายน 2560 เน้นลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอ ไอที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีโดยรายได้40%ของค่าธรรมเนียมการจัดการส่วนหนึ่งจะมอบให้กับมูลนิธิชัยพัฒนา อีกส่วนจะมอบให้หน่วยงานที่ส่งเสริมธรรมาภิบาลไทยหรือส่งเสริมการต่อต้านคอร์รัปชัน

นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย จก.(TMBAM)เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่18-22กันยายน 2560 บริษัทจะเปิดขายครั้งแรกของกองทุนรวมหุ้น ทีเอ็มบี ธรรมาภิบาลไทยมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดย 40% ของค่าธรรมเนียมการจัดการจะบริจาคให้หน่วยงานที่ส่งเสริมธรรมาภิบาลไทยและหรือหน่วยงานที่ส่งเสริมการต่อต้านคอร์รัปชันต่างๆนอกจากนั้นบริษัทจะสมทบเพิ่มเทียบเท่ากับ 10% ของค่าธรรมเนียมการจัดการมอบให้กับมูลนิธิทีเอ็มบีเพื่อจุดประกายเยาวชน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,298 วันที่ 21 - 23 กันยายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1