ทรูเสริมแกร่งกองทุนพื้นฐานฯ ขายสินทรัพย์บริษัทย่อยค่า6.5-7.2หมื่นล้านบาท

23 ก.ย. 2560 | 10:58 น.
บอร์ดกลุ่มทรู มีมตินำบริษัทในเครือที่ให้บริการโทร ศัพท์เคลื่อนที่ และอินเตอร์เน็ต ทั้งทรูมูฟ เอช และ ทรูอินเทอร์เน็ต ขายสินทรัพย์ให้กับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัล มูลค่าไม่น้อยกว่า 6.5-7.2 หมื่นล้านบาท

นายวิลเลี่ยม แฮริส หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้ เห็นชอบและอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมระหว่าง บริษัทย่อยของ บริษัท และบริษัท กับ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เห็นชอบให้บริษัทย่อยของบริษัท คือ บริษัท เอเชีย ไวร์เลส คอมมิวนิเคชั่น จำกัด หรือ AWC, บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด หรือ TUC, บริษัท ทรู มูฟ จำกัด หรือTMV และ บริษัท ทรูอินเทอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ TICC เข้าทำรายการการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์โดยการขายและโอนทรัพย์สิน รายได้จากทรัพย์สิน และการให้สิทธิในการเช่า (อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน) ในทรัพย์สินบางรายการของบริษัทย่อยของบริษัทดังกล่าวข้างต้นกับ กองทุน โดยมีมูลค่ารวมของค่าตอบแทน ไม่น้อยกว่า 65,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 72,000 ล้านบาท (ธุรกรรมขายทรัพย์สินและรายได้) รวมถึงส่งข้อเสนออย่างเป็น ทางการให้แก่กองทุนเพื่อทำการขาย และโอนทรัพย์สินดังกล่าว

ทั้งนี้ ในการดำเนินการตามธุรกรรมขายทรัพย์สินและรายได้โดยบริษัทย่อยของบริษัท ดังกล่าว จะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของบริษัทย่อยนั้นๆ ก่อน นอกจากนี้ยังเห็นชอบและอนุมัติให้เข้าทำรายการการได้มาซึ่งสินทรัพย์ดังต่อไปนี้ คือ เห็นชอบให้บริษัทย่อยของบริษัท (TUC และ TICC) เช่า (Lease) และ เช่าช่วง (Sub-Lease) (อย่างใดอย่างหนึ่งหรือ 2 อย่าง) จากกองทุน ในทรัพย์สินบางราย การเพื่อใช้ทรัพย์สินดังกล่าวในการดำเนินธุรกิจต่อไป โดยธุรกรรมดังกล่าวจะมีมูลค่าไม่เกิน 94,300 ล้านบาท (ธุรกรรมเช่า)

MP20-3298-A นอกจากนี้ยังเห็นชอบให้บริษัทย่อยของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึง TUC และ TICC ขยายระยะเวลาการ เช่าทรัพย์สินของกองทุนในปัจจุบันกับกองทุน ไปจนถึงวันที่ 15 กันยายน 2576 (และ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 สำหรับอุปกรณ์โทรคมนาคมประเภท Active บางรายการ) ภายใต้ข้อตกลงที่คล้ายคลึงกับข้อตกลงการเช่าเดิม (ธุรกรรม การขยายระยะเวลาการเช่า) และ ทำหนังสือข้อตกลงเพื่อเช่าทรัพย์สินในอนาคต (Letter of Agreement) (ซึ่งปัจจุบันเป็นไปตามโครงการขายรายได้ที่เกี่ยวกับทรัพย์สิน) (ธุรกรรมตามหนังสือข้อตกลง)

ธุรกรรมดังกล่าวจะมีมูลค่า รวมกันไม่เกิน 55,200 ล้านบาท และอนุมัติให้บริษัทจองซื้อหน่วยลงทุนที่ออกใหม่ของกองทุน ซึ่งเมื่อรวมกับหน่วยลงทุนที่บริษัท ถืออยู่ในปัจจุบัน จะเป็นจำนวนตั้งแต่ 28.11%-33.33% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุนที่ออกจำหน่าย บนสมมติฐานจากการพิจารณาผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการเสนอขาย หน่วยลงทุนที่ออกใหม่ทั้งหมดต่อผู้ถือหน่วยลงทุนตามสัดส่วนการถือ หน่วยลงทุน (Fully Diluted Basis) ทั้งนี้ขนาดของรายการธุรกรรมจองซื้อ หน่วยลงทุนจะมีมูลค่าระหว่าง 11,200-24,000 ล้านบาท (ธุรกรรมจองซื้อหน่วยลงทุน)

ในการดำเนินการตามธุรกรรมเช่า ธุรกรรมการขยายระยะเวลาการเช่า และธุรกรรมตามหนังสือข้อตกลง โดยบริษัทย่อยของบริษัทดังกล่าวจะต้องได้รับอนุมัติจาก คณะกรรมการของบริษัทย่อยนั้นๆ ก่อน รายละเอียดเกี่ยวกับธุรกรรมข้างต้น ปรากฏตามสารสนเทศเกี่ยวกับการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ อันเนื่องมาจากการเข้าทำธุรกรรมกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัล

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,298 วันที่ 21 - 23 กันยายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1