‘เล่งหงษ์’แตกแบรนด์บุกจีนโมเดิร์น-ญี่ปุ่น
“เล่งหงษ์” แตกไลน์ 2 แบรนด์ใหม่ลุยอาหารจีนสไตล์โมเดิร์นและอาหารญี่ปุ่น กางแผน 5 ปี ทุ่ม 150 ล้าน สยายปีก 12 สาขาทั้งสแตนด์อะโลน-ห้าง
นายณธีพัฒน์ อรุณศิริสกุล ประธานบริหาร ภัตตาคารเล่งหงษ์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังเปิดให้บริการภัตตาคารอาหารจีนมากว่า 55 ปีมีฐานลูก ค้าที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการรองรับแนว โน้มธุรกิจร้านอาหารเมืองไทยที่มีการเติบโตสูงในปีหน้าได้เตรียมเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ “เล่งหงษ์ คิทเช่น” ร้านอาหารจีนสไตล์โมเดิร์น ในราคาที่สัมผัสได้เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น โดยเน้นเปิดในศูนย์การค้าและ “ลิวโฮ ซูชิ บาย เล่งหงษ์” ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียม ซึ่งจะเน้นขยายสาขาทั้งแบบสแตนด์อะโลนและภายในศูนย์การค้า เบื้องต้นขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการวางแผนงาน
[caption id="attachment_210168" align="aligncenter" width="335"]
ณธีพัฒน์ อรุณศิริสกุล ประธานบริหาร ภัตตาคารเล่งหงษ์[/caption]
“กลยุทธ์หลักในการบริหารงาน คือเน้นเรื่องรสชาติของอาหาร ตามด้วยความสดของวัตถุดิบ และงานบริการ”
สำหรับแผนงานระยะ 5 ปีนับจากนี้ (ปี 2561-2565) ได้วางงบประมาณการลงทุนในส่วนของแผนการขยายสาขาไว้ราว 150 ล้านบาท โดยจะขยายสาขาทั้งสิ้น 12 แห่ง สำหรับทั้ง 3 แบรนด์ แบ่งเป็นภัตตาคารเล่งหงษ์ 2 แห่งจากปัจจุบันที่มีอยู่ 2 แห่งโดยจะเป็นการขยายสาขาในรูปแบบสแตนด์อะโลน บนพื้นที่เฉลี่ย 1.5-2 ไร่ เล่งหงษ์ คิทเช่น 4-5 แห่ง โดยจะเน้นขยายสาขาในศูนย์การค้าระดับ 4-5 ดาวขึ้นไปบนพื้นที่ 200 ตร.ม.หรือคิดเป็นจำนวน 80 ที่นั่ง และร้าน “ลิวโฮ ซูชิ บาย เล่งหงษ์” 5 แห่ง เน้นขยายสาขาทั้งในศูนย์การค้าและสแตนด์อะโลน โดยวางเป้าหมายที่จะคืนทุนเฉลี่ย 3 ปีต่อแบรนด์
อย่างไรก็ตามปัจจุบันแม้สภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ทว่าในส่วนของทางภัตตาคารไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าประจำที่เข้ามารับประ ทานอาหารอยู่แล้ว ขณะเดียวกันมี การปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย เพื่อให้เป็นร้านอาหารจีนที่ไม่ล้าสมัย โดยปรับปรุงทั้งระบบหน้าบ้านและหลังบ้าน นำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยบริหารงาน และปรับปรุงตัวร้าน รายการอาหาร อีกทั้งลูกค้าสามารถติดต่อได้หลากหลายช่องทางทั้งเว็ปไซต์ เฟซบุ๊ก รวมทั้งไลน์แอด
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,298 วันที่ 21 - 23 กันยายน พ.ศ. 2560
นายณธีพัฒน์ อรุณศิริสกุล ประธานบริหาร ภัตตาคารเล่งหงษ์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังเปิดให้บริการภัตตาคารอาหารจีนมากว่า 55 ปีมีฐานลูก ค้าที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการรองรับแนว โน้มธุรกิจร้านอาหารเมืองไทยที่มีการเติบโตสูงในปีหน้าได้เตรียมเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ “เล่งหงษ์ คิทเช่น” ร้านอาหารจีนสไตล์โมเดิร์น ในราคาที่สัมผัสได้เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น โดยเน้นเปิดในศูนย์การค้าและ “ลิวโฮ ซูชิ บาย เล่งหงษ์” ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียม ซึ่งจะเน้นขยายสาขาทั้งแบบสแตนด์อะโลนและภายในศูนย์การค้า เบื้องต้นขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการวางแผนงาน
[caption id="attachment_210168" align="aligncenter" width="335"]
“กลยุทธ์หลักในการบริหารงาน คือเน้นเรื่องรสชาติของอาหาร ตามด้วยความสดของวัตถุดิบ และงานบริการ”
สำหรับแผนงานระยะ 5 ปีนับจากนี้ (ปี 2561-2565) ได้วางงบประมาณการลงทุนในส่วนของแผนการขยายสาขาไว้ราว 150 ล้านบาท โดยจะขยายสาขาทั้งสิ้น 12 แห่ง สำหรับทั้ง 3 แบรนด์ แบ่งเป็นภัตตาคารเล่งหงษ์ 2 แห่งจากปัจจุบันที่มีอยู่ 2 แห่งโดยจะเป็นการขยายสาขาในรูปแบบสแตนด์อะโลน บนพื้นที่เฉลี่ย 1.5-2 ไร่ เล่งหงษ์ คิทเช่น 4-5 แห่ง โดยจะเน้นขยายสาขาในศูนย์การค้าระดับ 4-5 ดาวขึ้นไปบนพื้นที่ 200 ตร.ม.หรือคิดเป็นจำนวน 80 ที่นั่ง และร้าน “ลิวโฮ ซูชิ บาย เล่งหงษ์” 5 แห่ง เน้นขยายสาขาทั้งในศูนย์การค้าและสแตนด์อะโลน โดยวางเป้าหมายที่จะคืนทุนเฉลี่ย 3 ปีต่อแบรนด์
อย่างไรก็ตามปัจจุบันแม้สภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ทว่าในส่วนของทางภัตตาคารไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าประจำที่เข้ามารับประ ทานอาหารอยู่แล้ว ขณะเดียวกันมี การปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย เพื่อให้เป็นร้านอาหารจีนที่ไม่ล้าสมัย โดยปรับปรุงทั้งระบบหน้าบ้านและหลังบ้าน นำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยบริหารงาน และปรับปรุงตัวร้าน รายการอาหาร อีกทั้งลูกค้าสามารถติดต่อได้หลากหลายช่องทางทั้งเว็ปไซต์ เฟซบุ๊ก รวมทั้งไลน์แอด
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,298 วันที่ 21 - 23 กันยายน พ.ศ. 2560
