เด้งรับสังคมไร้เงินสด! ‘เซ็นทรัล-เดอะ มอลล์’อัดบริการ-โปรดึงนักช็อป

22 ก.ย. 2560 | 10:59 น.
ชี้เทรนด์ Cashless Society แรงเว่อร์! “เซ็นทรัล-เดอะ มอลล์” เด้งรับกระแส ผนึกพันธมิตรทั้งสถาบันการเงิน-ไอที-แบรนด์ดัง เสริมบริการทั้ง on demand/QR Payment หวังเพิ่มความสะดวก โปรโมชันจูงใจ หลังประเมินพบปลุกนักช็อปซื้อง่าย จ่ายคล่อง

MP40-3298-A กลายเป็นประเด็นที่ต้องจับตา เมื่อกระแสการผลักดันให้สังคมไทยก้าวสู่สังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society เริ่มแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ไม่ใช่เฉพาะในสถาบันการเงินเท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านค้าอื่นๆ ที่เปิดรับการชำระเงินรูปแบบใหม่นี้ ถือเป็นนวัตกรรมสำหรับคนไทยที่เติบโตไปพร้อมกับสมาร์ทโฟน เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคขยับ ไลฟ์สไตล์เปลี่ยน สิ่งที่จะตามมาคือ ผู้ประกอบการที่ต้องเด้งรับ พร้อมปรับทัพให้ทันกับเทรนด์ความนิยมที่เกิดขึ้น

[caption id="attachment_179289" align="aligncenter" width="503"] ยุวดี จิราธิวัฒน์ ยุวดี จิราธิวัฒน์[/caption]

โดยนางยุวดี จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า อนาคตผู้บริโภคคนไทยจะก้าวเข้าสู่แคชเลส โซไซตีมากขึ้น ดังนั้นห้างเองต้องพร้อมรองรับ โดยที่ผ่านมาบริษัทร่วมกับแบงก์เปิดให้บริการ QR Code มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ส่วนใหญ่เป็นการให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และมีสินค้าบางแบรนด์ที่ให้บริการเช่นกัน รวมถึงล่าสุดการให้บริการ Central on demand ก็ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เกิดขึ้นเพื่อรองรับสังคมไร้เงินสดด้วย

“วันนี้ลูกค้า 60-70% ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต และแนวโน้มความนิยมที่เพิ่มขึ้นของแคชเลส โซไซตี ทำให้มีผู้ประกอบการสินค้าหลายรายสนใจและเริ่มให้บริการมากขึ้น ซึ่งห้างเองก็ต้องปรับตัวรวมทั้งเพิ่มบริการให้ทันกับความต้องการ”

ด้านนางสาวปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ห้างเซ็นทรัลเตรียมพร้อมในการรับมือกระแสสังคมไร้เงินสด โดยบริการล่าสุดคือ เซ็นทรัล ออน ดีมานด์ โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติสามารถช็อปปิ้งได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก ผ่านทางไลน์ @Centralondemand โดยสามารถแชตกับเจ้าหน้าที่ของห้าง เพื่อสอบถามและสั่งซื้อสินค้าที่ต้องการ

จากนั้นเลือกชำระเงินออนไลน์ แล้วรอรับสินค้าที่จะส่งตรงถึงบ้าน หรือเลือกรับสินค้าในห้างที่สั่งซื้อ เป็นทางเลือกใหม่ของการช็อปปิ้งข้ามโลก ลูกค้าชาวไทยสามารถสั่งซื้อสินค้าจากห้างในยุโรป หรือชาวยุโรปก็สามารถสั่งซื้อสินค้าจากห้างเซ็นทรัลชิดลม หรือศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ได้เช่นกัน ทั้งนี้หลังเปิดให้บริการเซ็นทรัลออน ดีมานด์ได้ 2 เดือนพบว่ามีลูกค้าเข้ามาติดตามแล้วกว่า 2 หมื่นราย และคาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าเข้ามาติดตามเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนราย

“ลูกค้าที่ใช้บริการ Central on demand สามารถจ่ายเงินได้หลายวิธีทั้งโอนเงิน จ่ายผ่านบัตรเครดิต หรือจ่ายทุกอย่างผ่านไลน์เพย์ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินสดเลย บริการนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทุกคนเพียงแค่ลูกค้าเสิร์ชหา @CentralOnDemand ตามด้วยสาขาที่ต้องการผ่านแอพพลิเคชัน LINE จากนั้น แอดเป็นเพื่อน แล้วเริ่มแชตสอบถาม หรือหาสินค้าที่ต้องการ จากนั้นช็อปปิ้งสินค้าชิ้นที่ต้องการ ช่องทางการชำระเงินผ่านช่องทางที่คิดว่าสะดวกที่สุด โดยไม่ต้องมีเงินสดก็สามารถช็อปปิ้งห้างเซ็นทรัลได้ทั่วประเทศ”

QR Code ส่วนมากจะใช้เพื่อเพิ่มความสะดวก เช่น Link เข้าไปกับ Application ต่างๆ ของเซ็นทรัลเพื่อสืบหาข้อมูล, Scan QR Code เพื่อ Download Application เช่น App Central Smart Shopper เพื่อเป็นตัวช่วยในงานช็อปปิ้ง เปรียบเทียบบัตรเครดิตว่าขณะนี้บัตรชนิดไหนให้โปรโมชันที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังให้ลูกค้า scan QR Code หลังใบเสร็จเพื่อตอบแบบสอบถามหรือช่วย scan QR Code ในการให้บริการ ด้วย อย่างไรก็ดีอนาคตเซ็นทรัลมีแผนจะเพิ่มพันธมิตรมากขึ้น เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ จากปัจจุบันที่บริษัทเป็นพันธมิตรกับทุกสถาบันการเงินอยู่แล้ว “cashless society จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อผู้บริโภคให้มากขึ้นทั้งช่องทาง online และ offline ไม่ว่าจะที่สาขาต่างๆ หรือทาง www.central.co.th เพราะการเพิ่มความสะดวกสบายเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่าย และไม่ต้องพกเงินสด”

[caption id="attachment_18550" align="aligncenter" width="334"] ชำนาญ เมธปรีชากุล ชำนาญ เมธปรีชากุล[/caption]

ขณะที่นายชำนาญ เมธปรีชากุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะ มอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ต้นปีหน้าเดอะมอลล์มีแผนพัฒนาระบบ M Point Pay โดยลูกค้าสามารถนำคะแนนจากบัตรสมาชิก M Card มาใช้แทนเงินสดเพื่อซื้อสินค้าในห้างและมีการทดลองนำระบบ QR Payment มาใช้ในห้างเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า และจะมีการพัฒนาให้นำระบบ Samsung Pay, Alipay หรือระบบ e- Payment อื่นๆ ให้สามารถมาใช้ใน Food Court หรือ Food Hall ได้ในอนาคต 1-2 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ต่อยอดการให้บริการที่เหนือกว่าของเดอะ มอลล์ กรุ๊ป

“ปัจจุบันเดอะ มอลล์ให้บริการ e-Payment ทั้ง Samsung Pay, Alipay ในห้างสรรพสินค้า รวมถึง Food Hall หรือศูนย์อาหาร ก็มีระบบ Rabbit Card และ Rabbit Line Pay ซึ่งเริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 2559 โดยลูกค้าที่นิยมใช้ช่องทาง การชำระเงินดังกล่าวจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบาย และกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นิยมใช้จ่ายผ่าน Ali pay”

อย่างไรก็ดีในอนาคตบริษัทมีแผนขยายรูปแบบการให้บริการ เพื่อให้ลูกค้าสะดวกสบายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสถาบันการ เงิน และกลุ่มไอที รวมทั้งการเพิ่ม โปรโมชันต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้า เข้ามาใช้บริการมากขึ้น เพราะเชื่อมั่นว่าดิจิตอล เพย์เมนต์ จะเข้ามามีบทบาทและกลายเป็นช่องทางการชำระเงินที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้เพิ่มขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาครัฐที่ให้ความสำคัญและรณรงค์ e-Payment มากขึ้น เทรนด์โลกที่มุ่งสู่สังคม Cashless Society มากขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาเพิ่มความสะดวก การใช้งานที่ง่าย เป็นต้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,298 วันที่ 21 - 23 กันยายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว