'ทุนไทย' ยกทัพ! รุกอาหรับ ขาใหญ่พรึ่บ

21 ก.ย. 2560 | 12:24 น.
ดัน 200 บริษัทไทยปักธงตะวันออกกลาง เตรียมจัดใหญ่ไทยแลนด์ เฟสติวัลครั้งแรกในดูไบต้นปีหน้า ชิมลางก่อนร่วมงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 สเต็ป 2 เล็งผุดไทยมาร์ต ศูนย์จำหน่ายสินค้าไทยถาวรในยูเออี ขณะค่ายใหญ่เอสซีจี ซีพี แม็คโคร โออิชิ กิฟฟารีนรุกเงียบขยายธุรกิจ

 

นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ นายกสมาคมการค้าผู้ส่งออกเอเชียและตะวันออกกลาง เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า จากที่ตะวันอออกลาง (15 ประเทศ) เป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพของไทย แม้ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมากลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบจากราคานํ้ามันซึ่งเป็นรายได้หลักปรับตัวลดลง แต่ก็ยังมีความต้องการนำเข้าสินค้าอุปโภค-บริโภคอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทางสมาคมร่วมกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนของไทยและดูไบได้เตรียมจัดงานไทยแลนด์ เฟสติวัลขึ้นเป็นครั้งแรก ณ Zabeel Park ของรัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) ระหว่างวันที่ 15 มกราคม-3 เมษายน 2561 รวมระยะเวลา 79 วัน

[caption id="attachment_210033" align="aligncenter" width="503"] อัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ นายกสมาคมการค้าผู้ส่งออกเอเชียและตะวันออกกลาง อัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ นายกสมาคมการค้าผู้ส่งออกเอเชียและตะวันออกกลาง[/caption]

เป้าหมายการจัดงานครั้งนี้จะเชิญชวนผู้ประกอบการสินค้าไทยเข้าร่วมงาน 200 บริษัทในกลุ่มสินค้าที่หลากหลายและได้รับความนิยมในดูไบและตะวันออกกลาง อาทิ สินค้าในกลุ่มแฟชั่นทั้งเสื้อผ้า รองเท้า อัญมณีและเครื่องประดับ สินค้าอาหาร ขนมขบเคี้ยว สุขภัณฑ์ ของตกแต่งบ้าน ผลิตภัณฑ์สปา ธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นต้น ทั้งนี้นอกจากนำสินค้าไปจำหน่ายเพื่อเปิดตลาดในงานแล้ว ยังมีเป้าหมายเพื่อหาพันธมิตรที่สนใจจะเปิดร้านหรือขยายสาขาโดยนำสินค้าไทยไปจำหน่าย รวมถึงเพื่อส่งออกต่อไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลางด้วย

 

“การจัดงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากสถานกงสุลไทย และสถานทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี สสว. กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ททท. สมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตไทย และ DUBAI MUNICIPALITY และมีพันธมิตรจากเอกชนร่วมจัดคือเครือสหพัฒน์ ร้านอาหารลิตเติ้ลแบงค็อกในยูเออี ส่วนกลุ่มเป้าหมายผู้ชมงานได้แก่คนท้องถิ่น ชาวต่างชาติที่ทำงานหรือทำธุรกิจอยู่ในยูเออีกว่า 9 ล้านคน รวมถึงนักท่องเที่ยว ซึ่งการจัดงานนานถึง 79 วัน เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยได้พบปะและติดต่อกับคู่ค้าโดยตรง และจะทำให้รู้ถึงโครงสร้างจากของจริงว่าควรตั้งราคาขายสินค้าอย่างไร ถือเป็นการสร้างโอกาสและสนับสนุนผู้ประกอบการจากมือสมัครเล่นสู่มืออาชีพ”

 

การจัดและร่วมงานครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกของผู้ประกอบการไทย ก่อนตัดสินใจเข้าร่วมงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งงานใหญ่ระดับโลกที่จะจัดขึ้นที่ดูไบในปี 2563 ทั้งนี้หากการจัดงานไทยแลนด์เฟสติวัลครั้งแรกมีผู้ประกอบการ 150 จาก 200 รายที่เข้าร่วมประสบความสำเร็จทางธุรกิจ จะมีผลต่อการวางแผนการจัดงานในปีต่อๆ ไป รวมถึงสมาคมมีแผนจะร่วมลงทุนกับภาคธุรกิจของดูไบในการจัดตั้ง THAIMART เพื่อเป็นตลาดขายสินค้าไทยอย่างถาวรในดูไบในอนาคต

 

“ปัจจุบันมีผู้ประกอบการไทยเข้าไปทำธุรกิจและการค้าในยูเออีแล้ว อาทิ รองเท้าแอโร่ซอฟต์ที่มีพันธมิตรจัดตั้งบริษัทแอร์โรซอฟต์ยูเออีฯนำเข้าไปจำหน่าย รวมถึงส่งออกต่อไปยังประเทศในตะวันออกกลางในแต่ละปีราว 550 ตู้คอนเทนเนอร์ มีค่ายกิฟฟารีนไปเปิดสาขาแล้ว 2-3 สาขา ร้านอาหารลิตเติ้ลแบงค็อกซึ่งมีเจ้าของเป็นคนไทยเปิดให้บริการแล้ว 5-6 สาขา มีร้านอาหารแบรนด์ไทยชื่อปาป้า จูเนียร์ที่มีเจ้าของเป็นชาวยูเออี 5-6 สาขา ส่วนเครือเอสซีจีก็ไปทำธุรกิจซื้อมาขายไป ซีพีก็เป็นบริษัทเก่าแก่ในดูไบ นอกจากนี้มีโออิชิก็เริ่มส่งสินค้าไปจำหน่ายในดูไบแล้ว ส่วนแม็คโครล่าสุดก็มีการจัดตั้งบริษัทเพื่อเตรียมทำธุรกิจในดูไบแล้ว”

 

[caption id="attachment_122572" align="aligncenter" width="247"] สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์[/caption]

ด้านนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตะวันออกกลางเคยเป็นตลาดส่งออกรถยนต์อันดับ 1 ของไทย ในบางปีเคยส่งออกได้สูงสุดถึง 3 แสนคัน แต่หลังจากราคานํ้ามันปรับตัวลดลง และเกิดภาวะสงครามในตะวันออกกลาง ทำให้มีการนำเข้ารถยนต์จากไทยลดลง คาดปีนี้คงนำเข้าจากไทยไม่ถึง 1 แสนคัน อย่างไรก็ดีจากราคานํ้ามันที่ปรับตัวดีขึ้นในเวลานี้ หวังในปีหน้าตะวันออกกลางจะมีการนำเข้ารถยนต์จากไทยเพิ่มขึ้น

 

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,298 วันที่ 21 - 23 กันยายน พ.ศ. 2560