สมาคมนักวิเคราะห์ฯมองหุ้นปีนี้มีลุ้น1,700จุด

18 ก.ย. 2560 | 11:26 น.
สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ มองหุ้นไทยช่วงที่เหลือของปีนี้ดัชนีมีโอกาสแตะ 1,700 จุด อานิสงส์เงินทุนไหลเข้า ระวังหุ้นร่วง เหตุกำไรบริษัทจดทะเบียนยังโตตามไม่ทัน

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้มีโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1,700 จุดได้ แต่เป็นการปรับขึ้นที่ไม่มีเสถียรภาพและมีโอกาสปรับตัวลดลง เนื่องจากเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเงินทุนต่างชาติที่ย้ายมาจากตลาดหุ้นในอินโดนีเซีย และเวียดนามที่ปรับตัวขึ้นไปสูงก่อนหน้านี้ ขณะที่กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนไทยยังไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามดัชนี

ทั้งนี้ ประเมินตามพื้นฐานของผลประกอบการ ดัชนีในปีนี้อยู่ที่ 1,650 จุด ตามการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ประมาณ 5 - 6% จากปีก่อน จึงมองหากดัชนีจะปรับตัวลดลงก็จะไม่รุนแรง เนื่องจากดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำทำให้สภาพคล่องในตลาดโลกยังมีอยู่มาก ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีโอกาสที่จะชะลอการปรับลดงบดุล (Balance Sheet) ออกไปด้วย เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายตามที่ FED ตั้งไว้

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในปี 61 คาดว่าจะมีการเติบโตที่ค่อนข้างดี จากกำไรบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก 10% จากปีนี้ ตามสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นทั้งภาคการเกษตรที่ราคาพืชผลเริ่มฟื้นตัว การลงทุนภาครัฐที่เริ่มเกิดเห็นผล และหากมีการเลือกตั้งน่าจะทำให้ภาครัฐเริ่มมีการเร่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่เร็วขึ้นอีกด้วย ทำให้การบริโภคในประเทศเริ่มกลับมา

อย่างไรก็ตามยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตามนโยบายทางด้านการเงินของ FED เช่นการปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบาย หรือการปรับลดงบดุลที่จะมีผลอย่างมากกับสภาพคล่องในตลาดโลก และปัจจัยทางการเมืองของไทยว่าจะมีการเลือกตั้งและการลงทุนของภาครัฐตามที่คาดไว้หรือไม่

นายสมบัติ นราวุฒิชัย อุปนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนและประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์เออีซี เปิดเผยว่า มองกรอบดัชนีในช่วงที่เหลือของปีนี้อยู่ที่ 1,650-1,700 จุด โดยคาดว่าเงินทุนจากต่างประเทศยังมีโอกาสเข้ามาอีกมาก เนื่องจากสภาพการเมืองของไทยเริ่มมีความสงบและต่างประเทศเริ่มให้การยอมรับมากขึ้น โดยมีแรงซื้อสุทธิกลับมานับตั้งแต่ปี 59 ถึงปัจจุบันอยู่ที่ 9 หมื่นล้านบาท อยู่ในระดับที่ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับในช่วงปี 56-58 เป็นช่วงที่มีปัจจัยทางด้านการเมืองในไทย ทำให้นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นไทยออกไปสุทธิกว่า 2.9 แสนล้านบาท ประกอบกับปัจจัยด้านหนี้ครัวเรือนที่ผ่อนคลายลงอย่างมากจากการครบกำหนดผ่อนชำระรถคันแรก และกิจกรรมสังสรรค์ต่างๆที่จะเริ่มกลับมาคึกคักในช่วง พ.ย. นี้เป็นต้นไป

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1 ทั้งนี้ มองว่าการก่อการร้ายในต่างประเทศโดยเฉพาะในยุโรป รวมถึงความตึงเครียดบริเวณคาบสมุทรเกาหลียังเป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตาม อาจทำให้ตลาดหุ้นแกว่งตัวเล็กน้อยในช่วงที่เหลือของปี แต่ไม่ใช่ปัจจัยที่จะก่อให้เกิดสงครามขนาดใหญ่ได้ โดยประเมินเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยในปี 61 ไว้ที่ 1,750 จุด

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บล.เคที ซิมีโก้ กล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีคาดว่าดัชนีจะได้รับผลดีจากปัจจัยกระแสเงินทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาต่อเนื่อง และเม็ดเงินจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่จะเข้ามาในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ทำให้ดัชนียังมีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่อง มองเป้าดัชนี SET ปีนี้ที่ 1,630 -1,700 จุด แต่จากปัจจัยด้านกำไรสุทธิที่ไม่เติบโตตามจะทำให้ดัชนีปรับตัวลงมาสู่พื้นฐาน

ส่วนปี 61 มองมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1,720 - 1,780 จุด บน P/E 15.6 - 16.1 เท่า จากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะเติบโต 10% ตามการลงทุนของภาครัฐ และการบริโภคของภาคเอกชนที่เริ่มฟื้นตัว ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1