TFD มั่นใจโครงการมหาดเล็กฯทำถูกกม. จ่อยื่นอุทธรณ์30วัน

18 ก.ย. 2560 | 09:02 น.
TFD มั่นใจโครงการมหาดเล็ก เรสซิเดนท์ ซอยมหาดเล็กหลวง 2 ชะลอ ไม่ส่งผลกระทบภาพรวมธุรกิจ ยืนยันดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย จับมือพระคลังข้างที่ สำนักพระราชวัง เจ้าของที่ดิน เตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 30 วัน ยันไม่กระทบผลประกอบการของบริษัท บวกนโยบาย EEC หนุนธุรกิจนิคมฯ ในพื้นที่

บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TFD ชี้แจงถึงกรณีที่ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาเกี่ยวกับ “โครงการมหาดเล็ก เรสซิเดนท์” ว่าเป็นความเห็นในทางกฎหมายของศาลปกครองกลางเท่านั้นแต่ยังไม่เป็นที่สุด บริษัทฯ สามารถอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองกลางนี้ไปยังศาลปกครองสูงสุดได้ โดยจะขอใช้สิทธิตามกฎหมายที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวร่วมกับเจ้าของที่ดินคือ สำนักงานพระคลังข้างที่ สำนักพระราชวัง ต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 30 วัน ตามกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการโครงการดังกล่าวตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ มีเอกสารพร้อมหลักฐานต่างๆ ครบถ้วน และคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมก็ได้พิจารณาอย่างรอบคอบเป็นอย่างยิ่งในการให้ความเห็นชอบกับรายงาน EIA ในครั้งนี้ จึงมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการพิจารณารายงาน EIA ของบริษัทฯ เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

นอกจากนี้ โครงการของบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในการขออนุญาตเฉกเช่นเดียวกับอาคารทุกอาคารที่ได้ปลูกสร้างอยู่บนที่ดินโฉนดแปลงเดียวกันกับที่ดินโครงการของบริษัทฯ ดังนั้น หากบริษัทฯ สร้างไม่ได้ ทุกอาคารที่ตั้งอยู่ในซอยมหาดเล็กหลวง 1 - 3 และไม่ได้ตั้งอยู่ติดริมถนนราชดำริซึ่งถือเป็นถนนสาธารณะตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ก็จะสร้างไม่ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะรวมไปถึงอาคารสูงทุกอาคารที่อยู่บนที่ดินแปลงอื่นๆ ที่อยู่ติดกับถนนส่วนบุคคลไม่ได้อยู่ติดกับถนนสาธารณะก็จะเป็นการก่อสร้างโดยผิดกฎหมายด้วย และจะเกิดปัญหาตามมาอีกมากมายสำหรับอาคารที่มีอยู่แล้วและอาคารที่จะปลูกสร้างต่อไปในอนาคต หลังจากนี้ บริษัทฯ จะเร่งรวบรวมหลักฐานและยื่นเรื่องเพื่อขออุทธรณ์ตามกระบวนการทางกฎหมาย เพื่อให้ศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาวินิจฉัยให้เป็นบรรทัดฐานในทางปฏิบัติต่อไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคำพิพากษาของศาลปกครองกลางออกมาเช่นนี้ โครงการก็ต้องชะลอลงเพื่อรอผลจากคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดก่อน แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับบริษัทฯ เพราะระยะเวลาการเช่าก็ยังไม่ได้เริ่มต้นจนกว่าอาคารจะสร้างเสร็จ บริษัทฯ ยังคงมีสิทธิเป็นผู้เช่าที่ดินอยู่ สำหรับโครงการมหาดเล็กเรสซิเดนท์เซสนี้ ยังไม่ได้ทำการปลูกสร้างอาคาร เพียงทำการตอกเข็มได้เพียงแค่ไม่กี่ต้นเท่านั้นก็ได้หยุดการก่อสร้างเสียก่อนตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2559 เป็นต้นมา จึงใช้เงินลงทุนไปกับการก่อสร้างโครงการเพียงเล็กน้อยก็ได้หยุดทำการก่อสร้างแล้ว ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบใดเพิ่มเติมจากคำพิพากษาของศาลปกครองกลางจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งไม่มีผลกระทบกับผลการดำเนินงานของบริษัทด้วย เพราะโครงการนี้เป็นเพียงโครงการหนึ่งในหลายโครงการของ TFD เพียงแค่ชะลอโครงการออกไปเท่านั้นไม่ได้ยกเลิกโครงการเลย และที่สำคัญ บริษัทฯ ไม่ได้นำเอาประมาณการของผลการดำเนินการของโครงการนี้เข้ามาในแผนการดำเนินการของบริษัทฯ สำหรับปี 2560-2562 ด้วย

การดำเนินธุรกิจในด้านอื่นๆ ของบริษัทฯ ยังดำเนินการได้ตามปกติและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะการขายที่ดินโครงการนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการแบ่งโฉนดเพื่อขายที่ดินให้กับลูกค้าตอนนี้กำลังบูมมากเพราะอยู่ในโซน EEC ส่วนโครงการอสังหาริมทรัพย์ปลายปีนี้ TFD มีแผนที่จะเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมสูง 34 ชั้น จำนวน 4 อาคาร รวมทั้งสิ้น 1,337 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 6,800 ล้านบาท ตั้งอยู่ย่านถนนรัชดาภิเษก ใกล้เส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT โดยเป็นโครงการที่ร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท คันทรี การ์เด้น กรุ๊ป ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งจากประเทศจีน และโครงการ The Harbour View Residents คอนโดมิเนียม 25 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ในย่านคลองเตย มูลค่าขายรวม 1.62 พันล้านบาท ที่บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาขายทั้งโครงการให้แก่นักลงทุนชาวไต้หวันไปตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และได้รับชำระเงินมัดจำแล้ว 256 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 1.36 พันล้านบาท จะรับรู้ภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2561 ซึ่งจะสนับสนุนภาพรวมตลอดครึ่งหลังปีนี้ไปจนถึงปี 2561 ให้เติบโตต่อเนื่อง

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1 รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนให้การสนับสนุนและส่งเสริมพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development: EEC) ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศ เพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เป็นตัวแทนต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเมติ (เป็นกระทรวงด้านเศรษฐกิจการค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น) พร้อมคณะนักลงทุนญี่ปุ่นหน้าใหม่ 560 ราย รวมถึงผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจในไทยอยู่แล้วลงสำรวจพื้นที่ EEC เพื่อกระตุ้นให้เกิดการจับคู่ธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเติม และปลายปีนี้กลุ่มนักลงทุนจากประเทศจีนจะมาลงพื้นที่ EEC เช่นกัน ดังนั้นจึงทำให้ TFD ได้รับผลประโยชน์โดยตรงหากมีการลงทุนเกิดขึ้น

ทั้งนี้ โครงการนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 มีพื้นที่โครงการทั้งหมดรวม 841 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ขายประมาณ 630 ไร่ ด้านหน้ายาวขนานติดกับถนนมอเตอร์เวย์ถึง 4 กิโลเมตร มีทำเลเชื่อมต่อกับนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 1 โดยตั้งอยู่ที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา อยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ และท่าเรือแหลมฉบัง และอยู่ในพื้นที่ EEC ที่รัฐบาลให้การสนับสนุนอีกด้วย ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1