ผู้นำ 193 ประเทศร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ประจำปียูเอ็น แต่ผู้นำรัสเซีย, จีน, เยอรมนี และนางซูจี จะไม่เข้าร่วมการประชุม จับตา 5 ประเด็นร้อน
บรรดาผู้นำของ 193 ชาติสมาชิกสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น เตรียมที่จะเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่ประจำปี หรือ ยูเอ็นจีเอ ในวันอังคาร(19 ก.ย.60)นี้ที่นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการประชุมปีที่ 72แม้ปีนี้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน, ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย, นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ผู้นำเยอรมนี และนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา จะไม่เข้าร่วมการประชุม แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของเขา
ส่วนประเด็นที่น่าจับตามองในการประชุมปีนี้ประเด็นแรก ตัวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยวิพากษ์วิจารณ์โจมตียูเอ็นมาก่อนในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว อีกทั้งคณะรัฐบาลของเขาก็ยังมีจุดยืนตรงกันข้ามกับแนวทางของยูเอ็น อย่างประเด็นปกป้องสิทธิของผู้อพยพ, ข้อตกลงโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน รวมทั้งข้อตกลงลดโลกร้อนกรุงปารีส
ประเด็นที่สองเกาหลีเหนือ ที่ยังคงเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ แม้จะถูกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี คว่ำบาตรก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่เกิดขึ้นเพียง 4 วันหลังจากยูเอ็นเอสซีอนุมัติการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือรอบใหม่ ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ให้คำมั่นว่าจะตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างหนักหน่วง หากว่าเป็นภัยต่อสหรัฐฯ คาดว่าจะชูประเด็นเกาหลีเหนือเป็นเรื่องหลักในการกล่าวสุนทรพจน์ที่การประชุม
ประเด็นที่สาม เรื่องชาวโรฮิงญาในเมียนมา ที่ตอนนี้กลายเป็นประเด็นสำคัญที่ทั่วโลกกำลังจับตามอง เพราะมีชาวโรฮิงญาจำนวนเกือบ 5 แสนคน หลบหนีข้ามชายแดนเข้าสู่บังกลาเทศ เพื่อหนีจากเหตุรุนแรงในรัฐยะไข่ของเมียนมาที่เลขาธิการยูเอ็นเรียกการกระทำของกองทัพเมียนมาว่าเป็นการล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา
ประเด็นที่สี่ โครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์และนางนิกกิ เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็น พยายามชี้ว่าอิหร่านเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย และว่าสหรัฐฯจะยกเลิกข้อตกลงการจำกัดโครงการนิวเคลียร์อิหร่านที่อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และอีก 5 ชาติมหาอำนาจได้ทำไว้กับอิหร่านในปี 2015 โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ชี้ว่า เป็นข้อตกลงที่เลวร้ายที่สุด
และประเด็นสุดท้าย ข้อตกลงลดโลกร้อนกรุงปารีสและสภาวะภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลง ซึ่งน่าจับตามองว่าบรรดาผู้นำโลกจะมีความเห็นต่อพายุเฮอร์ริเคนสองลูกที่พัดถล่มรัฐเท็กซัสกับรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ และหมู่เกาะแคริบเบียน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมายังไงบ้าง นอกจากนี้ท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เคยประกาศว่าจะพาสหรัฐฯออกจากข้อตกลงลดโลกร้อนกรุงปารีสจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่