บล.เคทีบีมองหุ้นสัปดาห์นี้ทดสอบ1,670-1,690จุด

18 ก.ย. 2560 | 04:19 น.
KTBST ประเมิน SET Index สัปดาห์นี้ (18-22 ก.ย.) ยังไปได้ต่อ หุ้นกลุ่มใหญ่จะเป็นตัวนำตลาด ด้วยแรงซื้อจากต่างชาติและปัจจัยบวกในประเทศ มองกรอบดัชนีสัปดาห์นี้มีโอกาสขึ้นถึง 1,670-1,690 จุด

[caption id="attachment_209266" align="aligncenter" width="503"] ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์[/caption]

ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST ประเมินตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ (18-22 ก.ย.) ว่า ดัชนีมีแนวโน้มที่จะเดินหน้าไปได้ต่อหลังจากมีเงินลงทุนจากต่างชาติไหลกลับเข้ามาหลังดัชนีฯผ่าน 1,600 จุดขึ้นมาได้ โดยปัจจัยบวกของตลาดหุ้นไทยที่เอื้อต่อการลงทุน แม้กำลังซื้อผู้บริโภคหรือกำไรตลาดอาจยังไม่ดี แต่มีโอกาสที่จะฟื้นตัว หลังจากรัฐบาลมีมาตรการทุ่มเงินลงทุนในเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในช่วงไตรมาสที่ 3 ถึงไตรมาสที่ 4 รวมทั้งหุ้นกลุ่มน้ำมัน-ปิโตรเคมี ที่ได้อานิสงค์จากราคาที่ค่อนข้างดี ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นช้าเมื่อเทียบกับตลาดอีกหลายแห่ง (Laggard) มีความน่าสนใจมากขึ้น พิจารณาจาก Current P/E ที่ 17 เท่า และ Forward P/E ของกำไรปี 2018 ที่ 14 เท่า ต่ำกว่าตลาดหุ้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ดังนั้น KTBST จึงมองเป็นปัจจัยหนุนของดัชนีฯ ไม่ให้ร่วงกลับไปที่ 1,600 จุด อีก ในช่วงสั้นๆ นี้

ทั้งนี้คาดว่าตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ แม้ว่าจะการปรับฐานในระหว่างวัน แต่ก็ไม่ทำให้ดัชนีฯลดลงเลยในแต่ละวัน และเงินทุนจากต่างประเทศ (Fund Flow) ที่เข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่องเป็นตัวแปรสำคัญ โดยประเมินกรอบดัชนีฯ ในสัปดาห์นี้ มีโอกาสขึ้นไปซื้อขายในระดับ 1,670-1,690 จุด

"หากไม่มีปัจจัยลบเข้ามาดัชนีฯน่าจะบวกต่อ หุ้นที่น่าลงทุนของสัปดาห์นี้จะนำด้วยหุ้นขนาดใหญ่ (SET50) หุ้นผลประกอบการดี (น้ำมัน-ปิโตรเคมี) และหุ้นที่ยังมีความ laggard อยู่ อย่างไรก็ตามดัชนีฯที่ขึ้นมาเกือบ 6% อาจมีแรงขายช่วงสั้นเข้ามาอีกครั้ง เมื่อดัชนีฯวิ่งเกินระดับ 1,670 จุดขึ้นไปซึ่งจะเป็นจุดขายทำกำไรช่วงสั้น หรือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นรอบใหม่ของนักลงทุน โดยหุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ได้แก่ TMB, SINGER, BBL, CBG, PSL , THAI ส่วนหุ้นแนะนำเชิงเทคนิคได้แก่ TASCO, TICON , PM ,UV "

007-1-503x334-1-503x334-13 สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ สถานการณ์เกาหลีเหนือที่ยังมีความตึงเครียด แต่มองว่าตลาดหุ้นเอเชียไม่ได้ตอบรับกับประเด็นดังกล่าวมากและความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆยังค่อนข้างน้อย , การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในวันที่ 19-20 ก.ย. คาดว่า Fed ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย แต่นักลงทุนมองข้ามไปถึงการประชุมในช่วงสิ้นปีนี้ ว่าเฟดน่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้เนื่องจากเงินเฟ้อสหรัฐฯเติบโตในระดับสูงกว่าคาด

ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามการประชุม กนง. ที่จะเริ่มวันที่ 27 ก.ย. แต่ตลาดเริ่มมีการพูดถึงประเด็นดังกล่าวแล้ว โดยช่วงก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังมีการระบุว่า ธปท. ควรจะออกมาตรการบางอย่างเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่าไปมากกว่านี้ คาดว่ารายงานการประชุม กนง. อาจจะมีการประกาศมาตรการบางอย่างเพื่อให้สอดคล้องกับกระทรวงการคลัง ขณะที่ตัวเลขส่งออก/ยอดขายรถยนต์ที่จะประกาศในวันที่ 22 ก.ย. ซึ่งเดือนก่อนตัวเลขรถยนต์อยู่ที่ระดับ 65,178 คัน และยอดส่งออกเติบโต +10.5% ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1