พังงาบุกเชียงใหม่จัดงานคลื่นอันดามันเซาะถิ่นล้านนาขยายช่องทางสินค้าท่องเที่ยว

17 ก.ย. 2560 | 12:28 น.
จังหวัดพังงาและกลุ่มจังหวัดอันดามัน จัดงาน”คลื่นอันดามัน เซาะถิ่นล้านนา” นำสินค้า ผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงและจำหน่าย ให้ชิม ช็อป แช๊ะ แชร์และชมตลอดงาน 14-18 ก.ย.ที่เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ตั้งเป้ารายได้ กว่า 5 ล้านบาท

นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า จังหวัดพังงาและกลุ่มจังหวัดอันดามันที่มีพื้นที่ศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับสากล เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ชุมชน ปัจจุบันมีการประกอบการทั้งในระดับชุมชนและSMEs ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดพังงาอย่างมาก เนื่องจากก่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ทั้งผู้ประกอบการ OTOP และผู้ประกอบการ SMEs สถานการณ์ปัจจุบันพบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ส่วนใหญ่มีความต้องการขยายตลาด ส่วนหนึ่งสืบเนื่องมาจากผลิตภัณฑ์ขาดความต่อเนื่องในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมทั้งด้านคุณภาพการเก็บรักษา การขนส่ง การสร้างแรงจูงใจต่อผู้บริโภคตามแนวโน้มและทิศทางของการตลาดการให้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตลอดจนถึงการสร้างตราสินค้า ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านบรรจุภัณฑ์ และเป็นโอกาสในการพัฒนาสินค้าเพื่อรองรับการท่องเที่ยว

pp1

ทางกลุ่มภาคใต้ฝั่งอันดามัน 5 จังหวัด ประกอบด้วย พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และระนอง นำโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพังงา นำโครงการ “คลื่นอันดามัน เซาะ ถิ่นล้านนา” โดยนำเอาผู้ประกอบการ ทั้ง 5 จังหวัดมาเผยแพร่ ทั้งวัฒนธรรม และนำเอาของดีของเด่น ทั้ง 5 จังหวัดมาจัดกิจกรรมที่เชียงใหม่ ซึ่งกลุ่มจังหวัดท่องเที่ยวทั้ง 5 จังหวัดเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกแล้ว ก็มาเชิญชวนพี่น้องประชาชนภาคเหนือทั้งจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงได้ไปเยี่ยมเยือนทั้ง 5 จังหวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่ง จังหวัดพังงา มีสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับโลกที่เห็นโดยทั่วไปก็คือเขาตาปู หรือเกาะเจมส์บอน ที่เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลิวู๊ด การเดินทางสะดวก มีเที่ยวบินตรงจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ไปลงที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต จากนั้นก็สามารถไปท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดอันดามันทั้ง 5 จังหวัด

สำหรับ สถานการณ์การท่องเที่ยวของกลุ่ม 5 จังหวัด มีตัวเลขที่เพิ่มขึ้น มูลค่าการท่องเที่ยวเป็น 100,000 ล้านบาทโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 3 จังหวัดก็คือ ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตอนนี้ตัวเลขการท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อยากเชิญชวนไปท่องเที่ยวธรรมชาติอันสวยงามทางฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ติดอันดับ มีนักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของจังหวัดพังงา มาจากประเทศเยอรมัน รองลงมาเป็นกลุ่มสแกนดิเนเวียร์ มีทั้งฝรั่งเศส อังกฤษ ส่วนนักท่องเที่ยวจีนอยู่อันดับที่ 7 กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวจังหวัดพังงาจะเป็นกลุ่มระดับพรีเมี่ยม ปีที่แล้วมีรายได้จากการท่องเที่ยวเฉพาะจังหวัดพังงา 40,000 ล้านบาท คาดว่าปี 2560 นี้จะแตะถึง 50,000 ล้านบาทเฉพาะจังหวัดพังงา การจัดงานในครั้งนี่คาดหวังว่าผู้ประกอบการจะได้เปิดตลาดใหม่ มานำเสนอเสนอสินค้า ที่ปกติจะขายดีอยู่แล้วที่จังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไข่มุก อาหารทะเล พี่น้องประชาชนในภาคเหนือก็สามารถมาจับจ่ายใช้สอยได้

pp2

สินค้าอาหารทะเล ไม่ว่าจะเป็น น้ำพริกกุ้งเสียบ ของจังหวัดพังงา ซาลาเปาทัพหลี ของจังหวัดระนอง เราคิดว่าก็คงจะประสบความสำเร็จ ก็เนื่องจากปีนี้เป็นปีแรกที่เราขยายตลาดนำสินค้า และของดีในกลุ่มอันดามัน มาที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้ามาเปิดตลาดการท่องเที่ยวที่เชียงใหม่ 2 ครั้ง การโรดโชว์เพื่อส่งเสริมและขยายช่องทางการตลาดสินค้า OTOP / SMEs/ Moc Biz club/ สินค้าอินทรีย์และท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ซึ่งจากจังหวัดเชียงใหม่ จะไปจัดที่จังหวัดอุดรธานีต่อไป เหตุผลที่จัดที่เชียงใหม่และจังหวัดอุดรธานี เนื่องจากว่าทั้ง 2 จังหวัดมีสนามบินและมีสายการบินที่บินตรงมาลงที่ภูเก็ตและกระบี่ คาดหวังว่า จะเป็นการ เชื่อมโยงและเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าและพัฒนาระดับภูมิภาค ระดับประเทศและก้าวสู่ระดับนานาชาติได้ตามลำดับอันจะส่งผลให้เกิดความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจของภูมิภาคและประเทศ

นางสาวทิพย์สุดา อินทรสุวรรณ พาณิชย์จังหวัดพังงา กล่าวว่า สืบเนื่องจากจังหวัดพังงา และกลุ่มจังหวัดอันดามันซึ่งประกอบด้วย 5 จังหวัด คือพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรังและระนองได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพังงา ดำเนินการจัดมหกรรมสินค้าและส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา และกลุ่มจังหวัดอันดามัน ตามโครงการออกแบบและยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2560(เพิ่มเติม)ภายใต้คอนเซป”คลื่นอันดามัน เซาะถิ่นล้านนา”โดยมีครั้งนี้ก็เพื่อส่งเสริมและขยายช่องทางการตลาดสินค้าโอทอป เอสเอ็มอี รวมทั้ง Moc Biz สินค้าอินทรีย์และการท่องเที่ยวที่ มีศักยภาพของจังหวัด ให้สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน ภายใต้การส่งเสริมการค้าที่เหมาะสมโดยให้เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อ ผู้บริโภคและคู่ค้าใหม่ๆ เพื่อให้มีช่องทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นและช่วยประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มจังหวัดอันดามันให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

ส่งผลให้สามารถสร้างความเข้มแข็งให้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ชุมชนและผู้ประกอบการได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพความสามารถในการแข่งขัน สามารถเชื่อมโยงและเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าและบริการการท่องเที่ยว ในระดับภูมิภาคระดับประเทศ และก้าวสู่ระดับนานาชาติได้ตามลำดับ อันจะส่งผลให้เกิดความมั่นคงมั่งคั่งให้กับเศรษฐกิจของภูมิภาคและประเทศ และก้าวสู่ระดับนานาชาติได้ต่อไป

pp3

สำหรับกิจกรรมภายในงาน “คลื่นอันดามัน เซาะ ถิ่นล้านนา” นี้ประกอบด้วยการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ จาก5จังหวัดในกลุ่มอันดามัน ร่วมนำผลิตภัณฑ์มาจำหน่ายอาทิ สาหร่ายพวงองุ่น ข้าวไร่ดอกข่า ขนมเต้าส้อ ขนมเปี๊ยะ อาหารทะเลแปรรูป น้ำแร่และผลิตภัณฑ์จากน้ำแร่ เครื่องประดับจากมุก ผลิตภัณฑ์จากผ้าบาติก ฯลฯ นิทรรศการผลิตภัณฑ์เด่น และการท่องเที่ยว รวมจำนวนมากกว่า 100 คูหา เพื่อให้ชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงได้ชิม ช้อป แช๊ะ แชร์และชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงจากศิลปินจากค่ายต่างๆ เช่น ยสน ธัญญ่า นุ้ย สุวีณา ยิ้มและกานดา อาร์สยาม และในวันที่ 20-24 กันยายนนี้ก็จะเป็นการจัดกิจกรรมครั้งที่ 2 ที่เซ็นทรัลพลาซ่าจังหวัดอุดรธานีด้วย การจัดจำหน่ายในครั้งนี้คาดว่าน่าจะได้ยอดขายประมาณ 5 ล้านบาท อย่างน้อยๆที่มาเปิดตลาดที่เชียงใหม่จะเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวและจากการจำหน่ายสินค้า ผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นประมาณ 3%

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1