“กองทุนธรรมาภิบาล” ลงทุนหรือทำบุญ? ...ผลตอบแทนสู้ “กองทุนหุ้นทั่วไป” ได้หรือไม่?

21 ก.ย. 2560 | 09:09 น.
MP23-3297-2A


มันนี่ ดีไอวาย 4.0 | นี่คงเป็นคำถามของ “นักลงทุน” หลายคน ที่มีความสงสัย แต่ก็ต้องการที่จะลงทุนกับกองทุนธรรมาภิบาล ที่เน้นการลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ว่าจะสามารถแข่งขันกับการที่ไปลงทุนกับบริษัททั่วไปได้หรือไม่ เงินที่เรานำไปลงทุนสร้างผลตอบแทนให้เราได้เต็มที่ หรือ เน้นการกุศลอย่างเดียวกันแน่

ผมก็ได้ไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ปรากฏว่า มีนักวิชาการ 3 ท่าน ที่มหาวิทยาลัยวอริคของประเทศอังกฤษ ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้และตีพิมพ์ไว้ใน Journal of Corporate Finance ตั้งแต่ปี 2008 (พ.ศ. 2551) ชื่อเรื่อง The Price of Ethics and Stakeholder Governance : The Performance of Socially Responsible Mutual Funds ผลสรุปปรากฏว่า กลุ่มกองทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทที่เน้นธรรมาภิบาลและรับผิดชอบต่อสังคมในสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ยุโรป และเอเชีย ให้ผลตอบแทนที่แพ้กองทุนหุ้นทั่วไปของตลาดนั้น ๆ ตั้งแต่ -2.2% ถึง -6.5% จะมีก็เพียงในตลาดฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น และสวีเดน ที่ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกันกับกองทุนหุ้นทั่วไป โดยไม่แพ้ไม่ชนะ ตอนแรกเขียนมาถึงตรงนี้ แทบไม่อยากจะเขียนต่อแล้ว นี่ตกลง พวกกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีธรรมาภิบาลแพ้กองทุนปกติ ก็ไม่ได้ต่างกับการที่เราทำบุญหรืออย่างไรกัน แต่ไหนลองมาดูตัวเลขของไทยบ้างสิ

อันที่จริง กองทุนที่เน้นธรรมาภิบาลในบ้านเรานั้น มีมานานแล้ว เริ่มเปิดตลาดโดยกองทุนเปิดบรรษัทภิบาลหุ้นระยะยาว ของ “บลจ.ยูโอบีฯ” นั้น มีมานานกว่า 10 ปี ส่วนกองทุนเปิดบัวหลวงสิริผลบรรษัทภิบาล ของ “บลจ.บัวหลวงฯ” ก็อยู่มากว่า 5 ปี และกองทุนเปิดทิสโก้ ESG เพื่อสังคม ก็ตั้งมาปีกว่า พอลองเจาะลึงลงไปดูผลตอบแทนของทั้ง 3 กองทุน ก็พบว่า สามารถชนะตัวเทียบวัด หรือ Benchmark ได้ดีทีเดียว

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ

 

โดย “กองทุนเปิดบรรษัทภิบาลหุ้นระยะยาว” สามารถชนะดัชนีเทียบวัดทั้ง 3 ปี, 5 ปี และ 10 ปี ส่วน “กองทุนเปิดบัวหลวงสิริผลบรรษัทภิบาล” ที่จัดตั้งเมื่อเดือน เม.ย. 2555 ก็สามารถชนะดัชนีเทียบวัดได้ ทั้ง 1 ปี, 3 ปี และ 5 ปี หรือแม้แต่ “กองทุนเปิดทิสโก้ ESG เพื่อสังคม” ที่ตั้งมาเพียงแค่ปีกว่า ก็สามารถชนะดัชนีตัวเทียบวัดด้วยเช่นกัน


เห็นอย่างนี้แล้ว ค่อยสบายใจหน่อยครับ เพราะแสดงว่า บริษัทที่มุ่งเน้นบรรษัทภิบาลในประเทศไทยนั้น สามารถสร้างการเติบโตของกำไรได้ไม่แพ้บริษัททั่วไป หรือ อาจจะยกประโยชน์ให้ผู้จัดการกองทุน ว่าสามารถเลือกหุ้นได้เก่งก็ตาม ผลลัพธ์ก็คือ นักลงทุนมิได้เสียประโยชน์จากการเลือกลงทุนในกองทุนที่เน้นธรรมาภิบาล แต่กลับได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าดัชนีเทียบวัดอย่างมีนัยสำคัญ

ในปีนี้ ทางสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ได้ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันแห่งประเทศไทย รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอีกหลายแห่งต่างก็ลุกขึ้นมาช่วยกันออกกองทุนที่ลงทุนในบริษัทที่เน้นธรรมาภิบาล ซึ่งผมก็เชื่อมั่นว่า กระแสดังกล่าว นอกจากจะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หันมาตื่นตัวในเรื่องนี้กันมากขึ้นแล้ว รางวัลที่แถมมาก็คือ นักลงทุนสถาบันจะช่วยสนับสนุนการลงทุนในบริษัทที่ตั้งใจทำดีอีกด้วย

สำหรับนักลงทุนเอง ที่มาลงทุนในกองทุนดังกล่าว ก็ยังสามารถคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุน ที่ไม่ด้อยไปกว่าการลงทุนหุ้นทั่วไป อย่างนี้ก็ได้ ทั้งทำดีและยังได้กำไรอีกด้วยนะครับ

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,297 วันที่ 17-20 ก.ย. 2560

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว