วัฒนแพทย์ตรังชูจุดแข็ง กวาดคนไข้ตปท.มืออาชีพบริหารโตยั่งยืน-กระโดด
โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง ขายไอพีโอ ตุลาคม นักลงทุนวีไอดอดซื้อหุ้นเพียบ เปิดกลยุทธ์การเติบโต ไม่ต้องรอสร้างตึกเสร็จ ระหว่างทางดึงหมอเก่งเพิ่มการให้บริการ หนุนรายได้และมาร์จินเติบโต
นายเชน เหล่าสุนทร รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฝ่ายการเงิน บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) หรือ WPH ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของผู้ก่อตั้งคลินิกหมอวิทย์ในปี 2500 ก่อนจะขยับขึ้นเป็นโรงพยาบาล ในปี 2505 เปิดเผยว่า บริษัทเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 150 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท คาดเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนตุลาคม 2560 นี้ มีบริษัทหลักทรัพย์ธนชาตฯเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน มีนักลงทุนคุณค่า(VI) หลายคนสนใจซื้อหุ้น ส่วนครอบครัวลีละวัฒน์ หลังไอพีโอเหลือหุ้น 71.90% จากสัดส่วน 95.90% โดยไม่มีแผนที่จะขายหุ้นออกมาภายหลังจากบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งเป้าหมายที่ต้องการให้บริษัทมีการเติบโตก้าวกระโดดและยั่งยืน
“ในช่วงแรก เราบริหารโดยครอบครัว แต่เห็นว่าธุรกิจไม่เติบโต จึงมีการดึงมืออาชีพเข้ามาช่วยในช่วงที่ผมเริ่มเข้ามา รับผิดชอบประมาณปี 2557 ซึ่งก็เห็นผลชัดเจน กำไรสุทธิโตก้าวกระโดด จากปี 2556 ที่มีกำไรสุทธิเพียง 1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆจนมาถึง 72 ล้านบาทในปี 2559 และยังมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกมาก โดยเฉพาะภายหลังจากหุ้นเข้าตลาดที่มีโอกาสอีกมากจากได้เงินทุนที่มีต้นทุนตํ่ามีหมอเก่งๆ เข้าร่วมทำงานมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินทั้งหมด 244 ล้านบาท เมื่อได้เงินไอพีโอมาจะแบ่งคืนหนี้ไปบางส่วนในระหว่างที่ยังไม่ได้ใช้เงินไอพีโอไปขยายการลงทุน” นายเชนกล่าว
สำหรับวัฒนแพทย์ ตรัง เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ปัจจุบันมีห้องพักจำนวน 120 ห้อง และมีแผนขยายเป็น 212 เตียง รวมถึงกำลังก่อสร้างโรงพยาบาล วัฒนแพทย์ อ่าวนาง จ.กระบี่ ขนาด 59 เตียง คาดจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 4/2561 ซึ่งได้มาตรฐานโลกเป็นที่ยอมรับในระดับสากล หรือ JDI (Joint Commission International) สามารถให้บริการคนไข้ต่างประเทศได้ทั้งหมด
นายเชนกล่าวว่า บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดสำหรับคนไข้ต่างประเทศ ถึง 99.99% ส่วนใหญ่มาจากยุโรปที่มาท่องเที่ยวในเมืองไทย รวมถึงการมีพันธมิตรที่เป็นคลินิก โรงพยาบาลในจ.ตรัง กระบี่และจังหวัดใกล้เคียง และเอเยนต์จากต่างประเทศที่ส่งต่อคนไข้มาให้ โดยมีบริษัทย่อยคือ คลินิกเวชกรรมอินเตอร์เนชั่นแนลที่ให้บริการผู้ป่วยนอกเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันบริษัทมีรายได้/คน/ครั้งในการให้บริการผู้ป่วยนอกเฉลี่ย 1,600 บาท ส่วนผู้ป่วยในได้รับเฉลี่ย 1,800 บาท
น.พ.สมชาย จันทร์สว่าง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรังฯ ซึ่งมีประสบการณ์ในการสอน และบริหารโรงพยาบาลหลายแห่ง ก่อนมาเกษียณอายุที่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS กล่าวว่า เหตุผลหนึ่งในการตัดสินใจเข้ามาร่วมบริหารโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง เป็นเพราะผู้ถือหุ้นใหญ่บอกว่าจะไม่ขายหุ้นทิ้ง ซึ่งหากเข้ามาบริหารแล้ว มีการเปลี่ยนเจ้าของ สิ่งที่ทุ่มลงทุนไป ก็อาจจะสูญเปล่าได้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัทมีพนักงานที่เป็นคนดีและขยัน แต่ไม่มีทิศทางการเติบโตในระยะยาว เมื่อทีมผู้บริหารใหม่เข้ามาทำงานในหลายแผนก ก็เห็นศักยภาพการเติบโต มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เพราะมีการลงทุนในเรื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ครบวงจร และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง สามารถรักษาโรคที่ยากขึ้นได้ พร้อมมองหาโอกาสในการร่วมทุน สร้างหรือซื้อและควบรวมโรงพยาบาลที่อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโต
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,297 วันที่ 17 - 20 กันยายน พ.ศ. 2560
นายเชน เหล่าสุนทร รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฝ่ายการเงิน บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) หรือ WPH ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของผู้ก่อตั้งคลินิกหมอวิทย์ในปี 2500 ก่อนจะขยับขึ้นเป็นโรงพยาบาล ในปี 2505 เปิดเผยว่า บริษัทเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 150 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท คาดเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนตุลาคม 2560 นี้ มีบริษัทหลักทรัพย์ธนชาตฯเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน มีนักลงทุนคุณค่า(VI) หลายคนสนใจซื้อหุ้น ส่วนครอบครัวลีละวัฒน์ หลังไอพีโอเหลือหุ้น 71.90% จากสัดส่วน 95.90% โดยไม่มีแผนที่จะขายหุ้นออกมาภายหลังจากบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งเป้าหมายที่ต้องการให้บริษัทมีการเติบโตก้าวกระโดดและยั่งยืน
“ในช่วงแรก เราบริหารโดยครอบครัว แต่เห็นว่าธุรกิจไม่เติบโต จึงมีการดึงมืออาชีพเข้ามาช่วยในช่วงที่ผมเริ่มเข้ามา รับผิดชอบประมาณปี 2557 ซึ่งก็เห็นผลชัดเจน กำไรสุทธิโตก้าวกระโดด จากปี 2556 ที่มีกำไรสุทธิเพียง 1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆจนมาถึง 72 ล้านบาทในปี 2559 และยังมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกมาก โดยเฉพาะภายหลังจากหุ้นเข้าตลาดที่มีโอกาสอีกมากจากได้เงินทุนที่มีต้นทุนตํ่ามีหมอเก่งๆ เข้าร่วมทำงานมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินทั้งหมด 244 ล้านบาท เมื่อได้เงินไอพีโอมาจะแบ่งคืนหนี้ไปบางส่วนในระหว่างที่ยังไม่ได้ใช้เงินไอพีโอไปขยายการลงทุน” นายเชนกล่าว
นายเชนกล่าวว่า บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดสำหรับคนไข้ต่างประเทศ ถึง 99.99% ส่วนใหญ่มาจากยุโรปที่มาท่องเที่ยวในเมืองไทย รวมถึงการมีพันธมิตรที่เป็นคลินิก โรงพยาบาลในจ.ตรัง กระบี่และจังหวัดใกล้เคียง และเอเยนต์จากต่างประเทศที่ส่งต่อคนไข้มาให้ โดยมีบริษัทย่อยคือ คลินิกเวชกรรมอินเตอร์เนชั่นแนลที่ให้บริการผู้ป่วยนอกเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันบริษัทมีรายได้/คน/ครั้งในการให้บริการผู้ป่วยนอกเฉลี่ย 1,600 บาท ส่วนผู้ป่วยในได้รับเฉลี่ย 1,800 บาท
น.พ.สมชาย จันทร์สว่าง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรังฯ ซึ่งมีประสบการณ์ในการสอน และบริหารโรงพยาบาลหลายแห่ง ก่อนมาเกษียณอายุที่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS กล่าวว่า เหตุผลหนึ่งในการตัดสินใจเข้ามาร่วมบริหารโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง เป็นเพราะผู้ถือหุ้นใหญ่บอกว่าจะไม่ขายหุ้นทิ้ง ซึ่งหากเข้ามาบริหารแล้ว มีการเปลี่ยนเจ้าของ สิ่งที่ทุ่มลงทุนไป ก็อาจจะสูญเปล่าได้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัทมีพนักงานที่เป็นคนดีและขยัน แต่ไม่มีทิศทางการเติบโตในระยะยาว เมื่อทีมผู้บริหารใหม่เข้ามาทำงานในหลายแผนก ก็เห็นศักยภาพการเติบโต มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เพราะมีการลงทุนในเรื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ครบวงจร และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง สามารถรักษาโรคที่ยากขึ้นได้ พร้อมมองหาโอกาสในการร่วมทุน สร้างหรือซื้อและควบรวมโรงพยาบาลที่อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโต
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,297 วันที่ 17 - 20 กันยายน พ.ศ. 2560
