วัดใจ! 'บินไทย' เพิ่มทุน 'นกแอร์'
“บินไทย” จ่อเพิ่มทุนนกแอร์รอบใหม่หลังหารือนอกรอบกับ “กลุ่มจุฬางกูร” จูนแผนธุรกิจ ดัน “สมหมาย ภาษี” นั่งประธานกรรมการ ด้าน “พาที สารสิน” ระบุลาออกเองไม่ได้ถูกบีบ มอบงานซีอีโอรับไม้ต่อ บินไทยประชุมแผนสัปดาห์นี้ ชี้ชะตาเพิ่มทุนต.ค.
แหล่งข่าวระดับสูงจาก บริษัทการบินไทยจำกัด(มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงการเพิ่มทุนรอบใหม่ในสายการบินนกแอร์หลังนายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมแต่งตั้งนายปิยะ ยอดมณี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารมารับตำแหน่งต่อว่าจากกรณีดังกล่าว มีแนวโน้มที่การบินไทยจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไว้ที่ 21% ซึ่งจะมีการนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมบอร์ดการบินไทยในสัปดาห์นี้ ก่อนประชุมผู้ถือหุ้นนกแอร์เพื่อขออนุมัติเพิ่มทุนในวันที่ 20 กันยายนนี้
หลังจากก่อนหน้านั้น การบินไทยอ้างว่าแผนฟื้นฟูธุรกิจของนกแอร์ไม่ชัดเจนจึงเป็นสาเหตุให้ปฏิเสธการเพิ่มทุนครั้งแรก เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และยังมีการว่าจ้างบริษัทหลักทรัพย์ภัทรฯ ที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาทำการศึกษาใน 4 ทางเลือก ถึงผลดีผลเสีย ได้แก่ 1.ถ้าการบินไทยเพิ่มทุนแล้วจะได้อะไร 2.ไม่เพิ่มทุน 3. รักษาสัดส่วนไว้ เพื่อให้มีส่วนร่วมในการโหวตและ4.การขายหุ้นในนกแอร์ทิ้งไปทั้งหมด
อย่างไรก็ดีหลังการบินไทยตัดสินใจเพิ่มทุนรอบใหม่แล้วจะมีการหารือร่วมกันระหว่างฝ่ายบริหารของนกแอร์และการบินไทย เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการบริหาร หรือบอร์ดเอ็กซ์คอมพ์เพื่อร่วมกันบริหารนกแอร์ เพื่อให้นกแอร์ กลับมามีกำไรอีกครั้ง แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวยังระบุอีกว่า “เหตุที่การบินไทยจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพราะมีการหารือนอกรอบระหว่างฝ่ายบริหารการบินไทยกับกลุ่มจุฬางกูร ซึ่งกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของนกแอร์ เพื่อขอความชัดเจน และประเมินท่าทีการดำเนินธุรกิจกลุ่มนี้ ทำให้เข้าใจชัดเจนว่ามีวัตถุ ประสงค์เพื่อลงทุนและยอมให้นายพาที สารสิน ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของการบินไทยที่ต้องการเปลี่ยนผู้บริหารและโครงสร้างใหม่”
ส่วนการเพิ่มทุนรอบใหม่แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) จะเปิดให้จองซื้อหุ้นและชำระค่าหุ้นในวันที่ 16-20 ตุลาคมนี้ ในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคา 1.50 บาทต่อหุ้น เพื่อหวังระดมทุน 1.7 พันล้านบาท และหากการบินไทยไม่เพิ่มทุนกลุ่มจุฬางกูร ก็พร้อมที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุน และจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของการบินไทยเหลือเพียง 11 % หากไม่เพิ่มทุน
แหล่งข่าวระดับสูงจากคณะกรรมการบริษัทสายการบินนกแอร์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า นกแอร์ ได้เปลี่ยนคณะกรรมการบริหารบริษัทฯใหม่ เพื่อให้สอดรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นที่กลุ่มจุฬางกูรถือหุ้นใหญ่กว่า 40 % จึงแต่งตั้ง นายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มานั่งเป็นประธาน และตั้งบอร์ดใหม่อีก 2 คนคือ นายประเวช องอาจสิทธิกุล อดีตเลขาฯ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) และนางจิราพร เชมนะสิริ กรรมการอิสระ บริษัทไอร่าแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นกรรมการใหม่ เพื่อทดแทนกรรมการเก่าที่ลาออก ได้แก่ นายสมใจนึก เองตระกูล ประธานบอร์ด นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการเงินและบัญชี ตัวแทนจากการบินไทย และ เรืออากาศเอก มนตรี จำเรียง ตัวแทนจากการบินไทยที่ลาออกเพราะเกษียณอายุงาน
ด้านนายพาที สารสิน รองประธานกรรมการบริษัทสายการบินนกแอร์ จำกัด เผยว่า “ผมตัดสินใจลาออกเอง เพราะเห็นว่าถึงเวลาเหมาะสมที่ต้องเปลี่ยน ประกอบกับรอให้นายปิยะ ยอดมณี ยอมรับในตำแหน่งนี้แทน โดยได้แจ้งให้กับทางกลุ่มจุฬางกูร มาหลายเดือนก่อนหน้านี้แล้วว่า เนื่องจากทำมากว่า 14 ปีแล้ว และเห็นว่านกแอร์วันนี้จะมีทิศทางที่ดีมากยืนยันว่าไม่ได้ถูกการบินไทยบีบเพราะการบินไทยไม่ได้มีอำนาจที่จะทำเรื่องนี้ได้
ส่วนนายปิยะ ยอดมณี ซีอีโอ นกแอร์ กล่าวว่า เป้าหมายหลักในการบริหารต้องลดการขาดทุน และจะต้องมีการปรับหรือจัดทัพภายในองค์กรใหม่อย่างเร่งด่วน ปรับปรุงแผนพลิกฟื้นธุรกิจ เช่น การลดดาวน์ไซซ์เครื่องบิน ตามแผนเดิมมองว่าจะถอนเครื่องบินออกไป 7 ลำ อาจต้องทบทวนใหม่
ส่วนแผนใดที่เดินไปแล้วและไปได้ดี ก็จะทำต่อเนื่อง อย่างการเปิดเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เส้นทางใหม่จากสนามบินอู่ตะเภา ไปยังเมืองจีน อาทิ การบินสู่เมืองหยินฉวน,หนานชาง,ไท่หยวน,อู่ฮั่น ที่จะทยอยเปิดทำการบินได้ภายในเดือนนี้
ราคาหุ้นนกแอร์ วันที่ 15 กันยายนปิดที่ 5.20 บาทเพิ่มขึ้น 0.42 บาท หรือ 8.79% มูลค่าซื้อขายหนาแน่น 995 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,297 วันที่ 17 - 20 กันยายน พ.ศ. 2560
แหล่งข่าวระดับสูงจาก บริษัทการบินไทยจำกัด(มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงการเพิ่มทุนรอบใหม่ในสายการบินนกแอร์หลังนายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมแต่งตั้งนายปิยะ ยอดมณี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารมารับตำแหน่งต่อว่าจากกรณีดังกล่าว มีแนวโน้มที่การบินไทยจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไว้ที่ 21% ซึ่งจะมีการนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมบอร์ดการบินไทยในสัปดาห์นี้ ก่อนประชุมผู้ถือหุ้นนกแอร์เพื่อขออนุมัติเพิ่มทุนในวันที่ 20 กันยายนนี้
หลังจากก่อนหน้านั้น การบินไทยอ้างว่าแผนฟื้นฟูธุรกิจของนกแอร์ไม่ชัดเจนจึงเป็นสาเหตุให้ปฏิเสธการเพิ่มทุนครั้งแรก เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และยังมีการว่าจ้างบริษัทหลักทรัพย์ภัทรฯ ที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาทำการศึกษาใน 4 ทางเลือก ถึงผลดีผลเสีย ได้แก่ 1.ถ้าการบินไทยเพิ่มทุนแล้วจะได้อะไร 2.ไม่เพิ่มทุน 3. รักษาสัดส่วนไว้ เพื่อให้มีส่วนร่วมในการโหวตและ4.การขายหุ้นในนกแอร์ทิ้งไปทั้งหมด
อย่างไรก็ดีหลังการบินไทยตัดสินใจเพิ่มทุนรอบใหม่แล้วจะมีการหารือร่วมกันระหว่างฝ่ายบริหารของนกแอร์และการบินไทย เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการบริหาร หรือบอร์ดเอ็กซ์คอมพ์เพื่อร่วมกันบริหารนกแอร์ เพื่อให้นกแอร์ กลับมามีกำไรอีกครั้ง แหล่งข่าวกล่าว
ส่วนการเพิ่มทุนรอบใหม่แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) จะเปิดให้จองซื้อหุ้นและชำระค่าหุ้นในวันที่ 16-20 ตุลาคมนี้ ในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคา 1.50 บาทต่อหุ้น เพื่อหวังระดมทุน 1.7 พันล้านบาท และหากการบินไทยไม่เพิ่มทุนกลุ่มจุฬางกูร ก็พร้อมที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุน และจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของการบินไทยเหลือเพียง 11 % หากไม่เพิ่มทุน
แหล่งข่าวระดับสูงจากคณะกรรมการบริษัทสายการบินนกแอร์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า นกแอร์ ได้เปลี่ยนคณะกรรมการบริหารบริษัทฯใหม่ เพื่อให้สอดรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นที่กลุ่มจุฬางกูรถือหุ้นใหญ่กว่า 40 % จึงแต่งตั้ง นายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มานั่งเป็นประธาน และตั้งบอร์ดใหม่อีก 2 คนคือ นายประเวช องอาจสิทธิกุล อดีตเลขาฯ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) และนางจิราพร เชมนะสิริ กรรมการอิสระ บริษัทไอร่าแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นกรรมการใหม่ เพื่อทดแทนกรรมการเก่าที่ลาออก ได้แก่ นายสมใจนึก เองตระกูล ประธานบอร์ด นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการเงินและบัญชี ตัวแทนจากการบินไทย และ เรืออากาศเอก มนตรี จำเรียง ตัวแทนจากการบินไทยที่ลาออกเพราะเกษียณอายุงาน
ด้านนายพาที สารสิน รองประธานกรรมการบริษัทสายการบินนกแอร์ จำกัด เผยว่า “ผมตัดสินใจลาออกเอง เพราะเห็นว่าถึงเวลาเหมาะสมที่ต้องเปลี่ยน ประกอบกับรอให้นายปิยะ ยอดมณี ยอมรับในตำแหน่งนี้แทน โดยได้แจ้งให้กับทางกลุ่มจุฬางกูร มาหลายเดือนก่อนหน้านี้แล้วว่า เนื่องจากทำมากว่า 14 ปีแล้ว และเห็นว่านกแอร์วันนี้จะมีทิศทางที่ดีมากยืนยันว่าไม่ได้ถูกการบินไทยบีบเพราะการบินไทยไม่ได้มีอำนาจที่จะทำเรื่องนี้ได้
ส่วนนายปิยะ ยอดมณี ซีอีโอ นกแอร์ กล่าวว่า เป้าหมายหลักในการบริหารต้องลดการขาดทุน และจะต้องมีการปรับหรือจัดทัพภายในองค์กรใหม่อย่างเร่งด่วน ปรับปรุงแผนพลิกฟื้นธุรกิจ เช่น การลดดาวน์ไซซ์เครื่องบิน ตามแผนเดิมมองว่าจะถอนเครื่องบินออกไป 7 ลำ อาจต้องทบทวนใหม่
ส่วนแผนใดที่เดินไปแล้วและไปได้ดี ก็จะทำต่อเนื่อง อย่างการเปิดเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เส้นทางใหม่จากสนามบินอู่ตะเภา ไปยังเมืองจีน อาทิ การบินสู่เมืองหยินฉวน,หนานชาง,ไท่หยวน,อู่ฮั่น ที่จะทยอยเปิดทำการบินได้ภายในเดือนนี้
ราคาหุ้นนกแอร์ วันที่ 15 กันยายนปิดที่ 5.20 บาทเพิ่มขึ้น 0.42 บาท หรือ 8.79% มูลค่าซื้อขายหนาแน่น 995 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,297 วันที่ 17 - 20 กันยายน พ.ศ. 2560
