ลุ้นสหรัฐนำเข้าพุ่งทูน่า เฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนยานยนต์รับอานิสงส์

18 ก.ย. 2560 | 10:49 น.
สินค้าไทยลุ้นได้ออร์เดอร์สหรัฐฯเพิ่มหลังเฮอริเคนถล่มเสียหายกว่า 1.6 ล้านล้านบาท มั่นใจหลังเหตุการณ์คลี่คลายสู่ช่วงฟื้นฟูยอดสั่งซื้อทะลัก กลุ่มทูน่า อาหารทะเลกระป๋อง เฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนยานยนต์คาดได้รับอานิสงส์ ขณะอัญมณีคาดยิ่งกระทบหนัก

จากพายุเฮอริเคนเออร์มาที่พัดถล่มรัฐฟลอริดาของสหรัฐอเมริกาได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าราว 1.5-5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (4.95 แสน-1.65 ล้านล้านบาท คำนวณที่ 33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งนับเป็นความรุนแรงครั้งที่ 2 ของปีนี้หลังพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ถล่มรัฐเท็กซัสเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้น

ดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มองในแง่บวกหลังเหตุการณ์คลี่คลายและเข้าสู่โหมดการฟื้นฟูผู้นำเข้าสหรัฐฯจะมีการนำเข้าสินค้าอาหารทะเลกระป๋อง รวมถึงทูน่ากระป๋องเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในพื้นที่ที่ยังอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติและต้องประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้จากตัวเลขใน 7 เดือนแรกปีนี้ ไทยมีการส่งออกทูน่ากระป๋องไปสหรัฐฯซึ่งเป็นตลาดส่งออกทูน่าอันดับ 1 ของไทยแล้ว 7,486 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12%

สอดคล้องกับนายมานะผล ภู่สมบุญ ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ที่กล่าวว่า หลังเหตุการณ์คลี่คลายจะต้องมีการซ่อมแซมหรือก่อสร้างอาคาร หรือบ้านเรือนใหม่จะทำให้มีความต้องการนำเข้าวัสดุก่อสร้าง และเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้น เชื่อไทยจะได้รับอานิสงส์ด้วย ซึ่งคำสั่งซื้อเพิ่มที่ชัดเจนคาดจะเกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนนับจากนี้

“เฟอร์นิเจอร์หลักที่สหรัฐฯนำเข้าจากไทยเป็นพวกโต๊ะอาหาร เตียงนอน ขณะนี้ยอดสั่งซื้อเพิ่มยังไม่ชัดเจนเพราะยังเร็วเกินไป คงต้องรอดูจากงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่เราจะจัดในเดือนมีนาคม 2561”

ขณะที่นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) หรือสภาผู้ส่งออกกล่าวว่า ผลจากภัยธรรมชาติในสหรัฐฯครั้งนี้สินค้าไทยหลายรายการมีโอกาสจะส่งออกไปสหรัฐฯได้เพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าอาหารซึ่งเป็นสินค้าจำเป็น วัสดุก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์เพื่อซ่อมแซมอาคารบ้านเรือน ชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อซ่อมแซมยานพาหนะที่ได้รับความเสียหาย แต่เบื้องต้นผลกระทบจากพายุเฮอริเคนเออร์มาในครั้งนี้ทำให้สินค้าที่ส่งออกไปแล้วและตกค้างที่ท่าเรือคงต้องเร่งดำเนินการจัดส่งในพื้นที่ แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องเส้นทางคมนาคมที่ยังไม่สะดวก หากไม่เพียงพอคงสั่งซื้อหรือนำเข้าเพิ่มต่อไป

TP09-3297-A “กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายการส่งออกไปสหรัฐฯปีนี้ขยายตัวที่ 3.2% มั่นใจว่าทำได้ และมีโอกาสโตได้ถึง 5% เพราะช่วง 7 เดือนแรกขยายตัวแล้ว 7.8% ส่วนภาพรวมส่งออกไทยไปทุกตลาดปีนี้คาดจะขยายตัวได้ที่ 5% (7 เดือนแรกขยายตัวแล้ว 8.2%) ซึ่งขณะนี้ยังมีออร์เดอร์ที่ต้องเร่งส่งมอบในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนเพื่อ
เตรียมไว้จำหน่ายในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ โดยตัวเลขส่งออกเดือนกันยายน-ตุลาคมจะบอกได้ถึงทิศทางที่ชัดเจน”

ส่วนนางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งออก กล่าวว่า คาดหลังเหตุการณ์คลี่คลายผู้นำเข้าสหรัฐฯจะเร่งนำเข้าสินค้าเพื่อทดแทนสินค้าที่ได้รับความเสียหาย และเพื่อตอบสนองความต้อง การที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในหมวดอาหาร เสื้อผ้า และของใช้จำเป็นต่างๆ อย่างไรก็ดีสินค้าไทยที่อาจได้รับผลกระทบจากสหรัฐฯจะนำเข้าลดลงเช่นอัญมณีและเครื่องประดับเพราะถือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1 จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,297 วันที่ 17 - 20 กันยายน พ.ศ. 2560