ภาคเอกชนในหลายธุรกิจ รอลุ้น! “อัตราภาษีสรรพสามิตใหม่” จะเพิ่มขึ้นแค่ไหน? เพื่อนำมาใช้คำนวณต้นทุนภาษีและราคาสินค้า
วันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) จะมีการประกาศ “อัตราภาษีสรรพสามิตใหม่” ของสินค้าทุกกลุ่มที่มีการจัดเก็บภาษีชนิดนี้ เช่น เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, บุหรี่, รถยนต์ และแบตเตอรี่ ซึ่งเมื่อประกาศใช้จะมีผลต่อราคาสินค้าในวันเสาร์ที่ 16 ก.ย. ทันที
นายธนากร คุปตจิตต์ นายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย กล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่ผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องการเห็น คือ พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่กระทรวงการคลังจะประกาศพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) เพื่อนำมาใช้คำนวณต้นทุนภาษีและราคาสินค้า ซึ่งถ้าเป็นสุราที่สั่งนำเข้า ขณะนี้ยังไม่มีผล เพราะกว่าสุราจะมาถึงไทยก็เดือน ม.ค. เมื่อมาถึงจึงจะเสียภาษีอัตราใหม่ ส่วนสุรานำเข้า ที่นำเข้ามาและเสียภาษีสรรพสามิตอัตราเดิม ยังคงจำหน่ายในราคาเดิม
ด้าน นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการรถยนต์รอประกาศอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่เช่นกัน โดยจะรอดูอัตราภาษี ซึ่งยังคงเก็บตามขนาดเครื่องยนต์และการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และรอดูราคาขายปลีก แนะนำว่า ครอบคลุมอุปกรณ์ประดับรถยนต์ด้วยหรือไม่ เช่น วิทยุ
ขณะที่ นายประภาส คงเอียด รองปลัดกระทรวงการคลัง ด้านการจัดเก็บรายได้ ยืนยันกับสถานีข่าว “สปริงนิวส์” ว่า ร่างประกาศพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตทุกรายการ จะมีอัตราภาษีเปลี่ยนแปลงทั้งลดลง และยกเว้นจากเพดานภาษีที่อยู่แนบท้าย พ.ร.บ.สรรพสามิต ฉบับใหม่ เพื่อให้ราคาสินค้าขายปลีกใกล้เคียงกับราคาเดิม
นอกจากนี้ การปรับภาษีสรรพสามิตครั้งนี้ ก็เพื่อปรับวิธีการคำนวณภาษี จากเดิม “สินค้านำเข้า” คำนวณภาษีจากราคานำเข้ารวมค่าระวางเรือและค่าประกันภัยสินค้า หรือ ราคาซีไอเอฟ และเดิม “สินค้าผลิตในประเทศ” คำนวณจากราคาหน้าโรงงาน แต่กฎหมายใหม่กำหนดให้สินค้านำเข้าและผลิตในประเทศ ใช้ราคาขายปลีกแนะนำมาคำนวณภาษี ซึ่งช่วยแก้ปัญหาการอ้างอิงราคาซีไอเอฟต่ำกว่าปกติ ทำให้รัฐเก็บภาษีได้น้อยลง